11 สิงหาคม 2565 ไทยโพสต์ รายงานว่า นายสมศักดิ์ ชี้แจงกรณีนี้ว่า ผู้กู้ดังกล่าว มีหนี้รวม 371,497 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 244,096 บาท ดอกเบี้ย 26,817 บาท และเบี้ยปรับ 100,584 บาท เนื่องจากมีการขาดส่งจึงถูกสั่งยึดทรัพย์เป็นคอนโดมูลค่า 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 เมื่อถูกยึดทรัพย์จึงมาเข้าร่วมงานไกล่เกลี่ยหนี้ เคสนี้เข้าเงื่อนไขการปิดบัญชีเพื่อลดเบี้ยปรับ 100% ทำให้ได้รับส่วนลดตรงนี้ประมาณ 1 แสนบาท หนี้จึงลดลงมาเหลือ 270,913 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าการปิดบัญชีต้องจ่ายทีเดียว ก่อนวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ถึงจะถอนการยึดทรัพย์
กรณีลดเบี้ยปรับ 100% เป็นเกณฑ์ที่ กยศ. วางไว้เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้เข้ามาปิดบัญชี จะได้เอาเงินมาหมุนเวียนให้รุ่นน้องต่อไป โดยกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้ลดเงินต้นให้ และไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด เพราะการไกล่เกลี่ยหนี้ ขณะนี้จัดทั่วประเทศไปแล้ว 72 ครั้ง ช่วยไกล่เกลี่ยสำเร็จถึง 57,531 ราย
ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมทำงานอย่างหนักในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ ทั้งก่อนถูกฟ้องและหลังถูกฟ้องเป็นจำนวนมาก เพราะตั้งใจเข้ามาช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ย หลังประชาชนบางส่วนขาดรายได้ หรือ ตกงาน จากผลกระทบโควิด-19 จึงให้ความช่วยเหลือทุกกรณีที่เข้าเกณฑ์ จากการจัดงานมาทั่วประเทศ มีเพียง 4-5% เท่านั้น ที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ตนเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนที่ต้องอมทุกข์มาเป็นเวลานานจากการเป็นหนี้และไม่มีทางออก เพราะบุคคลเหล่านั้นจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เลยจึงเข้ามาขับเคลื่อนโครงการนี้
นายสมศักดิ์ ระบุว่า หลายเคสตนเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง มีทั้งเป็นผู้ตกงาน หรือเป็นผู้ค้ำประกันซื้อรถยนต์ เงินกู้ ที่ถูกยึดทรัพย์ ตนก็เจรจาจนได้ทรัพย์คืนเช่นกัน ซึ่งโครงการนี้กระทรวงฯ ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินกว่า 10 แห่ง มาช่วยแบ่งเบาความเดือดร้อนให้ประชาชน เพราะบางคนวิกฤตทางตันถึงขั้นจะถูกยึดบ้าน ไม่มีที่อาศัย จึงไม่สามารถนิ่งนอนใจได้
การช่วยเหลือบางเคส อาจจะขัดความรู้สึกของประชาชนบางส่วน แต่ยืนยันว่า ในฐานะรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ เสมือนเป็นการให้โอกาสเขาได้แก้ตัวใหม่ เพราะเขาเองก็ได้รับบทเรียนราคาแพงด้วยการถูกดำเนินคดีจนกลายเป็นบุคคลเครดิตไม่ดี ก็จะส่งผลถึงการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ซึ่งการให้โอกาสไม่ใช่เป็นการสนับสนุนคนทำผิด แต่เป็นการช่วยให้เขาสามารถฟื้นตัวได้ ส่วนผู้ที่ชำระหนี้ กยศ. ไม่ผิดนัดก็ขอชื่นชม ซึ่งเงินส่วนนี้ก็จะกลับไปสู่รุ่นน้องต่อไป เป็นสิ่งที่ทำถูกต้อง โดยหากผู้ส่งตรงตลอดเข้าร่วมไกล่เกลี่ยก็จะมีส่วนลดให้สำหรับผู้ที่จะปิดบัญชี หรือเข้าปรับโครงสร้างหนี้ได้ ซึ่งจากการพูดคุยกับบางธนาคาร เช่น ออมสิน ก็เตรียมออกแพ็กเกจช่วยเหลือลูกหนี้ดีเช่นกัน
กรณีที่หลายคนพยายามนำเคสผู้มีประวัติดีมาเทียบกับผู้ที่กำลังจะล้มเหลวทางการเงิน อยากให้มองว่าปัญหาชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน เราอาจจะโชคดี ทำมาหากิน มีกำลังผ่อน แต่หลายคนก็อาจจะไม่โชคดี กำลังเดือดร้อน ดังนั้น เราไม่ควรนำความรู้สึกของตัวเองมาตัดสิน หรือ ทำลายชีวิตผู้อื่น เพียงแค่ตัวหนังสือบนปลายนิ้ว ยืนยันว่าจะไม่เสียกำลังใจ ที่จะเดินหน้าจัดงานไกล่เกลี่ยต่อ โดยจะจัดเวทีสุดท้ายที่เมืองทองธานี วันที่ 8-11 กันยายน นี้
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ