เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ลงนาม เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นไปด้วยความรอบคอบ และมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 5/2563 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563
ข้อ 2 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) เพื่อทำหน้าที่ในการเข้าร่วมประชุมเพื่อให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะ การป้องกัน และแก้ไขปัญหาของภาคธุรกิจเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้
1.เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน
2.ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการ
3.อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นกรรมการ
4.ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เป็นกรรมการ
5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
6.ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นกรรมการ
7.ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
8.ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
9.ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นกรรมการ
10.ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
11.ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เป็นกรรมการ
12.ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
13.ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นกรรมการ
14.ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
15.นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นเลขานุการ
16.นายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่าในวันจันทร์ที่ 13 เม.ย. เวลา 09.30 น. คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนฯ จะประชุมครั้งแรกที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหารือรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่อมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 3 และแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิผล รวมถึงหารือข้อเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติมเพื่อการปรับตัวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ