กองทัพเรือ ทูลเกล้าฯ ถวาย เครื่องหมายนักทำลายใต้น้ำจู่โจม แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (27 พ.ค.) กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานการประชุม ที่กองบังคับการชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธิน ที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน เขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Tele Conference : VTC)
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญคือ กองทัพเรือ ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องหมายความสามารถพิเศษ นักทำลายใต้น้ำจู่โจม แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในโอกาสที่กองทัพเรือ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นอาจารย์พิเศษ ทรงบรรยายหลักสูตร “การดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย” แก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 4
อีกทั้ง ทรงนำนักเรียนนายเรือ ชั้นปีที่ 4 ฝึกการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักเรียนนายเรือซึ่งจะเติบโตเป็นนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพเรือในอนาคต มีความตระหนักรู้ในคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และเป็นกำลังหลักในการปลูกฝังให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติเห็นความสำคัญและมีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำริให้จัดโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยทรงมีความห่วงใยปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรม ของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล การทำร้ายสัตว์ทะเลด้วยน้ำมือมนุษย์โดยตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น การอนุรักษ์และการสร้างจิตสำนึกในการ หวงแหนและรักษาสิ่งแวดล้อม
ตลอดจนระบบนิเวศ ที่มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลไทย โดยกองทัพเรือ ได้ดำเนินการสนองพระดำริ และบูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ
ได้แก่ กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อจัดทำและดำเนินโครงการ แผนงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถตอบสนองพระดำริของพระองค์ท่านได้อย่างเป็นรูปธรรม ในการรักษาสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเลไทยให้มีความยั่งยืนสืบไป
สำหรับเรื่องสั่งการในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงและหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือในวันนี้ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ปรับรูปแบบในการปฏิบัติงานของหน่วยต่างๆในกองทัพเรือ ภายใต้การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจที่ต้องมีการปฏิบัติใกล้ชิดกับประชาชน และการช่วยเหลือในการบรรเทาสาธารณภัย โดย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการระวังป้องกันอย่างเข้มงวด
นอกจากนั้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะมีการรับทหารกองประจำการผลัดใหม่เข้าทำการฝึกภาคสาธารณะ ซึ่งจะเป็นการรวมกำลังพลจำนวนมาก ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดต่างๆ ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แสดงความห่วงใย พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง
พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติตั้งแต่เริ่มขึ้นรถ เพื่อเดินทางมายังหน่วยฝึก ซึ่งเป็นไปตามกรอบและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมี กรมแพทย์ทหารเรือเป็นหน่วยกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ โดยมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น มั่นใจในมาตรการ และเป็นการแสดงออกซึ่งความตั้งใจจริงในการดูแลบุตรหลานของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ จากกรณีเชื้อ COVID – 19 สายพันธุ์อินเดีย และแอฟริกาใต้ ได้เริ่มแพร่ระบาดในประเทศไทยแล้วนั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้กำลังพลทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการระวังป้องกันตนเองมากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งให้ให้ดำรงความเข้มข้นในการลาดตระเวนตรวจการณ์ รวมทั้งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามพื้นต่าง ๆ ตลอดจนให้มีการประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่ และส่วนกลาง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการ ปฏิบัติงานสูงสุด พร้อมทั้งกำชับไปยังกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องระวังตนเองตลอดเวลา โดยขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ