แพทย์ รพ.รามาธิบดี เล่าประสบการณ์ตรง หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็ม พบภูมิคุ้มกันลดลง และตรวจพบเชื้อ ยันซิโนแวคไม่สามารถป้องกันโควิดได้ จี้รัฐเร่งฉีดเข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์
วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กเล่าประสบการณ์หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “ซิโนแวค” ครบ 2 เข็ม ผ่านมา 2 เดือน พบภูมิคุ้มกันลดลง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยเกินกว่าจะสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้
รศ.พญ.ประภาพร ระบุว่า หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 สัปดาห์ ได้เข้ารับการตรวจภูมิตอบสนองต่อการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ชนิด neutralizing antibodies (NAb) ซึ่งก็สูงถึง 92.9% แต่พอติดตามไปหลังฉีดวัคซีนครบที่ 2 เดือน ค่า NAb ลดลงมาเหลือ 65.7% และในช่วงที่ค่า NAb 65.7% ก็เป็นช่วงที่ตรวจพบเชื้อโควิดด้วยเช่นกัน
โดยคาดว่าการติดเชื้อนี้ได้มาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อในห้องแลป อากาศเย็นและเป็นพื้นที่ปิด นานประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่ตัวเองใส่หน้ากาก N95 แต่ไม่มี Faceshiel และก่อนหน้าที่จะเข้าไปใช้ห้องแลปก็มีคนที่มาใช้เครื่องมือที่มีอาการไอค่อนข้างมากอยู่ก่อน
และจากการได้รับอาหารมาจากเคสที่พบผลเป็นบวกเหมือนกัน แล้วไปแยกนั่งกินกันคนละห้องกัน ข้อสำคัญ คือ เคสที่บวกด้วยกันก็ฉีดซิโนแวค ครบ 2 เข็มเรียบร้อยและเช็ก NAb อยู่ที่ 60.04%
ทั้งนี้ real world data (ประสบการณ์ตรง) ที่เมื่อฉีดซิโนแวคไปเพียง 2 เดือน ก็มีภูมิคุ้มกันที่ลดลง (ซึ่งไม่ถึงกับหายไป ก็แค่ลดลง 30%) แต่ก็ต่ำพอที่จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ พร้อมยืนยันว่า วัคซีนซิโนแวคไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดได้
นอกจากนี้ รศ.พญ.ประภาพร ยังฝากถึงรัฐบาลว่า ไม่ควรคิดถึงเรื่องผลประโยชน์ใด ๆ นอกจากการช่วยชีวิตคนไทยด้วยกันและช่วยบุคลากรทางการแพทย์ให้ปลอดภัย และควรจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ที่มี mRNA ที่มีประสิทธิภาพดีให้บุคลากรทางการแพทย์
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ