‘อนุทิน’ แจง สธ.ส่งวัคซีนโควิดตามข้อตกลง 3 ฝ่าย หาก รพ.มีปัญหาเรื่องวัคซีน ต้องหารือจังหวัด ไม่ใช่โพสต์ต่อว่า สธ. ยันวัคซีนไม่ขาด แนะลดระดับฉีด
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของ กทม.หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า สธ.ส่งวัคซีนให้ไม่เพียงพอ ว่า ขอทำความเข้าใจตรงกันว่า สธ.เป็นผู้จัดส่งวัคซีนไปทั่วประเทศตามข้อสั่งการของ ศบค.และตามข้อตกลง 3 ฝ่าย คือ
ศบค., กรมควบคุมโรค และหน่วยงาน ได้แก่ จังหวัด กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น วัคซีนทุกขวดที่ออกไปจากกรมควบคุมโรคออกไปด้วยข้อตกลงที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่กรมควบคุมโรคกระจายตามดุลพินิจตัวเอง
เพราะฉะนั้นหากมีปัญหาในพื้นที่ แต่ละพื้นที่ต้องเป็นผู้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ หรือหน่วยงานที่รับวัคซีนทั้งรัฐและเอกชนที่รับวัคซีนจาก กทม.ไปแล้วมีปัญหาหรือฉีดหมดแล้ว อย่าเพิ่งโพสต์ ขอให้โทร.ไปปรึกษาสำนักอนามัย หรือสำนักการแพทย์ กทม.ให้เรียบร้อยก่อน
“การโพสต์แล้วบอกว่า สธ.ไม่ส่งวัคซีนให้ เป็นข้อความที่ผิด ไม่ถูกต้อง และทำให้เกิดการตื่นตระหนกตกใจ โกลาหล แล้วบอกมีอะไรให้โทร.มาถาม รมว.สธ.ไม่ใช่ข้อความที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่วิธีการทำงานที่ถูกต้อง รพ.เอกชนในเขต กทม.ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งเป็นศูนย์บริการฉีดวัคซีนโดย กทม. ถ้ามีปัญหาก็ต้องไปปรึกษาปัญหาหารือกับต้นทาง อย่าเพิ่งใจร้อน ทำงานแบบนี้ต้องใจเย็นๆ”
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า วัคซีนยังคงเข้ามาเป็นล็อตๆ เหมือนเดิม โดยจำนวนวัคซีนของ มิ.ย. มีข้อตกลงเรียบร้อยแล้วกับทุกหน่วยงาน ทุกจังหวัด ตามตารางที่อธิบดีกรมควบคุมโรคถือไว้ ถ้าส่งไปไม่ตรงจำนวนในตาราง ถ้ามากกว่าไม่เป็นอะไร ถ้าน้อยกว่าในตารางต้องมีคนรับผิดชอบ ยืนยันว่า ไม่มีการปรับการให้วัคซีน กทม. ทุกอย่างเหมือนเดิมหมด สัปดาห์ที่แล้วให้ กทม.ไป 5 แสนโดส คนรับไปก็ต้องบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหากฉีดมากไปทำให้เกิดการชอร์ตหรือไม่ ถ้าชอร์ตก็ต้องลดระดับการฉีดลงมาให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ใช่มาประกาศปิด ประชาชนก็ว่าวัคซีนขาด แต่ความจริงวัคซีนไม่ได้ขาด
“ตอนนี้ สธ.ทำงานได้แค่นี้ กำหนดนโยบายไม่ได้ เพราะศบค.เป็นผู้กำหนด อำนาจบริหารจัดการเรื่องนี้อยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สธ.เป็นผู้ปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ ศบค.แจ้งข้อสรุปใดๆ มา สธ.ก็ปฏิบัติทุกประการ นี่คือการทำงานแบบบูรณาการ ถ้าทุกหน่วยงานต้องการสร้างความนิยม ไปแย่งกันทำงาน ไปกำหนดนโยบายของตัวเองก็คงลำบาก ไม่ใช่การบริหารราชการแผ่นดิน ยกเว้นถ้ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ แล้วส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพประชาชนเฉพาะหน้าแบบนั้น สธ.ก็คงใช้ดุลพินิจในการเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ก่อนอย่างกรณีของหมอพร้อม”
นายอนุทิน กล่าวว่า กรณีหมอพร้อมจะให้อธิบดีกรมควบคุมโรคตรวจดูว่า กลุ่มที่จองผ่านหมอพร้อมก่อนที่ ศบค.จะชะลอการนัดมีกี่คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสูงอายุและ 7 โรคเรื้อรัง ที่ควรจะได้รับวัคซีนก่อนเพราะเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรงและเสียชีวิต ถ้าตรงนี้ถูกเท สธ.จะรับมาฉีดเอง เรามีสถานีกลางบางซื่อ สถาบันบำราศนราดูร รพ.ศรีธัญญา รพ.ราชวิถี สถาบันโรคทรวงอก ฯลฯ เราก็จะเก็บตกในเขต กทม.มาฉีด นี่คือการทำนอกเหนือนโยบาย ซึ่งตอนนี้หมอพร้อมตัวเลข 4 แสนกว่าคน หาก กทม.ยังทำได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากไม่ได้ สธ.พร้อมรับมาฉีดวัคซีนให้ผ่านพ้นไปได้และถูกต้องตามระบบการป้องกันควบคุมโรค
เมื่อถามว่าต้องหารือกับ กทม.ก่อนหรือไม่เพื่อให้ตัวเลขชัดเจน นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ กลุ่มหมอพร้อม กทม.อยู่ใน 1 ล้านคนที่ตกลงกันไว้จะได้วัคซีนเดือนมิ.ย. แต่เมื่อมีการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันใหม่ก็ไม่เป็นไรอย่าไปโทษกัน ซึ่งแก้ไขได้ สมมติถูกเท 1-2 แสนคนก็ทยอยรับมาฉีด เพราะกลุ่มนี้นัดแล้วต้องได้รับวัคซีน ถ้าวัคซีนเหลือมากพอก็ไม่หักจาก กทม. ถ้าเหลือน้อยก็ไม่หัก ต้องพูดคุยกันระหว่างกรมควบคุมโรคและกทม. ส่วนต่างจังหวัดยังไม่มีปัญหา
นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ มิ.ย. ตามกำหนดต้องฉีดผู้สูงอายุและโรคประจำตัว คนทั่วไปเป็นช่วง ส.ค. กลุ่มสูงอายุและโรคเรื้อรังสมควรรับวัคซีนโดยด่วน ตอนแรกคิดว่าตอนชะลอหมอพร้อมไม่ให้นัดแล้วต้องอุ้มกลุ่มนี้ไปด้วย ไม่ใช่เทกลางทาง ซึ่งคงไม่ได้เทหมด เพราะว่าด้วยความเข้าใจที่อธิบดีกรมควบคุมโรครายงานมาอยู่ในโควตาของ กทม.อยู่แล้ว แต่อาจจะมีความผิดพลาดเรื่องของการลงบันทึก พอ กทม.ไปลงทะเบียนผ่านไทยร่วมใจ จริงๆ ควรย้ายวันเวลานัดจำนวนของหมอพร้อมไปไทยร่วมใจด้วย นอกจากนี้ ก็ต้องไปหารือสำนักงานประกันสังคมด้วยเช่นกันต้องทำตัวเลขให้ชัดเจน
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ