ชง ศบค. หามาตรการ อุ้มร้านอาหาร ก่อนปิดตัวนับแสนเจ้า ชี้ คนละครึ่ง ก็ช่วยไม่ได้





นายกสมาคมภัตตาคาร ชง “นายกฯ-ศบค.” ตั้งคณะกรรมการร่วม หามาตรการเยียวยาร้านอาหาร ก่อนกิจการกว่าแสน ต้องปิดตัว ชี้ คนละครึ่ง ก็ช่วยอะไรไม่ได้

วานนี้ (14 มิ.ย.) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ทางสมาคมฯจะเสนอให้ ศบค.เห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเป็นการเฉพาะเกี่ยวกับภัตตาคารและร้านอาหาร ที่ประกอบด้วยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร

เพื่อหามาตรการเยียวยาและช่วยเหลือให้ตรงกับความต้องการและปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี และที่ผ่านมาไม่มีปากเสียงต่อการเข้าร้องเรียนโดยตรงกับภาครัฐ แนวคิดตั้งคณะกรรมการดูแลโดยตรง เพราะร้านอาหารถือเป็นหนึ่งในภาคบริการ มีเครือข่ายห่วงโซ่เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจและจำนวนคนเป็นล้านๆคน และยังเป็นการรองรับแรงงานที่ตกงานจากหลากหลายอาชีพ ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการร้านอาหารประสบปัญหา ก็จะกระทบเป็นวงกว้างทั้งธุรกิจและแรงงาน

“เราวิตกว่าหากหลังเดือนมิถุนายนนี้การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลายดีขึ้น จะยิ่งกดดันกำลังซื้อประชาชน กระทบร้านอาหารปิดตัว แม้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน เช่น คนละครึ่ง แต่ข้อจำกัดการเปิดร้าน หรือ กำลังซื้อประชาชนไม่ได้มากขึ้น ก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ประกอบการอาหาร อีกทั้งที่ผ่านมา มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการก็ไม่ได้ตรงจุด เราต้องการสินเชื่อเงินไม่ได้มาก 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท/รายในเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนซื้อสินค้าหรือประคองแรงงาน ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้

หรือ ปัญหาต้นทุนสูง อย่างเปิดร้านได้น้อยก็ขายออนไลน์แต่เจอเรื่องถูกเก็บค่าบริการ(จีพี)จัดส่งดิลิเวอรี่ จากเจ้าของแพลตฟอร์ม ทำให้รายได้จริงไม่พอค่าใช้จ่าย เมื่อเรามีคณะกรรมการก็ดีต่อการเจรจาเพื่อให้ผ่อนปรนค่าจีพีเพื่อช่วยเหลือระหว่างกันมากขึ้น เช่น ลด 50% จนกว่าโควิดรุนแรงจะดีขึ้น อีกทั้ง การมีคณะกรรมการร่วม จะได้รู้ข้อมูลแท้จริง

เช่น ดูตัวเลขร้านอาหารจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์มีเพียง 1.5 หมื่นราย แต่ไปดูจำนวนร้านอาหารเสียภาษีกับกระทรวงการคลังมีเป็นแสนๆราย ที่เสี่ยงปิดตัวจากหมดสายป่านหลังแบกภาระขาดรายได้จากมาตรการเข้มช่วงโควิด ที่เราเสนอพียงให้เกิดการช่วยเหลือได้จริง ตรงจุด และรวดเร็ว บนกติกาที่เหมาะสม ” นางฐนิวรรณ กล่าว

นางฐนิวรรณ กล่าว่า จะยังไม่มีการนำเสนอในการปลดล็อกหรือผ่อนปรนอะไรในช่วงนี้ เพราะยังเห็นจำนวนตัวเลจขผู้ติดเชื้อต่อวันยังสูง และการกระจายฉีดวัคซีนเพิ่งเริ่้มดำเนินการ จึงเชื่อว่าศบค.จะพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป ที่ผู้ประกอบการต้องการตอนนี้คือความช่วยเหลือเฉพาะหน้าที่ให้ร้านเปิดได้ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณเลิกร้านเพิ่มขึ้น จะชัดเจนมากขึ้นหลังมิถุนายนนี้ โดยเฉพาะร้านในต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาว่างงานและขาดรายได้อย่างรุนแรง

อีกเรื่องที่อยากให้ ศบค.พิจารณาคือ ควรใช้การสั่งปิดร้านอาหารเฉพาะร้านที่เจอโควิด และ ไม่ปฎิบัติตามมาตรการที่เข้มงวด เพราะยังเห็นบางร้านค้าไม่จำกัดจำนวนคนนั่ง หรือ เปิดค้าแบบไม่มีมาตรการป้องกัน ดีกว่าจะเหมาใช้มาตรการเดียวในพื้นที่หรือทั้งจังหวัด เพื่อให้ผู้ประกอบการปฎิบัติได้ตามมาตรการไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: