พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมข้าราชการระดับสูง และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชน ในกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2563 ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางได้กล่าวทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมถามว่า ใครเป็นคนทำรูปให้ตนเอง เมื่อมองเห็นรูปที่ทางสำนักโฆษกนำมาเป็นแบ็กดรอปของกิจกรรมซึ่งเป็นหน้าของนายกรัฐมนตรีสวมชุดซานตาคลอส ก่อนจะร่วมรับประทานอาหาร และบอกว่า อาหารวันนี้อร่อย ซึ่งนอกจากจะมีการจัดอาหารบุฟเฟต์ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ไก่ย่าง ส้มตำ เป็ดย่าง และเครื่องดื่มอื่นๆ สำหรับสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงานรับประทานร่วมกันแล้วยังจะมีกิจกรรมจับสลากเพื่อลุ้นรางวัลอีกในช่วงท้ายอีกด้วย
บอกต่างชาติ รัฐบาล 18 พรรคไม่ยุ่ง คนไทยทำงานได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้เป็นโอกาสพิเศษอีกครั้ง อย่างน้อยจะเจอกันปีละครั้ง ปีนี้เป็นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในเทศกาลปีใหม่ นี่คือคนไทย เฉลิมฉลองได้ทุกเทศกาล ทั้งปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส เราก็ฉลอง นี่คือประเทศไทย ประเทศไทยมีความหลากหลายก็เหมือนกับวันนี้ รัฐบาลก็มาหลายรัฐบาลเป็นรัฐบาลแรกที่มีพรรคการเมืองร่วมถึง 18 พรรค และประเทศไทยไม่เคยมีเท่านี้มาก่อน ต่างประเทศก็ถามตนเอง ว่ามี 18 พรรคแล้วไม่ยุ่งตายหรือ ซึ่งตนตอบว่าไม่เป็นไร คนไทยด้วยกันทำงานได้ เพราะมีจุดประสงค์มุ่งหมายเดียวกันคือทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนของเราเป็นหลัก
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เราทุกคนต่างก็ทราบดีว่า ปัญหาอยู่ที่ไหนบ้าง บางปัญหาบางอย่างก็ได้รับการแก้ไขมาแล้วบางอย่างก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือบางอย่างก็แก้ไขไปแล้ว การพบกันในวันนี้ถือว่าเป็นการสร้างความเข้าใจสิ่งที่สำคัญที่สุดสื่อทำอย่างไรคนไทยจะทำให้รู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบและว่าจะยากดีมีจนอย่างไร หากทั้งสองอย่างนี้หายไปทุก ทุกอย่างก็จะแย่ไปทั้งหมด ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบ จิตสำนึกที่ดี จะทำอะไรก็ตามมีทั้งบวก มีลบเสมอ จะทำจะพูดจะคิดอะไรออกมาดังๆก็มีปัญหาไปหมด ซึ่งผมอยากจะบอกว่าในฐานะของรัฐบาลว่า ทุกคนทำงานเต็มที่ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จำเป็นต้องกำหนดกรอบในเรื่องของการจัดทำโครงการงบประมาณต่างๆให้เกิดความเหมาะสม และกติกา กฎหมาย พ.ร.บ.ต่างๆก็เยอะแยะที่เกิดขึ้นมาใหม่ อยากให้ไปดูว่ามีกฎหมายอะไรบ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีในวันคริสต์มาสที่จะมาถึงในวันนี้ช่วงนี้ ตนอยากให้ทุกคนช่วยกันนำเสนอข่าว ที่เป็นบวกหากนำเสนอแต่แง่ลบก็ไม่ได้ปัญหาก็จะเกิดขึ้น ทุกคนก็ทราบดีในอดีตที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ทำให้ตนต้องมาอยู่ตรงนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นอีก แต่ตนหมายความว่าคนทุกคนต้องเอาอดีตมาทำปัจจุบัน สู่อนาคตโดยพื้นฐานของบริบทความเป็นประชาชนไทย ตนรู้ว่าสื่อทุกคนตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตน ที่ต้องเป็นสื่อที่มีจรรยาบรรณ และเป็นสื่อสารที่ดี แต่ต้องมองเหมือนตนมองโดยต้องเอาประเทศชาติเป็นหลัก อะไรก็ตามที่ประเทศชาติจะเสียหาย ก็ให้เบาสักนิดนึง เพราะวันนี้เราอยู่ในขั้นที่เรียกว่าการเตรียมการเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งสถานการณ์ใดสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก เมื่อคืนตนก็ฟังรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าว ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ตอนนี้ และตนกำลังให้ปรับการสื่อสาร ทำยังไงให้ทุกคนจะรู้ว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง
บางทีพูดไปแล้วก็จำไม่ได้ ไม่ฟัง ก็จะกำชับให้มีการนำเสนอข่าวให้เป็นเรื่องไป ไม่อย่างนั้นแถลงข่าวเป็นวันนี้ต่อไปก็ลืมไม่มีคนฟังแล้ว ขณะเดียวกันต้องสอนให้คนเข้มแข็งและรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเองไปด้วย ถ้าหากเข้มแข็งโดยโดยรอรัฐบาลอย่างเดียว ไม่มีวันเข้มแข็ง ตนฝากไว้ด้วย
ขอสื่ออโหสิกรรมพูดจาไม่ไพเราะ ยันไม่ต้องการอำนาจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นห่วงทุกคน คนก็ไปพักผ่อนไปต่างจังหวัดขอให้มีความสุขเดินทางปลอดภัยใส่หมวกกันน็อคให้ดีจนไม่อยากให้มีตายหรือเจ็บ ซึ่งที่ตนพูดไว้ให้เป็นศูนย์นั้นเป็นสิ่งที่คาดหวัง ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องเอาไว้เป็นเป้าหมาย ต้องทำให้สถิติอุบัติเหตุลดลงทั้งปี ไม่ใช่ช่วงปีใหม่อย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ตนขอบคุณทุกคน วันนี้มาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง ซึ่งสิ่งใดก็ตามที่ตนทำให้ทุกคนไม่สบายใจหรือพูดจาไม่ไพเราะก็ขออโหสิกรรมให้ด้วย ต้องเคารพสื่อฯ สื่อต้องไปซื้อที่มีจรรยาบรรณรู้อยู่แล้วว่าอะไรคือจรรยาบรรณ อะไรที่ขัดเยอะมากๆ บางเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ก็อย่าไปขยายให้มาก ขอให้มองข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และตนเองเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร ที่ต้องทำต่อเพราะอะไร ยืนยันว่าตนไม่ต้องการอำนาจหรือผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ด้วยฝีมือของพวกเรา
บ่นปวดหัวต้องกินยานอนหลับ ไม่ใช่คนใจร้าย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเป็นคนที่ละเอียดในการทำงาน และจุกจิกในการทำงานบ้าง แต่เป็นนิสัยของตนเอง ทำงานมาตลอดชีวิตของตนแบบนี้ ลงในรายละเอียดทั้งหมด จนบางครั้งก็ปวดหัว เมื่อคืนก็ปวดหัวมากต้องกินยานอนต้องหลับ แต่ตนเป็นคนใจเย็น ไม่ใช่คนใจร้ายแบบเดิม แต่ก็ยังดุดันเหมือนเดิม อะไรที่ไม่ถูกต้องตนก็ให้ไม่ได้ แต่อะไรที่ถูกต้องยอมรับกันทั้งหมดตนก็ให้ได้นะ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และการเมืองข้าราชการและลูกจ้างพนักงานส่วนก็เห็นใจทุกครั้ง ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ดูแลพวกเขาให้ได้มากขึ้น
“สิ่งที่สิ่งสำคัญที่สุดการเกื้อหนุนเศรษฐกิจคือความมั่นคงเสถียรภาพทางการเมือง ใครพูดกันไปกันมาตีกันอยู่อย่างนี้ มองว่าไม่เกิดประโยชน์ ข่าวตีไปมาเด้งไปเด้งมาอยู่อย่างนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ผมก็มองว่าวันนี้เข้ามาแก้ปัญหาอะไรแล้วบ้าง อะไรที่แก้แล้วก็ทำต่อไปอย่ามามองว่าแพจะแตกหรือล่ม ผมยืนยันว่าไม่มีล่ม ผมอยู่ตรงนี้ไม่มีล่มแต่ต้องอยู่ให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
แจงรัฐบาลคุมใช้งบฯ มา 5 ปี เผยชอบตื่นกลางดึกบ่อย เหตุ ศก. ไม่รู้สั่งใคร
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ครม.นี้เป็นของคนทั้งประเทศไม่ใช่ กทม.ของพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือของคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องดูแลประชาชน 68 ล้านคนให้มีความสุข และยืนยันว่ารัฐบาล ‘ไม่ตูดขาด’ ขออย่าวิจารณ์ ซึ่งรัฐบาลพยายามคุมการใช้งบประมาณได้แบบนี้ใน 5 ปีที่ผ่านมาตนมองว่า ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินต้องบริหารให้ได้ พออะไรที่ทำแล้วไม่ได้ผลก็ต้องเลือกคำสั่งมาตรการใหม่มาทำ ทั้งนี้ฝากฝ่ายปกครองก่อนจะนอนหรือตื่นขึ้นมาขอให้นึกถึงประชาชน
“ผมชอบตื่นกลางดึกบ่อยๆ เพราะตื่นมาแล้วก็คิดไม่เคยคิดเรื่องอื่นคิด คิดแต่เรื่องพวกเราทุกคน เรื่องการจะทำความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ผมไม่รู้จะไปสั่งใครตอนนั้น ก็เลยนอนไม่หลับ ไม่ใช่นายกฯทำงานวันอังคารวันเดียว รัฐบาลทำงานทุกวัน ผมคิดว่าทุกคนก็เป็นเหมือน ครม.จะหยุดนิ่งอะไรไม่ได้ ถ้าบอกว่าเศรษฐกิจชะลอตัวแล้วอยู่เฉยๆ ไม่เปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาอะไรได้ ที่ผ่านมาผมได้มอบหมายหน่วยงานต่างประเทศทำหน้าที่เป็นเสมือนเซลส์แมนขายของไปด้วย แต่ก็มีข้อมูลทั้งหมดให้ชาวบ้านรู้ ในการเจรจาในระดับผู้นำและระดับรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมปวดหัวพูดเยอะคิดเยอะ ต้องพูดอย่างระมัดระวังการพูด แบบนี้เครียด เผื่อหลุดหยุดไม่ได้ เพราะมีคนตั้งแท่นรอเขียนอยู่แล้ว”
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวต่อ ขอให้โอกาสวันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ตนขอถือโอกาสนี้เป็นผู้แทนของรัฐบาล ผู้แทน ครม. กล่าวคำอวยพรให้กับสื่อมวลชนมีความสุขความเจริญคิดสิ่งใดหวังสิ่งใดที่ถูกต้องสมควรขอให้ประสบความสำเร็จทุกคน ใครที่ทำให้ประเทศชาติประชาชนมากๆ ขอให้กุศลหนุนนำไปสู่ความสุขในวันข้างหน้า และความอวยพรคนไทยทุกคนเราไม่รักกันแล้วใครจะรัก ทุกอย่างอยู่ที่สองมือของเรา อย่างที่ตนบอก2 มือ 1 หัวใจทำอะไรได้ตั้งมากมาย หากไม่รวมพลังก็จะทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ตนเป็นเพียงผู้นำพาหรือผู้ดูแลอำนวยความสะดวกและกติกากฎเกณฑ์ต่างๆ บางทีก็คิดใหม่ทำใหม่อยู่เรื่อยเหมือนกัน กลับไปสู่ที่เดิม
‘จุรินทร์ – อนุทิน’ ร้องเพลงรางวัลแด่คนช่างฝันให้นายกฯ
โดยหลังจากนายกรัฐมนตรี กล่าวคำอวยพรแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรี ได้ร้องเพลง “ศรัทธา” ของศิลปิน “หิน-เหล็ก-ไฟ” ตามด้วยเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ของศิลปิน ธีร์ ไชยเดช โดยนายกฯ ได้เรียกนายอนุทิน และนายจุรินทร์ มาได้ร่วมร้องเพลงด้วย จากนั้นนายอนุทิน แลนายจุรินทร์ ร้องเพลง”รางวัลแด่คนช่างฝัน’ของศิลปิน จรัล มโนเพ็ชร โดยนายอนุทิน กล่าวว่า “ผมสองคนขอมอบเพลงนี้ให้นายกฯ” ในช่วงนี้นายกฯ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “หวานซะไม่มี”
จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมร้องพร้อมโอบหลังนายอนุทิน และนายจุรินทร์ ทั้งนี้เมื่อถึงท่อนที่ว่า “เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน” นายจุรินทร์ และนายอนุทินชี้ไปที่นายกฯ ซึ่งนายกฯ มีอาการเขินเล็กน้อย
จากนั้นได้ร่วมร้องเพลง “จับมือกันไว้” ของศิลปิน เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ โดยในท่อนที่ร้องว่า “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เหมือนมันไม่มีวันพรากไป” นายกฯ พร้อมด้วยนายจุรินทร์และนายอนุทินได้หันมาจับมือกัน โดยภายหลังจบเพลงนายกฯ กล่าวว่า “ไม่ใช่แค่เราที่จับมือ อยู่ที่พวกเราทุกคนด้วยต้องร่วมมือไปด้วยกันเป้าหมายถึงจะสำเร็จ”
จากนั้นคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมร้องเพลง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ของศิลปิน ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ พร้อมเชิญชวนให้นายกรัฐมนตรีออกมาร่วมร้องเพลงดังกล่าว ก่อนนายกฯ กล่าวว่า “ขอบคุณมาก สดชื่นไหม คณะโฆษกฯ”
ข่าวจาก voicetv, Wassana Nanuam
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ