น.ศ.สาวถูกตัดขา 1 ข้าง เหตุเส้นเลือดอุดตันฉับพลัน ญาติปักใจเพราะฉีดวัคซีนไขว้
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายจำรัส ขนาดผล ผอ.วิทยาลัยชุมชนพังงา พร้อมด้วยอาจารย์ในวิทยาลัยลงพื้นที่พบกับนางห้าเหลี้ย กองแก้ว อายุ 85 ปี ชาว ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา หลังจากพบว่า นส.เกตน์สิรี กองแก้ว อายุ 20 ปี นักศึกษาสาขาวิชาการปกครองท้องถิ่นของวิทยาลัยชุมชนพังงา ซึ่งเป็นหลานสาว ประสบปัญหาเจ็บป่วยหลังจากไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 แบบไขว้ จากหน่วยฉีดวัคซีนอำเภอเมืองพังงา จนโรงพยาบาลพังงาต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
และล่าสุด ทางคณะแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นโรคเลือดเลือดแดง 2 ข้างอุดตันฉับพลับ จนต้องตัดขาข้างซ้ายเหนือหัวเข่าไป 1 ข้าง ทำให้ญาติๆ และหลายคน ต่างเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนเข็ม 2 แอสตร้าเซนเนก้า แบบไขว้ อย่างแน่นอน และอยากร้องขอให้ทางราชการเข้าช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเป็นการด่วน เนื่องจากนส.เกตน์สิรี เป็นลูกกำพร้า พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ แล้วแม่ก็ทิ้งไป อาศัยอยู่กับย่าเพียง 2 คน มีฐานะยากจนเปิดร้านขายของเล็กๆในหมู่บ้าน ซึ่งทางย่าก็ไม่เรียกร้องอะไรบอกว่าแล้วแต่ทางราชการจะช่วยเหลือ
นายอนุพงษ์ ธรรมรงค์ อายุ 25 ปี เพื่อนนักศึกษา ที่บ้านอยู่ใกล้เคียงกัน เล่าว่า หลังจากนส.เกตน์สิรี ไปฉีดวัคซีนเข็ม 2 แอสตร้าเซนเนก้า แบบไขว้ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา จากหน่วยฉีดวัคซีนอำเภอเมืองพังงา หลังจากนั้น 3 วันก็มีอาการไข้ แน่นหน้าอก ผ่านไปอีก 2 วันจึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพังงา แพทย์บอกว่าไม่มีอะไร มีอาการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และนัดอีกเจ็ดวันเพื่อตรวจซ้ำ
“แต่ไม่ทันถึงวันนัด ก็เกิดอาการปวดขาข้างซ้ายปวดมากแบบจับขาไม่ได้เลย จึงรีบไปโรงพยาบาลพังงา ทางโรงพยาบาลพังงาส่งตัวไปเอ็กซเรย์เส้นเลือดที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แพทย์แจ้งว่ามีเส้นเลือดอุดตัน และผ่าตัดด่วนและพบว่ามีเนื้อตายต้องส่งตัวไปที่ผ่าตัดอีกครั้งที่โรงพยาบาลกระบี่ เมื่อกลับมาอาการไม่ดีขึ้น จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และล่าสุดก็ถูกตัดขาข้างซ้ายเหนือเข่าไป 1 ข้าง ซึ่งทางญาติๆต่างก็เชื่อว่าเป็นผลจากการฉีดวัคซีนแน่นอน เพราะเขาไม่เคยมีโรคประจำตัวมาก่อน”
น.ส.ณัฐรดา ธรรมรักษ์ อาจารย์ที่ปรึกษา เปิดเผยว่า วันแรกที่ทราบข่าวว่านักศึกษาจะถูกตัดขา ก็ได้คุยกับคณะแพทย์ว่าถ้าไม่ตัดได้ไหม ทางแพทย์บอกว่าขาได้ตายไปครึ่งหนึ่งแล้วยังไงก็ต้องตัด จึงให้เขาตัดสินใจซึ่งน้องก็ตัดสินใจให้ตัดขาตั้งแต่เหนือเข่าลงไป ตอนนี้ก็โทรคุยกับเขาทุกวันแผลที่ขาเริ่มแห้ง ต้องเข้าห้องผ่าตัดเล็กล้างแผลดูดเลือดที่คั่งอยู่ออกทุกวัน น้องเขาจะเจ็บทุกวัน
“โดยแพทย์ได้ให้ยาสลายลิ่มเลือดทุกวันเพราะเกรงว่าขาอีกข้างหนึ่งจะมีปัญหาด้วย ด้านสภาพจิตใจของน้องเกตน์สิรีเข้มแข็งมาก เพราะเขาคิดถึงย่า อยากกลับมาดูแลย่า ก็ได้ให้กำลังใจให้เขาสู้ เพราะยังไงเรามีคนที่จะต้องกลับมาดูแลก็คือย่า ซึ่งเขาก็สู้มาก บอกว่าอยากจะกลับมาพักฟื้นที่โรงพยาบาลพังงา จากการที่ได้คุยกับคณะแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ก่อนจะผ่าตัดขา ทางแพทย์ก็บอกว่าอาจจะผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนได้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่แน่ใจว่าทำไมทางโรงพยาบาลพังงาได้วิเคราะห์ว่าลิ่มเลือดเกิดจากโรคประจำตัว สำหรับน้องเกตน์สิรีนั้น เป็นนักศึกษาที่มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน มีความมุ่งมั่นเข้าเรียนตลอด ส่งงานครบทุกครั้ง นับเป็นเรื่องเศร้าอย่างมากที่น้องต้องมาเสียขาในอายุ 20 ปี”
นายจำรัส ขนาดผล กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่า นส.เกตน์สิรี กองแก้ว เป็นกำลังหลักของครอบครัว ทางอาจารย์วิทยาลัยและเพื่อนนักศึกษาได้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือได้ก้อนหนึ่ง ให้การช่วยเหลือในค่าใช้จ่าย และซื้อโทรศัพท์ส่งไปให้ จะได้ติดต่อกับย่าและอาจารย์ที่ปรึกษาทุกวัน เนื่องจากเขาต้องไปรักษาตัวอยู่คนเดียวในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์ของพยาบาล หากเงินก้อนนี้หมดลงก็จะใช้เงินกองทุนสวนปาล์มของวิทยาลัยฯเข้ามาช่วยได้อีกระดับหนึ่ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องขาเทียม และเยียวยาในการสูญเสีย จะเป็นพระคุณอย่างมากเลย
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ