นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในตลาดน้ำมันโลก จากกรณีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกและบ่อน้ำมันของซาอุฯ ถูกโดรนโจมตี ว่า ได้ส่งผลกระทบทำให้ราคาน้ำมันในตลาดปรับเพิ่มขึ้นล่าสุดน้ำมันดิบเบรนต์ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 66 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปัจจุบันได้ทำการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Hedging) ไว้ในระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังครอบคลุมความเสี่ยงราคาน้ำมันในระดับปัจจุบัน
ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับปีก่อนจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายทำให้การบินไทยมากขึ้น ซึ่งการบินไทย อาจจะจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง (Fuel surcharge) เพื่อลดภาระต้นทุนต่อไป แต่ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ได้กระทบเฉพาะการบินไทย แต่ยังกระทบคู่แข่งในอุตสาหกรรมการบินทั้งระบบด้วย
นายสุเมธ กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 การบินไทยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบินไทยรุกตลาดนอกฤดูท่องเที่ยวจำนวนมากแต่ทำให้กำไรต่อหน่วย (Yield) ลดลง ส่วนไตรมาสที่ 4 นั้นไม่กังวลเรื่องปริมาณผู้โดยสารและเส้นทางการบิน เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยว แต่ยอมรับว่าธุรกิจมีความเสี่ยง 2 ด้าน คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าทำให้รายได้ปรับตัวลดลง และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนแผนการจัดซื้อเครื่องบิน 38 ลำ วงเงิน 1.56 แสนล้านบาท นั้น การบินไทยจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย พิจารณาในวันที่ 24 ก.ย. นี้ จากนั้นจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติล่าช้าออกไปเป็นเดือนต.ค. จากเดิมที่จะเสนอในเดือนนี้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ