จากกรณีที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยื่นคําร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีมีหุ้นส่วนอยู่ในห้างหุ้นส่วนจํากัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ต่อมาประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นั้น ล่าสุด (3 มีนาคม 2566) องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมปรึกษาคดี พร้อมมีคำสั่งให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หยุดปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย (อ่านรายละเอียด : สั่ง ศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ! ปมหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น)
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะอยากรู้ ประวัติ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ คือใคร เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้อย่างไร วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเส้นทางชีวิตผู้ชายที่ชื่อ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” กับการเติบโตบนเส้นทางการเมือง
ประวัติส่วนตัวเกี่ยวกับศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีชื่อเล่นว่า โอ๋ เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505 ปัจจุบันมีอายุครบ 60 ปี ย่างเข้าปีที่ 61 เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ บิดา คือ นายชัย ชิดชอบ ส่วนมารดา คือ นางละออง ชิดชอบ เป็นน้องชายของนายเนวิน ชิดชอบ และพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การศึกษาของศักดิ์สยาม ชิดชอบ
สำหรับประวัติ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ทางด้านการศึกษานั้น มีดังนี้
– ระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (รหัสรุ่น OSK99)
– ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2527)
– ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (พ.ศ. 2531)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ของศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เคยได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 (ส.ช.) เมื่อ พ.ศ. 2533 กระทั่ง พ.ศ. 2554 เขาก็ได้รับเหรียญราชการชายแดน (ช.ด.) หลังจากนั้นก็ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) เมื่อ พ.ศ. 2563 และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) เมื่อ พ.ศ. 2564
เส้นทางการเมืองของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ประวัติเส้นทางเดินบนถนนการเมืองของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ นั้น เขาเคยรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ก่อนจะมาลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยแรก ใน พ.ศ. 2548 จากนั้นก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยพลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ กระทั่ง พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมืองเมื่อ พ.ศ. 2549
หลังจากพ้นกำหนดการตัดสิทธิ์ทางการเมือง ในรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีการแต่งตั้งให้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552 ก็ได้รับพระราชทานยศ นายกองเอก
ต่อมาใน พ.ศ. 2555 ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ก็ได้เดินทางสู่เส้นทางการเมืองบทใหม่ โดยสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่ชาย คือ เนวิน ชิดชอบ ได้ประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว กระทั่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 15 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
จากนั้น พ.ศ. 2562 ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ก็ได้รับเลือกตั้งให้เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 3 ในสังกัดพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง ก่อนที่จะได้เข้าร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ.2552), รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (พ.ศ.2562)
นอกจากนี้ ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยังได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด-19)
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19
ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 กำลังมีการระบาดของโควิด-19 รอบ 3 ในไทยนั้น ชื่อของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ก็ถูกกล่าวถึงและถูกค้นหาจำนวนมาก เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งยังถูกเชื่อมโยงคลัสเตอร์คริสตัลคลับ สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่ดารา คนดัง ไฮโซ รัฐมนตรี นักธุรกิจ ไปใช้บริการอย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้นเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจาก ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยังไม่มีการเปิดเผยไทม์ไลน์ของตัวเอง ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีรัฐมนตรีไปเที่ยวผับ ต่อมาเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มาเที่ยวผับ โดยมีการแจ้งไทม์ไลน์ย้อนหลัง และกล่าวอ้างว่า ติดเจ้าหน้าที่สำนักงานรัฐมนตรี พร้อมฝากบอก ประชาชนว่าอย่าการ์ดตก หลังจากนั้นก็มีคนออกมาโพสต์แฉข้อมูล และคลิปเสียงสัมภาษณ์พนักงานที่ เคยทำงานอยู่ที่ผับยืนยัน “ท่าน” เคยมาเที่ยวที่นี่
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สั่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์แก้ไทม์ไลน์กลางดึก และแจ้งความเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กับผู้ที่โพสต์รูปถ่ายบุคคลในผับ ซึ่งทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นตนเอง
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ใส่อะไรที่คอ
ในช่วงหนึ่งมีหลายคนสังเกตเห็น ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สวมอุปกรณ์ชนิดหนึ่งพาดไว้ที่คอ ทำให้หลายคนสงสัยว่าคืออะไร หรือจะเป็นเครื่องฟอกอากาศ แต่เมื่อนักข่าวถามจึงได้ข้อสรุปว่า เป็นเครื่องนวดคอไฟฟ้าแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เจ้าตัวก็เจอกับปัญหาออฟฟิศซินโดรม จึงซื้อเครื่องนี้มาใช้ช่วยบรรเทาอาการลงได้
บัญชีทรัพย์สินของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ
รายงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเผยแพร่ข้อมูลบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ส.ส. ในปี 2564 พบว่า ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย มีทรัพย์สินทั้งหมด 115,760,030 บาท และไม่มีหนี้สิน
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ โสด หรือมีครอบครัว ?
หลายคนอาจจะเคยตั้งข้อสงสัยว่า ประวัติศักดิ์สยาม ชิดชอบ สถานภาพโสด หรือมีภรรยา ลูก หรือไม่ ซึ่งก่อนนี้เจ้าตัวเคยชี้แจงในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิง จนเป็นต้นตอโควิด-19 ระบาดระลอก 3 เมื่อเดือนเมษายน 2564 ก่อนระบาดไปทั่วประเทศ โดย ศักดิ์สยาม อ้างว่าการไปเที่ยวในสถานที่ที่มีสุภาพสตรีนั้นเป็นเรื่องปกติของคนที่มีสถานภาพโสด แต่สิ่งที่นำมาอภิปรายต่างหากที่น่าจะถูกบิดเบือนข้อมูล อีกทั้งให้สังเกตจากรูปจะเห็นว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เป็นนมเย็น
อย่างไรก็ตาม จากการค้นหาประวัติ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เพิ่มเติมยังไม่มีขอ้มูลที่ระบุว่าแต่งงาน หรือมีลูก ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวก็ยังไม่เป็นที่กังขา สรุปแล้วเขาโสดหรือไม่?
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ