อึ้งผลตรวจ 76ชีวิตจากอินโดถึงไทย "ติดโควิด42คน" ส่งรักษาด่วน เผยคลิปชัด ไม่ป้องกันตัว

พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มชาวไทยมุสลิมที่เดินทางกลับมาจากประเทศอินโดนีเซีย กว่า 40 ราย จาก 76 ราย ในขณะที่มีรายงานว่าจังหวัดสงขลา พบผู้ติดเชื้อ 10 ราย จากที่กักตัวทั้งหมด 22 ราย นำเข้ากระบวนการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว

เมื่อวันที่ 8 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกลุ่มชาวไทยมุสลิม ที่เดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 6 เมษายน ที่ผ่านมาด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ จากกรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย มายังท่าอากาศยานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เดิมมีจำนวน 100 คน แต่เดินทางกลับมาจำนวน 76 คน ส่วนอีก 24 คน ไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองก่อนขึ้นเครื่อง

ล่าสุด จำนวน 76 คน มีข้อมูลชัดเจน จากการตรวจคัดกรอง แยกเป็น ชาวไทยมุสลิมที่เดินทางกลับจำนวน 76 คน และลูกเรือ 35 คน รวม 111 คน จังหวัดสงขลา 22 คน ผู้มีอาการเก็บตัวอย่างไปตรวจ 11 ตัวอย่าง พบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 10 ราย

จังหวัดนราธิวาส ผู้เดินทาง 7 คน เก็บตัวอย่าง 5 ราย พบติดเชื้อ 2 ราย จังหวัดปัตตานี ผู้เดินทาง 13 ราย เก็บตัวอย่าง 8 ราย พบติดเชื้อ 7 ราย จังหวัดยะลา ผู้เดินทาง 8 ราย เก็บตัวอย่าง 7 ราย พบติดเชื้อ 7 ราย สตูล ผู้เดินทาง 26 ราย เก็บตัวอย่าง 21 ราย พบติดเชื้อ 16 ราย

ส่วนนักบินและลูกเรือ 35 รายนั้น ไม่ได้มีอาการต้องสงสัยแต่อย่างใด รวมผู้เดินทางในครั้งนี้ 111 คน เก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจ 52 คน พบติดเชื้อรวม 42 คน คิดเป็นร้อยละ 80.7

โดยทั้งหมดได้ถูกนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในแต่ละพื้นที่แล้ว และในรายที่อยู่ระหว่างกักตัวนั้น ก็ยังต้องเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง

สำหรับสถานที่กักตัวของจังหวัดสงขลา ที่อาคารที่พักนักกีฬา สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่นั้น จากการสังเกตการณ์ในระยะที่กำหนด พบผู้กักตัวออกมาใช้ชีวิตปกติ แต่มีเสียงไอเป็นระยะ

นอกจากนั้นยังมีคลิปที่ถูกอ้างว่า ขณะที่ชาวไทยมุสลิมกลุ่มนี้อยู่ระหว่างรอเดินทางกลับ ที่บ้านหลังหนึ่ง ในกรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งพบว่า มีการใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่ได้เว้นระยะห่างทางสังคม มีการดื่มน้ำชาและรับประทานอาหารในสำรับเดียวกัน ทั้งที่ทางสำนักจุฬาราชมนตรี ได้มีการออกหนังสือข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยที่ไม่ขัดกับหลักศาสนามาเป็นระยะก็ตาม

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์, สื่อเถื่อน

Tag ที่เกี่ยวข้อง

โควิด-19

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

กทม.พบ ‘พิษสุนัขบ้า’ ซอยอ่อนนุช 86 เตือนประชาชนในรัศมี 5 กม. เลี่ยงใกล้สัตว์จรจัด

Advertisement 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ออกแจ้งเตือนถึงประชาชนว่า มีการ พบสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ซอยอ่อนนุช 86 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จึงขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวและชุมชนโดยรอบในรัศมี 5 กิโลเมตร ได้แก่ แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ หากถูกกัด หรือสัมผัสสัตว์สงสัยโรคพิษสุนัขบ้า ให้ล้างแผลด้วยสบู่และรีบพบแพทย์ เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทันที หากพบสุนัขหรือแมวที่เสียชีวิต หรือมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัยโรคพิษสุนัขบ้า (กระวนกระวาย ไม่อยู่นิ่ง กัดทุกอย่างที่ขวางหน้า ตัวแข็ง น้ำลายไหล ลิ้นห้อย) โปรดโทรแจ้งกลุ่มควบคุมและพักพิงสุนัข (ประเวศ) 0-2328-7460 และ 0-2328-7355 Advertisement FacebookFacebookXTwitterLINELine

admin111 admin111

25 November 2567

นบข. เคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท

Advertisement นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุม นบข.มีมติเห็นชอบตามที่อนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตเสนอมา โดยชาวนาจะได้รับเงินในโครงการเพิ่มผลิตเกษตรกรกลุ่มชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรรายย่อย ซึ่งมีที่ดินทำกินไม่เกิน 10 ไร่ ที่มีอยู่จำนวนมาก ประมาณ 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาทเศษ พร้อมกับระบุว่า มีกรอบวงเงินเดิมที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีอยู่ 2.9 หมื่นล้านบาท แต่จะต้องเพิ่มงบฯอีกประมาณ 9 พันล้านบาท ก็ยังสามารถบริหารจัดการได้อยู่ โดยจะต้องขออนุมัติจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ยังระบุอีกว่า การจ่ายเงินในครั้งนี้ เป็นการจ่ายเงินเฉพาะครั้ง โดยต้องดูด้วยว่าจะต้องมีการประเมินว่าจะสามารถเพิ่มผลผลิตในระยะยาวได้อย่างไร ซึ่งเป็นความเห็นในที่ประชุม ซึ่งหวังว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาในสัปดาห์นี้ 29 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน และแพ็กเกจเดียวกับโครงการสินเชื่อชะลอการขาย นางนฤมลยังเปิดเผยอีกว่า ที่ประชุม […]

admin111 admin111

25 November 2567

ห้างดังย่านลาดพร้าว แจงปมส้วมแตก เศษสีเหลืองไม่ใช่อุจจาระ

Advertisement จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีลักษณะคล้ายส้วมภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าวเกิดแตก ทำให้อุจจาระไหลกระจายเต็มพื้น ล่าสุดเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ได้เดินทางมายังห้างสรรพสินค้าดังกล่าว และได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ บริเวณชั้นสามโซนแฟชั่น ติดกับประตูทางเข้าลานจอดรถ โดย ณ เวลานี้ห้างกำลังเปิด จึงได้เจอกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กำลังเข้ามาควบคุมดูแลพื้นที่ที่เกิดเหตุพร้อมมีการประสานงานกันอยู่ ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้ากำลังทยอยเปิดร้านตามปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า จากข่าวที่สื่อลงไปกันว่าห้างมีการส้วมแตกนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมอธิบายว่า ท่อที่แตกคือท่อน้ำทิ้ง จากชั้น 4 ซึ่งเป็นโซนร้านอาหารและครัว เศษก้อนสีเหลืองที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นอุจจาระนั้นก็คือก้อนไขมันจากร้านอาหาร ซึ่งเป็นของเสีย ทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เช่นเดียวกับอุจจาระ แต่ยืนยันว่าท่อที่แตกไม่ใช่ท่อส้วมอุจจาระอย่างที่เป็นข่าว จึงขอวิงวอนให้ทุกสื่อช่วยแก้ข่าวที่ลงไปว่าห้างท่อส้วมแตก เนื่องจากตอนนี้ทางห้างได้รับผลกระทบอย่างมากจากการลงข่าวที่ไม่เป็นความจริง พร้อมเตรียมดำเนินคดีกับสื่อที่ลงข้อมูลเท็จไป ทั้งนี้ กำลังติดต่อประสานงานว่าสามารถให้สื่อถ่ายรูปได้หรือไม่ ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่จาก กทม.ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ด้านเจ้าหน้าที่ของห้างก็ได้อธิบายถึงส่วนด้านความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังท่อน้ำทิ้งแตก โดยร้านเสื้อผ้าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจะได้รับผลกระทบทั้งหมด 8 ร้าน แต่ความเสียหายมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับระยะความห่างจากจุดที่ท่อแตก ร้านที่อยู่ใกล้ก็จะได้รับความเสียหายมากหน่อย แต่ยังคงยืนยันว่าไม่ใช่อุจจาระอย่างที่เป็นข่าวไป เพราะหลังจากท่อแตกคนก็ยังเดินเหยียบน้ำที่แตกตามปกติ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของห้างมีการประสานงานเข้าชาร์จอย่างรวดเร็ว ในเวลาประมาณ […]

arar

25 November 2567

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ

- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ