ใน1เดือนต้องได้ข้อสรุป!! ออกกม.เพิ่มความเร็วถนน4เลน-เปิดรถวิ่ง120กม./ชม.-ห้าม10ล้อวิ่งเข้ากทม.





นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ ที่กระทรวงคมนาคมว่า ที่ประชุมได้พิจารณานโยบายปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร(กม.)ต่อชั่วโมง(ชม.) เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. ซึ่งผลการทบทวนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราความเร็วบนทางหลวง ประกอบด้วย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และพ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 พบว่า กฎหมายดังกล่าวมีข้อกำหนดที่ทับซ้อนกัน โดยพ.ร.บ.จราจรทางบก บังคับใช้กฎหมายในเชิงพื้นที่ ในขณะที่ พ.ร.บ.ทางหลวง บังคับใช้เชิงลักษณะชนิดของทาง ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ปรับแก้กฎกระทรวงในการกำหนดอัตราความเร็วสูงสุดของรถยนต์ตามพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ให้สอดคล้องกัน โดยใช้ประเภทของถนนเป็นเกณฑ์

“การแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว เช่น ถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องจราจรขึ้นไป ซึ่งแบ่งทิศทางการจราจรแยกออกจากกันและมีเกาะกลางหรือกำแพงกั้นเป็นความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. ควรกำหนดอัตราความเร็วต่ำสุดที่อนุญาตให้ใช้ในช่องจราจรขวาสุด รวมทั้งกำหนดบทลงโทษผู้ขับขี่ที่ใช้ช่องจราจรขวาสุดที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 80 กม./ชม. เป็นต้น”นายศักดิ์สยามกล่าว

นายศักดิสยามกล่าวว่า ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกัน เพื่อแก้ไขการใช้กฎหมายความเร็วให้สอดคล้องกันทั้ง 2 ฉบับ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอหน่วยงานให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎกระทรวงความเร็วก่อนเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) โดยการปรับความเร็วรถจะต้องพิจารณาประเภทของถน และมาตรฐานความปลอดภัยด้วยการจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนน ซึ่งกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องสินบนนำจับ ถนนใดมีความพร้อมจะสามารถดำเนินการได้ก่อน

“ในเรื่องนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จะเป็นผู้ประสาน สตช.ดำเนินการในรายละเอียดเพื่อออกเป็นร่างกฎกระทรวงก่อน หลังจากนั้นจึงนำเข้าสู่ที่ประชุม คจร.ภายใน 1 เดือน ก่อนประกาศออกเป็นกฎหมายต่อไป”นายศักดิ์สยามกล่าว

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณานโยบายปรับเวลาการอนุญาตให้รถยนต์บรรทุกขนาดตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ตั้งแต่เวลา 24.00 – 04.00 น.ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้ทบทวนหรือชะลอนโยบายห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้ากรุงเทพฯและปริมณฑลบางเวลา โดยเสนอว่า ปัญหาการจราจรของกรุงเทพฯ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยและรถบรรทุกเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากในแต่ละวันมีรถบรรทุกวิ่งเข้า-ออกพื้นที่กรุงเทพฯ เฉพาะช่วงเวลาเพียงวันละ 12 ชม.เท่านั้น ดังนั้น การขยายระยะเวลาห้ามรถบรรทุกเข้าเมืองเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุแต่จะมีผลกระทบต่อระบบโลจิสติกส์และระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง การขนส่งจะต้องเชื่อมต่อกันทุกระบบจะเกิดปัญหาลูกโซ่ ปัญหาขาดแคลนแรงาน ผลกระทบต่อการพักผ่อนเวลากลางคืนของชาวกรุงเทพฯ

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ทั้งนี้ทางสหพันธ์ฯมีข้อเสนอแนะ คือ ทบทวนหรือชะลอนโยบายอนุญาตให้รถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อ วิ่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเวลา 24.00 – 04.00 น. ,ควรประชุมกับเอกชนผู้เกี่ยวข้องให้รอบด้านเพื่อความรอบคอบ ,ให้ สนข.ร่วมกับสถาบันการศึกษาทำการศึกษารายละเอียดผลกระทบด้านโลจิสติกส์ให้รอบคอบ ,เลื่อนเวลาทำงานและเลิกงานของราชการและรัฐวิสาหกิจให้เลื่อมกัน เพื่อกระจายปริมาณรถยนต์และลดความแออัดบนถนน ,ย้ายโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมออกนอกพื้นที่เมือง ,ยกเลิกการใช้ประโยชนท่าเรือกรุงเทพ และผลักดันการพัฒนาท่าเรือบก ,สร้างจุดพักรถบรรทุก สถานีขนส่งสินค้ารถบรรทุก เพื่อพักสินค้าและเปลี่ยนถ่ายสินค้ารถใหญ่ไปใช้รถเล็ก

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเกิดความชัดเจน ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเรียกร้องดังกล่าวไปปฏิบัติ โดยกำหนดแผนปฏิบัติการให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ซึ่งมาตรการทั้งหมดต้องตอบโจทย์เรื่องการจราจร ตันทุนการก่อสร้าง ขอดูข้อกฎหมายของกทม. ประกอบด้วย พิจารณาประโยชน์และผลกระทบต่อภาคเอกชนเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการเยียวยา

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: