วันที่ 11 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอภิชัย เสนาโยธี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ถึงกรณีที่ผู้ปกครองของผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน คนละ 500 บาท พร้อมรายชื่อนักเรียนและผู้ปกครอง เข้าร้องเรียนที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น ให้ตรวจสอบ นางสาวผู้อำนวยการโรงเรียน หลังนำเงินทุนของนักเรียนไปใช้ โดยไม่แจ้งผู้ปกครอง ทั้งที่บุตรหลานมีชื่อได้รับทุนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ปกครองไม่เคยทราบ และไม่เคยรู้ว่าบุตรหลานได้รับทุนในโครงการดังกล่าว จึงเห็นว่า ผู้อำนวยการนำเงินทุนการศึกษาของนักเรียนไปใช้ผิดประเภท ขอให้ย้าย ผอ. ออกนอกพื้นที่ และถ้าพบความผิดขอให้ดำเนินการตามกฎหมายนั้น
นายอภิชัย เผยว่า โครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน คนละ 500 บาทนั้น มีมานานแล้ว และผู้อำนวยการสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในเรื่องของค่าหนังสือ ค่าเสื้อผ้า วัสดุเครื่องแต่งกาย และจัดซื้อวัตถุดิบหรือค่ายานพาหนะ แต่การใช้เงินทุนการศึกษาในแต่ละครั้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจะต้องทำเรื่องแจ้งไปยัง สพป.ขอนแก่น เขต 2 เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ให้มีการอนุมัติ ที่สำคัญผู้อำนวยการจะต้องแจ้งให้ผู้ปกครองของนักเรียนทราบทุกครั้ง เพื่อให้ผู้ปกครองของนักเรียนอนุมัติให้ใช้เงินดังกล่าว
อีกทั้งการที่นักเรียนรายใดจะได้รับทุนการศึกษาจากโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน คนละ 500 บาท นั้น จะต้องผ่านการตรวจสอบจากครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ก่อนที่จะส่งชื่อไปให้คณะกรรมการของโครงการคัดเลือกชื่อนักเรียนให้ได้รับทุน และเมื่อนักเรียนรายใดได้รับทุนแล้ว อาจจะได้รับต่อเนื่อง หรืออาจจะถูกตัดชื่อไปในเทอมต่อไปก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะได้รับต่อเนื่องทุกราย
โดยมีเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้นักเรียนยากจน คือ ผู้ปกครองของนักเรียนรายนั้น มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อปี และจัดสรรให้นักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยจัดสรร 40% นักเรียนที่มีชื่อรับทุน จะได้รับเงิน 500 บาท ต่อคนต่อเทอม เท่ากับ 1 ปี นักเรียนจะได้รับทุนการศึกษาดังกล่าว 1,000 บาท
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ทราบเรื่องเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จึงได้นำคณะลงตรวจสอบที่โรงเรียน ซึ่งขณะลงตรวจสอบนั้น ไม่ทราบรายละเอียดว่า การใช้เงินทุนนักเรียนนั้นมีการใช้มาตั้งแต่เมื่อใด เพราะไม่ทราบรายละเอียด จึงตรวจสอบเฉพาะปี 2567 จึงไม่พบความผิดปกติ แต่ขณะนี้ทราบจากผู้ปกครองนักเรียนแล้วว่า มีชื่อบุตรหลานที่เรียนในโรงเรียนแห่งนี้รับทุน แต่ไม่ได้รับทุนดังกล่าว บางรายมีชื่อตั้งแต่เรียน ป.1 จนจบชั้น ป.6 ก็ไม่ได้รับทุน บางรายมีชื่อรับในช่วง ป.2 ป.3 ป.4 แต่ไม่เคยได้รับเงิน เพิ่งมารับในเทอมแรกของปี 2567 เท่ากับว่าที่ผ่านมาผู้อำนวยการโรงเรียน มีการใช้เงินที่ผิดปกติ จึงต้องถูกสืบสวน และสอบสวน เอาผิดทางวินัย
“เมื่อทราบรายละเอียดการเกิดปัญหาในการบริหารงานของผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวขึ้น เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 67 จึงตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาสืบสวน ให้เสร็จภายใน 7 วัน หากการสืบสวนพบว่ามีมูล ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว หากผลการสอบสวนข้อเท็จจริงยืนยันว่า ผู้อำนวยการผิด ก็จะถูกสอบสวนทางวินัยร้ายแรง ซึ่งความผิดวินัยร้ายแรงนั้น โทษมีทั้งปลดออกและไล่ออก”
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ