วันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่นายประสาร ศรีสุภนันต์ นักศึกษาปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ม.รามคำแหง เป็นจำเลย เรื่องละเมิด พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ฯ จากกรณี รศ.ดร.ภูริชญา วัฒนรุ่ง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง มีความขัดแย้งกับโจทก์ในชั้นเรียน ต่อมาให้เกรด I แก่โจทก์โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ไม่สามารถสอบปิดเล่มวิทยานิพนธ์ได้ภายในระยะเวลาตามหลักสูตร และเสียโอกาสสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาสนามเล็ก ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน โดยโจทก์ฟ้องต่อศาลแพ่งขอให้ ม.รามคำแหง ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 1,212,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
คดีนี้ศาลแพ่งมีคำพิพากษาชั้นต้นเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2562 โดยอ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และนายประสารเป็นโจทก์ร่วมฟ้อง รศ.ดร.ภูริชญา เป็นจำเลย ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า รศ.ดร.ภูริชญา กระทำละเมิด ม.รามคำแหง จำเลยซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดจากการกระทำของ รศ.ดร.ภูริชญา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของจำเลย จึงพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 720,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 27 มิ.ย.2556 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 10,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ประกอบกับคดีนี้ สืบเนื่องจากคดีอาญาในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และนายประสารเป็นโจทก์ร่วมฟ้อง รศ.ดร.ภูริชญา เป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานซ่อนเร้นทำลายเอกสาร ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท และรอลงอาญา 1 ปี ต่อมาศาลอ่านคำพิพากษาฎีกาไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2561 แก้ให้เป็นรอการกำหนดโทษ 3 ปี ให้รายงานตัวกับคุมประพฤติปีละ 1 ครั้ง และให้จำเลยละเว้นการประพฤติใดๆ อันอาจนำไปสู่การกระทำผิดในทำนองเดียวกันอีก
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาวินิจฉัยที่จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่าการอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด วันที่ 4 ก.ย. 2556 ถือว่าวันดังกล่าวโจทก์รู้ตัวผู้กระทำละเมิด จึงเป็นวันที่โจทก์อาจบังคับใช้สิทธิเรียกร้องได้ เมื่อนับถึงวันฟ้องคดีนี้วันที่ 27 มิ.ย.2559 ยังไม่พ้นระยะเวลา 10 ปี คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ส่วนจำเลยอุทธรณ์ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ ศาลเห็นว่าบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว ไม่เคลือบคลุม สำหรับอุทธรณ์จำเลยว่าฟ้องซ้ำกับคดีปกครองหรือไม่ เห็นว่าคดีที่โจทก์ฟ้องศาลปกครองกลางเป็นเรื่องการขอให้เพิกถอนคำสั่งการประกาศผลสอบ ส่วนคดีนี้เป็นผลสืบเนื่องจากคดีอาญาต่อ รศ.ดร.ภูริชญา จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ปัญหาวินิจฉัยจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์เพียงใด ศาลเห็นว่า ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องมาล้วนเป็นผลจากการกระทำละเมิดของ รศ.ดร.ภูริชญา ที่โจทก์อ้างว่าหากโจทก์สอบวิทยานิพนธ์และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจะสามารถไปสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาสนามเล็กได้ เป็นเรื่องในอนาคตที่ไม่แน่นอน ไม่สามารถยืนยันได้ว่าหากโจทก์สำเร็จการศึกษาแล้วจะไปสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ ความเสียหายส่วนนี้ที่โจทก์เรียกร้องมาจึงไม่ใช่ความเสียหายที่แท้จริง ส่วนค่าเสียหายที่เกิดจาก รศ.ดร.ภูริชญา ไม่ส่งคะแนนดิบและสมุดคำตอบ ทำให้โจทก์ไม่สามารถตรวจสอบคะแนนเกรด I ได้ โจทก์ต้องติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เสียเวลา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและขอคัดถ่ายเอกสาร ล้วนเป็นค่าเสียหายโดยตรงจากการทำละเมิด
ส่วนการที่โจทก์ไม่ประสงค์สอบแก้คะแนนเกรด I เพราะประสงค์จะรอผลการพิจารณาอุทธรณ์ และโจทก์ได้ดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จะถือว่าเป็นความผิดของโจทก์หาได้ไม่ การที่จำเลยกับพวกแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับเกรดของโจทก์ตามคำสั่งศาลปกครองแล้ว ก็เป็นคนละเรื่องกับค่าสินไหมทดแทนที่ต้องรับผิดเนื่องจากการทำละเมิดต่อโจทก์ และศาลเห็นว่า ค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นกำหนดมาสูงเกินไป เมื่อพิเคราะห์ถึงความร้ายแรงแห่งการทำละเมิด พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระเงิน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 มิ.ย.2556
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ