16 พ.ค.2566 เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง ออกแถลงการณ์ เรียกร้องพรรคการเมืองสนับสนุนนายกรัฐมนตรีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ปิดสวิตซ์ สว. ความว่า วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง ที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 75.22% ร่วมใจกันออกมาเปลี่ยนประเทศไทย อย่างสันติวิธีผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เป็นคุณค่าความหมายที่ต้องจารึกไว้ ว่าการเมืองไทยสามารถเปลี่ยนได้ ปัญหาอุปสรรคต่างๆสามารถก้าวข้ามได้
แม้แต่วงจรอุบาทว์ ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การใช้อำนาจอิทธิพล การจูงใจด้วยการใช้นโยบายรัฐ เจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะสิทธิ์และเสียงของประชาชน ที่ต้องการแสดงเจตนารมณ์ของตนเองในการมีส่วนร่วมดูแลกำหนดอนาคตประเทศไทย
เป็นที่ประจักษ์ว่า พรรคการเมือง ที่ได้เสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี มากที่สุด ไม่น้อยกว่า 14 ล้านเสียง และมี ส.ส. 152 คน รวมทั้งสามารถประสานร่วมจัดตั้งรัฐบาล 5 พรรคการเมือง จากเสียงประชาชน ไม่น้อยกว่า 24 ล้านเสียง ทั้ง รวม ส.ส.ได้ 310 เสียง เป็นเสียงข้ามากที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ก็ตาม แต่ในระบบรัฐธรรมนูญ ปัจจุบัน ต้องได้เสียงสนับสนุนร่วมรัฐสภา ไม่น้อยกว่า 376 เสียง ถึงจะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายอำนาจเก่า ยังมีกระบวนการสกัดกั้นการสนับสนุน เสียงประชาชน ที่จะเสนอนายกรัฐมนตรี จากพรรคการเมืองที่ได้เสียงมากที่สุดจากการเลือกตั้ง ประกอบกับ การที่สมาชิกวุฒิสภา จำนวนหนึ่งมีท่าทีที่ชัดเจน ว่า ส.ว.โดยรวมไม่สนับสนุน นายกรัฐมนตรีที่เสนอโดย พรรคที่ชนะการเลือกตั้ง โดยไม่ฟังกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใดๆจากประชาชน และยังเชื่อในรูปแบบการเมืองขั้วอำนาจเดิม โดยที่ไม่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงใดๆให้ประเทศ และติดหล่มต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งจากนี้
เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 24 กันยายน 2549 โดยการรวมตัวกันของสมาชิกชุมชนผู้ประสบปัญหาความเดือนร้อน กว่า 200 ชุมชน ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ จากโครงสร้างอำนาจทางการเมือง กระบวนการบริหารประเทศ กฎหมาย และนโยบายรัฐบาลที่ผ่านๆมา ตั้งแต่ในอดีต สั่งสมมาอย่างยาวนาน และออกมาเคลื่อนไหวการเมืองภาคประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสมาชิกในนามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ)
ขอแสดงความยินดีและชื่นชมการแสดงออกของประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหนสีไหน หรืออยู่ในวัยใด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือแม้แต่ ผู้ป่วย ที่มีจิตใจมุ่งมั่นออกมาใช้สิทธิ์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อยืนยันถึงเจตนารมณ์ ความสำคัญของการเลือกตั้ง ว่าจะเป็นหนทางที่นำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง และการสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงประเทศชาติร่วมกัน
เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม) จึงขอให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง และให้ผลการเลือกตั้งนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลตามครรลองคลองธรรมของประชาธิปไตย ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในมติมหาชน และขอเรียกร้อง ดังนี้
1.เรียกร้องความสง่างามจากสมาชิกวุฒิสภาเคารพเสียงส่วนใหญ่ที่ประชาชนเลือกนายก และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล
2.เรียกร้องความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง จากพรรคการเมืองที่มาจากระบบประชาธิปไตยในทุกพรรคการเมือง ที่มีว่าที่ ส.ส.ผ่านการเลือกตั้งเข้ามา แสดงตนสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย โดยการยกมือสนับสนุน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มาจากเสียงข้างมากในสภาฯ โดยร่วมกันปิดสวิตซ์ ส.ว.โดยไม่หวังอำนาจต่อรองในการเป็นรัฐบาล และเราเชืีอว่าท่านจะได้รับการชื่นชมจากประชาชน และส่งผลต่อการสนับสนุนของประชาชนในอนาคตต่อไปด้วย
3.เรียกร้องไปยัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ที่เป็นสุภาพบุรุษและยึดมั่นในระบบประชาธิปไตยทุกคน ในการสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย โดยการเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด และยกมือสนับสนุน นายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากใน สภาผู้แทนราษฏร เพื่อให้ท่านเป็นสมาชิกที่มีเกียรติ โดยไม่สยบยอมต่อ ฐานอำนาจ คสช. ที่แต่งตั้ง ส.ว.มาเพื่อรักษาอำนาจไว้ โดยที่ท่านจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนอำนาจ คสช. ต่อไป โดยอาจส่งผลตอความนิยมของท่านเองในอนาคต ซึ่งอาจจะมากกว่าครั้งนี้ อีก
เชื่อว่าวิจารณญาณของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ทุกคน คงทราบกันดีว่า กระแสสังคมไทย พร้อมสนับสนุน ชื่นชม ยินดี กับผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่ มีสัจจะ และฟังเสียงประชาชน ในอนาคตต่อไป ท่ามกลางการปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอนาคต
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ