14 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nitchanan Wangkahat น้ำ นิชนันท์” ระบุว่า ทหารเกณฑ์ชลบุรีโดนซ้อมจากการซ่อมวินัยจนเสียชีวิต ทำพิธีเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวาน ไม่ได้ไปร่วมงานเผาเพราะติดงานเผาศพอีกงาน แต่ได้ไปร่วมฟังงานสวดพระอภิธรรม พร้อมพูดคุยรายละเอียด กับพ่อแม่ ของ น้องเน หรือ นายวรปรัชญ์ อายุ 18 ปี ทหารเกณฑ์แบบสมัครใจไปเอง ที่ถูกซ่อมวินัย จนเสียชีวิต ขอเล่ารายละเอียดจากที่ฟังเรื่องราวกับพ่อแม่มา
- น้องเน เกิดที่บ้านโรงโป๊ะ บางละมุง เป็นลูกชายคนโต อายุ 18 ปี พ่อแม่แยกทางตั้งแต่ น้องเน อายุ 2 ขวบ ต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่ น้องเน อยู่และเติบโตกับแม่ และยาย ส่วนพ่อถึงแม้แยกทางกันก็ส่งเสียเลี้ยงดูน้องเนมาทำหน้าที่พ่อที่ดีเสมอมา
- แม่ น้องเน ทำงานประจำ เป็นลูกจ้างบริษัท และ ตอนเช้ามืดจะทำขนมไปขายที่ตลาดสด เพื่อหารายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัว น้องเน มักช่วยแม่ทำขนม และช่วยแม่ขายด้วย จนพอโตเป็นวัยรุ่น ก็เลิกช่วยมาขาย แต่ช่วยแม่เลี้ยงน้อง 2 คนอยู่บ้าน และ มีรายได้จากขายเกมส์ของเขาเอง
- ปกติน้องเนเป็นคนเรียบร้อยๆ ไม่ค่อยพูด บุคลิกอาจจะทำอะไรช้าหน่อย ไม่ใช่คนใจร้อนหรือทำอะไรเร็วๆ เรียนชั้น ปวช.ใกล้จะจบ แล้วดรอปไว้ พออายุ ครบ 17 ปี เป็นชายสัญชาติไทยต้องไปขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน หรือ ใบ สด.9 น้องเนก็ได้พูดคุยเรื่องเกณฑ์ทหารกับสัสดี น้องเนเป็นคนตัวใหญ่ สูง สัสดีก็แนะนำว่า รูปร่างเหมาะน่าสมัครไปเป็นทหารอาชีพ ทำให้ น้องเน ก็สนใจ
- พออายุครบ 18 ปี ไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เพื่อฝันอยากมีโอกาสต่อยอด ได้เป็นทหารอาชีพ เป็นนายสิบต่อ จะได้มีงานทำที่มั่นคง พร้อมจะเรียนต่อไปด้วย ในอนาคต จะได้ช่วยแบ่งเบาช่วยเหลือแม่ได้
- เดือนพฤศจิกายน 2566 ไปสมัครเป็นเกณฑ์ทหารช่วงแรกมวลร่างกายไม่ผ่าน สัดส่วนน้ำหนักกับส่วนสูงเกิน ทำให้ น้องเน กลับมาลดน้ำหนัก อีก 10 กก. เพื่อ ให้น้ำหนัก ได้
- ลดน้ำหนักได้แล้ววันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ก็เข้าไปเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่าย แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี
- วันที่ 26 พค 2567 ถึงวันพบญาติครั้งแรก แม่และยาย น้อง 2 คน ก็ไปเยี่ยม น้องเน ที่ค่าย แม่เห็นน้องเน น้ำหนักลดลงไปอีก 10 กก ภายใน ไม่ถึง 1 เดือน แม่ถามว่าไหวมั๊ย เขาก็บอกว่าไหว แต่ไม่ได้เล่าเรื่องฝึกอะไรให้แม่ฟังเลย เขาบอกแม่ว่า แม่อย่าทิ้งผมนะ ต้องมาเยี่ยมผมนะ แม่บอกมาแม่ต้องมาเยี่ยมซิ
- คืนวันที่ 22 มิถุนายน แม่ได้รับแจ้งว่าน้องชีพจรต่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือด ให้แม่ไปที่ ร.พ. พอแม่ไปถึงน้องเนไม่ได้สติ ใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายบวม ทราบผลจากการตรวจของหมอ
- สมองบวม
- ซีโครงหักทั้ง 2 ข้าง
- ปอดฉีก ปอดรั่ว
- ไหปลาร้าหัก
- กระดูกสันหลังหัก
- สอบถามได้ความว่าน้องโดนครูฝึกซ่อมวินัย 2 รอบ
รอบแรก น้องเน ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล ให้ กินยา รักษาแผลที่ขา ในห้องพยาบาลในค่ายทหาร แล้ว ทำให้เหมือน ครูฝึกได้ข่าวว่าน้องเนจะฟ้องผู้พัน หัวหน้าจริงๆ น้องเนยังไม่ได้ฟ้องเลย ก็เลยมาโดนครูฝึกซ้อมรอบที่ 2 อาการหนักกว่าเก่า และใช้ไม้ตีด้านหลังด้วย มีคนพบเห็นท่อนไม้ด้วย
ครูฝึก คนนี้เป็น คนพื้นเพอ่าวอุดม แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นครูฝึกเสนารักษ์ เหมือนหมอทหาร ยศ สิบเอก อายุ 33 ปี เป็นคนอยู่กับห้องเน คนสุดท้าย ตอนช้อม เพื่อนได้ยินเสียงน้อง ร้องออกมาจากในห้อง สักพัก เสียงเงียบหายไป เพื่อนเลยวิ่งออกมาดู เปิดห้องเข้าไป ก็เห็นครูฝึก คนนี้ กำลังปั๊มหัวใจทำ CPR ที่หน้าอก แม่ น้องเน ไม่แน่ใจว่า เป็นการ ทำ CPR เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนไข้หรือ ทำCPR ซ้ำเพื่อให้เสียชีวิตเร็วขึ้น กระดูกหน้าอกก็ช้ำมาก
น้องเน หมดสติหยุดหายใจประมาณ 14 นาที ก็ไม่เร่งรีบพาไปส่งโรงพยาบาล ร.พ. ทันที รอสักพักใหญ่ๆ ถึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล
- ร.พ. ก็ทำการปั๊มหายใจขึ้นมา และใส่ท่อช่วยหายใจ อยู่ได้ 2 คืน ส่งต่อ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในกรุงเทพฯ น้องเนก็ไม่ฟื้น จนมาเสียชีวิต ในวันที่2 สิงหาคม รวมเวลาทั้งหมด 40 วัน
- ครูฝึก พอรู้ว่าน้องเนเสียชีวิต ก็พยายามหนี จะข้ามฝั่งไปประเทศลาว ไปถึงนครพนมแล้ว ได้ผู้พัน หัวหน้า ของ น้องเน สั่งทีมทหาร ตำรวจ สกัดและให้รวบตัวมาทำคดี
- พ่อน้องเน ไปแจ้งความทำร้ายร่างกาย ตอนนั้นน้องเนยังไม่เสียชีวิต อัยการให้ปล่อยตัวครูฝึก ได้รับการประกันตัวออกมา
- ครูฝึกปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ว่าไม่ได้ทำ
- แม่มารู้ทีหลังๆน้องเนเสียชีวิตแล้ว ว่าน้องเน ได้แชตคุยกับแฟน บอกแฟนมาโดนตี โดนต่อย อยู่เฝ้าเวรยันเช้า
- ตอนนี้ ข้อมูลครูฝึกที่ซ่อมวินัย มีกี่คน เห็นพ่อน้องเนบอกมี 13 คน แต่ครูฝึกเสนารักษ์ อยู่กับน้องเนคนสุดท้าย และ มาซ้อมรอบที่ 2 พ่อน้องเนก็กำลังเช็กขอมูลให้ครบถ้วน เพื่อนทหารก็ไม่ค่อยกล้าให้ข้อมูลเท่าไหร่
- พ่อแม่ แม่น้อง รู้สึกเสียใจมาก และ รู้สึกโกรธครูฝึกมาก ว่าทำไมต้องใช้ความรุนแรงตีลูกเขาขนาดนี้ ลูกชายเขายังเด็กมากๆ อายุเพิ่ง 18 ปี และ เขาก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจมากที่อยากเป็นทหาร ทำไมต้องทำโทษกันรุนแรงขนาดนี้ ลูกชายไม่ใช่คนหัวรุนแรงเลย เรียบร้อยมาก ออกจะเป็นคนหัวอ่อนด้วยซ้ำไป แต่ทำไมทำกันขนาดนี้ ถ้าลูกชายไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่จะฝึกทหารไม่ได้ ก็ควรแจ้งบอกตรงๆ แม่พร้อมที่จะไปรับลูกชายกลับมาอยู่บ้านได้เลย
- พ่อแม่น้องเน บอกว่า ก็ขอให้แยกแยะว่า ผู้พัน หัวหน้า ของน้องเน พูดจาดีมาก ช่วยและประสานงานทุกอย่างรวมทั้งตามจับ ครูฝึกที่จะหลบหนีข้ามฝั่งทางช่่องทางธรรมชาติไปประเทศลาว จนรวบตัวมาได้ และช่วยเหลือเรื่องงานศพอยู่ ก็หลังงานศพเสร็จแล้ว จะมีการติดตามเรื่องคดีความอย่างไร จะแจ้ง ให้ทราบอีกที่ แม่น้องเนขอให้น้องเนเป็นศพสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้กับลูกใครอีก
- ถ้าฝ่ายทหารมีข้อมูลที่แตกต่างจากที่เล่ามาก็แจ้งมาได้ค่ะ ยินดีรับฟังข้อมูล และนำเสนอข้อเท็จจริง จากทุกฝ่าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.matichon.co.th/social/news_4736418
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ