12 ก.พ. 63 – รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง รับหนังสือจากประธานสภาเครือข่ายประชาชนภาคอีสาน สอส. สภาประชาชน 4 ภาค ที่เรียกร้องฝ่ายค้านร่วมมือรัฐบาล โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 เพื่อให้มีงบฯ ใช้จ่ายในการบริหารราชการแผ่นดิน
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง รับหนังสือจาก นายประภาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชนภาคอีสาน สอส. สภาประชาชน 4 ภาค และคณะ ขอให้ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง แจ้งที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทราบถึงความสำคัญและความจำเป็นในการโหวตลงมติให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในการประชุมสภาฯ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายในการบริหารราชการแผ่นดิน ให้ประชาชนทุกภาคส่วนของประเทศได้รับงบประมาณช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาตามความต้องการของประชาชนที่รอรับการช่วยเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ ปัญหาภัยแล้ง แหล่งน้ำทำการเกษตรไม่เพียงพอ และปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศในด้านต่างๆ ด้วย เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน
โดยนายประภาส ได้เรียกร้องให้ฝ่ายค้าน ให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือกับฝ่ายรัฐบาล ร่วมโหวตลงมติให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายงบฯ ปี 63 เป็นลำดับแรก ก่อนให้ความสำคัญกับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในด้านต่างๆ ว่ามีความสุจริตโปร่งใสหรือไม่
ด้าน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่าจะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งต่อวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านทราบต่อไป พร้อมกล่าวว่า การผลักดันและเร่งรัด การผ่านร่างกฎหมายงบฯ ปี63 เป็นภารกิจที่สภาฯ ต้องพยายามเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายในการแก้ปัญหาของประเทศ ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านเป็นการดำเนินการตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ด้านฝ่ายรัฐบาลโดยรัฐมนตรีมีหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ ส่วนการจะเชื่อข้อมูลของฝ่ายใดถือเป็นวิจารณญาณของแต่ละบุคคล พร้อมย้ำการยอมรับความเห็นต่างในสังคม เป็นหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
ข่าวจาก วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ