7 สิงหาคม นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ในรายการคุยนอกจอ ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย
นายสรยุทธถามว่า คณะเจรจาของพรรค ไม่เคยมาบอกถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลหรือ นางฐิติมา กล่าวว่า เขาบอกมาตลอด เช่นในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมีการเรียกพรรคต่างๆ เข้ามาคุย ช่วงนั้นทางคณะเจรจาได้สื่อสาร จะประชุมพรรคบ่อย จะอธิบายให้เราเข้าใจสถานการณ์ เราก็จะเข้าใจ ตอนนั้นได้รับแจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม จะมีการประชุมพรรค และแจ้งว่าวันที่ 4 สิงหาคม จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่พอเลื่อนการโหวตเลือกนายกฯ และวันที่ 3 สิงหาคม ก็ไม่มีการประชุมพรรคอีกเลย
“แต่ว่าสถานการณ์ความเข้าใจของคน กับ ส.ส. มันเป็นการบิลด์มาเรื่อยๆ ประชาชนมีต่อว่าต่อขาน สุดท้ายก็มีการเหมารวมไปหมดว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยทำอะไรก็แล้วแต่ คือการหลอกประชาชน เรารู้สึกว่า เราเป็น ส.ส.ตัวเล็กๆ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้เป็นทีมเจรจา ไม่ได้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่อะไร ดิฉันเองก็ห่างหายจากสภาไป 12 ปี เราเป็นคนตัวเล็กคนหนึ่ง และประชาชนก็เหมารวมไปหมด
เราเป็นคนที่มีจุดยืนประชาธิปไตย บ้านฉายแสง มีจุดยืนประชาธิปไตยแข็งแกร่ง ไม่เป็นไม้หลักปักเลน ไม่โอนเอน เลยรู้สึกว่ามาต่อว่าเราได้ยังไง มีประชาชนมาตั้งแต่เช้าเลย มาว่าถ้ามติพรรคจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคลุงตู่ หรือพรรคซีก 3 ป. ถือว่าคุณหลอกประชาชน เราก็รู้สึกว่าหมายถึง ฐิติมา ฉายแสง หรือที่หลอกประชาชน ก็เราไม่ใช่ไง ตอนหาเสียงเราก็เต็มที่เลย เราไม่เอา 3 ป. เราต้องปิดสวิตช์ ส.ว. เราต้องไม่รังแกประชาชน แต่มาบอกว่าเราหลอกประชาชน ไม่ได้” นางฐิติมา กล่าว
นายสรยุทธถามว่า ฉายแสง หาเสียงหนักมาก ว่า ไม่เอา 3 ป. ไม่เอาสืบทอดอำนาจเผด็จการ พี่ชาย คือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็คือเวทีใหญ่บอกแบบนี้ตลอด นางฐิติมา กล่าวว่า ใช่ มันเป็นแนวทางการพรรค พท.อยู่แล้วว่า ไม่เอาเผด็จการ เพียงแต่ว่าครอบครัวฉายแสง เป็นครอบครัวที่ทำงานการเมืองมานาน อย่าง พฤษภาคม 2535 ตนออกไปนอนอยู่กลางถนน เราร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมานาน
ส่วนจาตุรนต์ ฉายแสง หายไปไหนตั้งแต่ถอดตัวจาก 8 พรรคร่วม นางฐิติมา กล่าวว่า อาจจะเป็นคนตัวเล็กๆคนหนึ่งในพรรคไปแล้วตอนนี้
นายสรยุทธถามว่า ตอนนี้ทีมเจรจาของพรรค ยังไม่บอกว่ามีพรรค 2 ลุงหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า การที่ฉีก MOU และไม่มีก้าวไกล ถามว่า เราจะเดาไปทางไหน จะชนะ ส.ว.อย่างไร และจะบวกกันอย่างไร และอีกอย่างเขาไปเชิญพรรคต่างๆมาที่พรรค พท. คือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งเป็นพรรคที่ใครๆก็รู้ว่า เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งในความรู้สึกของตนก็มีคำถามว่าต้องคุยด้วยหรือ จะคุยอะไรกับเขา จะถามความเห็นอะไรจากเขาหรือ สุดท้ายได้ยินมาว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมันไม่ถูกต้อง
“ถึงบอกว่านอนไม่หลับ มันไปทางไหนก็ไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ ส.ว.คุณก็ไม่เอา พรรค ก.ก.เราก็ไม่เอา จะไปเอาทางนั้นประชาชนก็ไม่เอา ดูถูกพลังประชาชนไม่ได้นะ ถึงมีการมาเผากันหน้าพรรค ยิ่งทำให้นอนไม่หลับเข้าไปอีก ชาวบ้านด่า และส.ส. เวลาอยู่ในสภาก็มีคุยกัน มีน้อง ส.ส.เขตบางคนกลับบ้านไม่ได้ จะตอบประชาชนอย่างไร” นางฐิติมากล่าว
นายสรยุทธถามว่า มองว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่เอาพรรค ก.ก. ดังนั้นจึงต้องการเสียง ส.ว. ถ้าไม่มีพรรค พปชร. และพรรค รทสช. มันเกิดขึ้นไม่ได้ถูกหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า ใช่ ตอนนี้เราได้ยินเหมือนกับที่ประชาชนได้ยิน เพราะไม่มีการประชุมพรรค ก็ได้ยินตามข่าว มันหนัก มันหาทางออกไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร
นายสรยุทธถามว่า ถ้าพรรค ก.ก.ไม่โหวตให้ พรรคพท. ต้องการเสียง ส.ว.อีก 100 กว่าคน นางฐิติมา กล่าวว่า ทำได้หรือ ทำไม่ได้หรอก ทั้งนี้ ในการประชุม พรรคพท. วันที่ 8 สิงหาคม ตนจะรอดูทางพรรคชี้แจงก่อน ทางพรรค พท. ก็มีอิสระในการพูดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าบรรยากาศนี้มันหายไป และสถานการณ์บ้านเมืองมันเปลี่ยนทุกวัน บวกกับโซเชียลตะลุมบอน เลยรู้สึกเครียด
“สถานการณ์ตอนนี้จะมานั่งอึมครึมไม่ได้แล้ว เราเผชิญอยู่กับพี่น้องประชาชนที่ทั้งเข้าใจ และไม่เข้าใจ ถามว่าใครมีความสุขบ้าง เราอยากทำงานให้ประชาชนแล้ว ขอให้ยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่ตั้งให้รู้แล้วรู้รอดไปแบบไปร่วมกับใคร
แล้วที่พูดว่าสถานการณ์จะลุกเป็นไป คือ หน้าพรรค พท. ลุกเป็นไฟแล้ว และจะมีไฟอีกเพียบถ้าเป็นจริงขึ้นมา แค่บอกว่าไม่มี พรรค ก.ก. ยังเกิดแบบนั้น และถ้าบอกว่าสุดท้าย พรรค พท.จำเป็นต้องไปร่วม มันคืออะไร” นางฐิติมากล่าว
นายสรยุทธถามว่า ถ้าไม่มีทางเลือก เพราะต้องวิกฤตเศรษฐกิจรออยู่ ขอตั้งรัฐบาลให้ได้เอาพรรคลุงมา เพื่อทำรัฐธรรมนูญใหม่ นางฐิติมา กล่าวว่า มันไม่สวยหรูแบบนั้น และอีกอย่าง จุดยืนของตนที่เราหาเสียงไว้ว่าจะไม่เอา พรรค พปชร. และพรรค รทสช. เพราะเรารู้ว่าเขาบริหารประเทศไม่เป็น ถ้าพรรคพูดแบบนั้น และประชาชนเหมารวมเราจะตอบประชาชนอย่างไร มันต้องมีจุดยืน จากที่เราหาเสียงไว้ ตอนนี้มาถึงทางตัน ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่จุดยืนมันไปไหน ไม่ได้ก็ไม่ได้ ก็ให้เขาเป็นเสียงข้างน้อยไป
“อย่าดูถูกความคิด และพลังของประชาชน ตอนนี้เขายังออกมาไม่หมด ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริงอะไรจะเกิดขึ้น แล้วพรรคพท.จะอยู่อย่างไรในอนาคต ที่เขาบอกว่าจะสูญพันธุ์ จะกลายพันธ์ไม่จริงเหรอ มันเป็นไปได้เยอะมาก ที่เขาบอกว่าระวังจะไม่มีที่ยืน มันถาโถมมาเยอะมาก ถึงนอนไม่หลับ” นางฐิติมากล่าว
นายสรยุทธถามว่า อยากจะบอกผู้บริหารพรรคอย่างไร นางฐิติมา กล่าวว่า ต้องกลับไปคิด สถานการณ์เปลี่ยนทุกวัน เอาจุดยืนของเราเถอะ เราอย่าเป็นไม้หลักปักเลนเลย เราจำเป็นที่จะต้องดูแลประเทศชาติ เพราะเราคิดว่าถ้าประชาธิปไตยทำให้ประเทศชาติเจริญจริง ต่างประเทศเขายอมรับเราจริง เวลาไปเจรจาการค้า ถ้าเป็นเผด็จการ หรือไม่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เขาก็ไม่เอาด้วย เพราะฉะนั้น กลับมาคิดใหม่ และพี่น้องประชาชนรออยู่ ลองทำโพลดูสิว่าประชาชนว่าอย่างไร
นางฐิติมา กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงพรรค พท. กลัวว่าในอนาคตจะลำบาก โดยเฉพาะ ส.ส.เขต หนักมาก ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่ลงไปพบประชาชนขนาดนั้น ตนยังไม่รู้เลยว่า ถ้านพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. กลับ จ.น่านแล้ว จะเป็นอย่างไร ตนยังไม่รู้เลย ตนว่าต้องเห็นใจประชาชนด้วย และเพื่อให้ประเทศยืนอยู่ในสังคมโลกมันจำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
นายสรยุทธถามว่า ไม่เชื่อหรือว่าจะมีการโหวตให้ นายเศรษฐา เป็นนายกฯ โดยไม่มีพรรค 2 ลุงมาร่วม นางฐิติมา กล่าวว่า อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้เท่าที่ได้ยิน และเดาเอาเองก็โดนบีบหนักอยู่ ได้ยินคนเขาพูดมาว่า โดนพรรคนู้นพรรคนี้บีบเอาตำแหน่ง อย่างพรรค ภท. ก็มีอำนาจต่อรองสูงมาก ถ้ากลับไปจับมือกับ พรรค ก.ก. เท่าที่รู้พรรค ก.ก. จะยอมให้ดูกระทรวงเศรษฐกิจอยู่ที่พรรค พท.เกือบหมด แต่ตอนนี้เหลืออะไรไม่รู้ เลยกลุ้มใจแทนไปอีก
ส่วนถ้ามีวันหนึ่งที่พรรค พท. ร่วมกับ 2 ลุง จะทำอย่างไร นางฐิติมา กล่าวว่า ยังคิดไม่ได้ ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะทำอย่างไร ที่เครียดเพราะว่าตนจิตนาการว่า พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ส่วนจะกล้าขานว่าเห็นชอบหรือไม่ ถ้า พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หรือคนจาก 2 พรรคนั้นมาเป็นนายกฯ ไม่มี ดูปากอีกครั้ง ไม่มีทาง
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ