ครม.ไฟเขียว เพิ่มเงินประจำตำแหน่ง พ.ต.ท.ขึ้นไป ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวิชาชีพเฉพาะอีก 5 สายงาน





28 พฤษภาคม นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอ โดยการตราพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามที่ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่กำหนดให้ข้าราชการตำรวจให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งท้าย พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ 2565 ในอัตราใดให้เป็นไปตามที่พระราชกฤษฎีกากำหนด รวมทั้งเพื่อเป็นการปรับปรุงการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร และสอดคล้องกับการกำหนดลักษณะงานบริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นางรัดเกล้ากล่าวว่า สาระสำคัญของร่างฯ 3 ข้อ ดังนี้

1. ให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการอีกประเภทหนึ่งอยู่ด้วยแล้ว ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทบริหาร โดยไม่ตัดสิทธิการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการของตนเองที่ครองอยู่

2. ข้าราชการตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ “พันตำรวจโท” ขึ้นไป และดำรงตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่ในวิชาชีพเฉพาะได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ โดยเพิ่มสายงานที่ปฏิบัติวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งเป็นงานที่ไม่อาจมอบหมายให้ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างอื่นปฏิบัติงานแทนได้ เป็นงานมีผลกระทบกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งเพิ่มมา 5 สายงานจากเดิม 28 สายงาน ประกอบด้วยวิชาชีพเฉพาะกายบุคคล, วิชาชีพเฉพาะกิจกรรมบำบัด, เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก, แพทย์แผนไทย และเวชศาสตร์การสื่อความหมาย เพื่อรองรับและปรับปรุงภารกิจที่จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง และ

3. ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับการ หรือเทียบเท่าขึ้นไป ที่ต้องปฏิบัติงานที่เป็นงานหลักของหน่วยงานและต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยมีการเพิ่มลักษณะงานความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 2 ด้าน คือ ด้านการสืบสวนสอบสวน และด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ โดยได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ได้ดำเนินการได้ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 โดยรายงานว่าการตราพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จะไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ต่อรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณหมวดเงินด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: