เริ่มพรุ่งนี้! 23ก.ย.ดีเดย์แจกเงิน1,000 “ชิมช็อปใช้” เปิด5ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงิน





 
กรมบัญชีกลางเผยร้านค้าร่วมโครงการ ‘ชิมช้อปใช้’ 1.5 แสนราย เป็นรายใหม่ 70,000 แห่ง ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีแอปฯ ถุงเงินเดิม 50,000 แห่ง แนะ 5 ขั้นตอน ประชาชนลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาท ผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่ 23 ก.ย.- 15 พ.ย. 2562 วันละ 1 ล้านคน จนครบ 10 ล้านราย

กรมบัญชีกลางเปิดเผยยอดจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” หลังจากปิดรับสมัครในวันที่ 20 ก.ย.62 พบว่าร้านค้าสนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการจำนวนมาก ยอดสมัครสูงกว่า 70,000 ร้านค้า เกินเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนด พร้อมเดินหน้าเตรียมความพร้อม ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ การลงทะเบียนและดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง แก่ประชาชนที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิในวันที่ 23 ก.ย. 2562 นี้  

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ซึ่งได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้า เข้าร่วมมาตรการฯ ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2562 และได้ปิดรับสมัครในวันที่ 20 ก.ย. 2562 สรุปยอดผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการทั่วประเทศ ได้ว่า มีจำนวนกว่า 70,000 ร้านค้า ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยแบ่งเป็น  

  • ร้านประเภทชิม จำนวนกว่า 30,000 ร้านค้า
  • ประเภทช้อป จำนวนกว่า 30,000 ร้านค้า
  • ประเภทใช้ จำนวนกว่า 3,000 ร้านค้า 

เมื่อรวมกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีแอปฯ ถุงเงินเดิมอยู่แล้วกว่า 50,000 ร้านค้า ซึ่ง ธนาคารกรุงไทยได้อัพเดท App ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ให้อัตโนมัติ และร้านค้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC (เครื่องรูดบัตร) อีกกว่า 30,000 ร้านค้า จะมีร้านค้าที่เข้ามาตรการฯ ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 150,000 ร้านค้า 

“ใกล้ถึงวันที่เปิดให้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาท ตามมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาลแล้ว โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตรการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.- 15 พ.ย. 2562 โดยรับลงทะเบียน 1 ล้านคน/วัน ต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะครบ 10 ล้านคน” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว

5 ขั้นตอน ลงทะเบียน-ใช้แอปฯ เป๋าตังค์ รับเงินชิม ช้อป ใช้ 1,000 บาท-เงินคืน 15%

อธิบดีกรมบัญชีกลางยังได้เน้นย้ำในเรื่องของเงื่อนไขและวิธีการรับสิทธิอีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้เตรียมตัวลงทะเบียน ดังนี้

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต และมี e-mail ของตัวเอง 

2. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ด้วยเบอร์โทรศัพท์และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และต้องเลือก 1 จังหวัดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว โดยเป็นจังหวัดใดก็ได้ที่ไม่ซ้ำกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

3. ผู้ที่ลงทะเบียนได้แล้ว รอรับ SMS หรือ e-mail ผลการลงทะเบียนรับสิทธิภายใน 3 วันทำการ  

4. จากนั้น ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง เพื่อใช้สิทธิ์ผ่าน G-Wallet โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย และเมื่อลงทะเบียนสำเร็จก็จะได้รับเงิน 1,000 บาท (G-Wallet 1) โดยไม่ได้รับเป็นเงินสด แต่เป็นจำนวนเงินที่จะสามารถใช้จ่ายผ่าน App เท่านั้น โดยเมื่อได้รับสิทธิแล้วจะต้องเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ ภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS (หากเกินเวลาเงินจะถูกดึงกลับ) และหากมีการเริ่มใช้สิทธิแล้วจะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62 

5. นอกจากการรับเงิน 1,000 บาท (G-Wallet 1) แล้ว ผู้ที่ลงทะเบียนยังสามารถรับเงินคืน (Cash Back) ได้อีกด้วย โดยหากมีการเติมเงินส่วนตัวเพื่อใช้จ่ายผ่าน App เพิ่มเติม (G-Wallet 2) รัฐบาลจะชดเชยเงินคืนให้เป็นจำนวนเท่ากับร้อยละ 15 ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน เช่น หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,000 บาท จะได้รับเงินคืน 150 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท จะได้รับเงินคืน 225 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 30,000 บาท จะได้รับเงินคืน 4,500 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินคืนที่สูงที่สุดที่จะได้รับ

สำหรับประชาชนที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิสามารถเข้าไปตรวจสอบและค้นหาตำแหน่งพิกัดของสถานประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรฯ ที่ได้ปักหมุดไว้ทั่วประเทศเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ทางแอปฯ เป๋าตัง และ เว็บไซต์ www.ktb.co.th ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ได้เตรียมความพร้อม ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือแก่ประชาชนที่มีปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลการลงทะเบียนประชาชน หรือการรับสิทธิ์แอปฯ เป๋าตัง โดยสามารถติดต่อสอบถามและขอคำแนะนำได้ด้วยตนเองในวัน เวลา ราชการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ call center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 กด 7

ข่าวจาก voicetv

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: