27 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ของ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฏวัฒนะ มีการโพสต์ว่า ทางโรงพยาบาล (ผู้ฟ้องคดีที่ 1) และผู้ป่วยบัตรทองอายุ 100 ปี (ผู้ฟ้องคดีที่ 2) ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคร้ายแรง เรื้อรัง ซับซ้อน ต้องรักษากับทางโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ได้ร่วมกันยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเพิกถอนคำสั่งเลิกสัญญา รพ.มงกุฎวัฒนะที่ เลขาธิการ สปสช. กระทำการไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขัดต่อ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนจะมีการเตรียมแบบคำร้องสอดสำหรับผู้ป่วยบัตรทองรายอื่น ๆ ที่ต้องการร้องสอดให้ศาล มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ป่วยที่ร้องสอดยังรักษาต่อเนื่องที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตามปกติต่อไป
ขอยื่นถอด เลขาฯ สปสช. เลิกสัญญาโดยพลการ
ต่อมา วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา นพ.เหรียญทอง โพสต์ว่า ตนจะทำเรื่องถอดถอนเลขาธิการ สปสช. ตามมาตรา 33(6) แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เนื่องจาก เลขาธิการ สปสช. ได้กระทำการบกพร่องต่อหน้าที่ สร้างความเดือดร้อนต่อหน่วยบริการ (รพ.มงกุฎวัฒนะ) และผู้ป่วยบัตรทองจำนวนมากนับแสนราย
อีกทั้งเลขาธิการ สปสช. ได้ใช้ดุลพินิจของตนเองโดยเห็นว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างมีมาตรฐานแล้วบอกเลิกสัญญาด้วยตนเองโดยพลการ ไม่ดำเนินการตามขั้นตอนตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่ต้องกระทำโดยมติของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานต่างหาก
ย้อนโพสต์หมอเหรียญทอง ขอลดคนไข้บัตรทอง ส่งคืน สปสช. แก้ความแออัด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา นพ.เหรียญทอง โพสต์ว่า เนื่องจากโรงพยาบาลมีผู้ใช้บริการจำนวนมากจนเกิดความแออัด แม้จะมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ แต่อาคารนี้เปิดใช้ได้ในปลายปี 2566 ดังนั้นจึงขอลดความแออัดดังนี้
1. ส่งคืนผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิกับ รพ.มงกุฎวัฒนะทั้งหมด แก่ สปสช. จำนวน 7 หมื่นคน
2. ลดจำนวนรับการส่งต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจากหน่วยต่าง ๆ ของ สปสช. ลงกึ่งหนึ่ง จาก 3 แสนคนเหลือ 1.5 แสนคน
3. โรงพยาบาลจะลดจำนวนผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคมลงกึ่งหนึ่งจาก 120,000 คน คงเหลือ 60,000 คน ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ปัญหาความแออัดและเป็นภาระแก่ รพ.มงกุฎวัฒนะเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป
ภายหลัง นพ.เหรียญทอง ชี้แจงเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลไม่ได้บอกเลิกสัญญากับ สปสช. แต่ขอลดจำนวนผู้ป่วยบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ และลดจำนวนรับส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองเท่านั้น จนกว่า สปสช. จะช่วยประสานการขออนุญาตเพิ่มจำนวนเตียงและพื้นที่ใช้สอยกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความแออัดให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะ
นอกจากนี้ ขอเรียนให้ทราบว่า จำนวนเตียงของ รพ.รัฐและ รพ.เอกชน ที่เป็นคู่สัญญาของ สปสช. ในกรุงเทพฯ มีน้อย ไม่เพียงพอกับผู้ป่วยบัตรทอง และจะเกิดปัญหาคนไข้แออัดอย่างรุนแรง
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ