‘แรมโบ้’ ซัด ‘เพื่อไทย’ กู้มาเยียวยา ดีกว่ากู้มาโกงเหมือนในอดีต
(31 ธันวาคม 2563) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ชี้ ปีที่ผ่านมารัฐบาลกู้เงินไปเกือบ 2 ล้านล้าน แต่ประเทศยังวิกฤต ว่าตนขอย้ำถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของโรคโควิด-19 และที่ผ่านมานายกฯ รัฐบาล ได้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมากมายหลายโครงการ จนประชาชนพึงพอใจ และอยู่ระหว่างดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกมากมายหลายมาตรการ พร้อมกับแนวทางป้องกันการแพร่กระจายไวรัสสู่ประชาชนอย่างเต็มที่
ดังนั้น ขอความเป็นธรรมให้กับนายกฯและรัฐบาลด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องเข้าใจในสถานการณ์ของประเทศที่เกิดขึ้น อย่าคิดแค่ด้านเดียวและนำมาตำหนินายกฯและรัฐบาล ซึ่งนายกฯ หรือคนทั้งประเทศหรือใครก็ไม่อยากให้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นอุบัติภัยไวรัส เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เกิดที่ไทยเพียงแห่งเดียว การใช้เงินกู้จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งเพื่อปกป้องรักษาชีวิตลมหายใจของคนไทยที่มีค่าที่สุด รวมถึงการเยียวยาเพื่อดำรงเศรษฐกิจความเป็นอยู่ ปากท้องของพี่น้องคนไทยทุกคนด้วย
ในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ อยากเห็นพรรคเพื่อไทยหรือฝ่ายค้านเองปรับตัวใหม่ เลิกตำหนิผู้อื่น ย้อนดูตัวเอง แล้วหันมาทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง เพราะเป็นตัวแทนที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำงาน ร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประเทศในขณะนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านทำได้จะนำพาประเทศพ้นภัยได้
ส่วนสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ นายกฯต้องการที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่ได้คิดถึงเรื่องเกมการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยอยากให้บ้านเมืองพ้นวิกฤตทำได้ง่ายนิดเดียว คือหยุดเล่นเกมการเมือง แล้วหันมาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้จบสิ้นไป การกู้เงินมาทุกบาททุกสตางค์เพื่อผลประโยชน์คนไทยทั้งแผ่นดินทั้งนั้น รัฐบาลนี้กู้มาเยียวยาให้ประชาชนดีกว่ารัฐบาลในอดีตที่กู้มาโกงกินและกู้มาเพื่อกอบโกยเอาใส่เงินกระเป๋าตนเอง และบริวารพวกพ้องของตนเอง อย่างไหนประเทศชาติเสียหายมากกว่ากัน
ปีใหม่ 2564 นี้ตนคาดหวังว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคควรจะหันหน้ามาช่วยกัน ร่วมมือกันให้บ้านเมืองสงบสุข อย่าให้ใครหน้าไหนหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นอีแอบ ให้การสนับสนุนจัดตั้งม็อบลงถนนออกมาไล่รัฐบาล และจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันอีกเลย ตนเชื่อมั่นว่าของขวัญที่คนไทยต้องการและอยากเห็นมากที่สุด คือ หยุดคิดล้มล้างหรือปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากเห็นคนไทยทุกคนมีความจงรักภักดี โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวศูนย์รวมจิตใจ ความรัก และความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ และคนไทยอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขเลิกชุมนุมบนท้องถนน ไม่มีความขัดแย้งในบ้านเมืองอีกต่อไป เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำงานบริหารบ้านเมืองด้วยความราบรื่น เพื่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดิน นี่คือของขวัญที่คนไทยมีความปรารถนาอยากเห็น อยากได้ และต้องการมากที่สุด” นายสุภรณ์กล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ