เผยรายได้และเรตติ้งล่าสุดของ “ช่อง 3” หลังไม่มี “สรยุทธ” ล่าสุดตัวเลขเป็นแบบนี้…!!





 

ชี้3กลุ่มได้ประโยชน์สรยุทธลาจอ

นายสิขเรศ ศิรากานต์ นักวิชาการอิสระด้านสื่อโทรทัศน์ดิจิตอลและสื่อใหม่ กล่าวถึงกรณีที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีที่บริษัทไร่ส้มยักยอกเงินโฆษณาที่ต้องส่งให้ บริษัท อสมท ระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548-28 เมษายน 2549 ส่งผลให้บริษัท อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท ได้ประกาศยุติบทบาททางหน้าจอโทรทัศน์ เนื่องจากกระแสกดดันจากฝ่ายต่างๆ ว่า ที่ผ่านมานายสรยุทธถือเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวระดับแม่เหล็กของช่อง 3 มีแฟนคลับติดตามจำนวนมาก การที่นายสรยุทธหายไปจากหน้าจอ กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ตามลำดับคือ 1.กลุ่มผู้นำตลาด สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 หรือรายการทางช่องอื่นๆ ที่มีเรตติ้งและลักษณะรายการที่ใกล้เคียงกัน

2.กลุ่มช่องฟรีทีวีช่องอื่นๆ ทั้งผู้ประกอบการรายเดิมจากทีวีอนาล็อก เช่น ช่อง 5 ช่อง 9 เอ็นบีที ช่องไทยพีบีเอส และช่องทีวีดิจิตอลในหมวดช่องข่าว และไม่ใช่ช่องข่าว และ 3.กลุ่มสื่อออนไลน์หรือสื่อทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) เนื่องจากสื่อในกลุ่มดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงมีความเป็นไปได้ที่แฟนคลับนายสรยุทธจะหันมาบริโภคข่าวสารผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้นแทนหน้าจอโทรทัศน์” นายสิขเรศกล่าว

 

[ads]

 

คาดช่อง3เสียหายกว่า100ล.
นายสิขเรศกล่าวว่า ผลประโยชน์ที่สื่ออื่นๆ จะได้รับ ส่วนใหญ่คือรายได้โฆษณาที่จะเพิ่มขึ้น จะไม่ได้รับในทันที แต่อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยสัก 1 เดือน ตามขั้นตอนการซื้อพื้นที่เวลาโฆษณาบนหน้าจอโทรทัศน์ ส่วนใหญ่จะทำสัญญาเป็นรายไตรมาส ครึ่งปี และ 1 ปี ฉะนั้น หากจะถอนโฆษณาจริง น่าจะไม่ใช่การถอนในทันที หรืออย่างน้อยอาจต้องรอให้ผ่านพ้นไตรมาสที่ 1 ของปีไปก่อน อีกทั้งขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการส่วนมากยังคงดูท่าทีของช่อง 3 ว่ามีการปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาเรตติ้งไว้หรือไม่

“ในส่วนของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จากการลาหน้าจอของนายสรยุทธ ผมมองว่าช่อง 3 ในช่วง 1 เดือนแรกน่าจะมีความเสียหายราว 100 ล้านบาท เนื่องจากทั้ง 3 รายการที่นายสรยุทธทำหน้าที่ก่อนหน้านี้ ได้แก่ เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาต่างมีอัตราค่าโฆษณาสูงที่สุดของรายการข่าวของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ทั้งโฆษณาที่ออกอากาศตามช่วงเวลาปกติ ที่มีอัตราโฆษณาราว 200,000-290,000 แสนบาทต่อนาที และโฆษณาแฝงต่างๆ” นายสิขเรศกล่าว และว่า เบื้องต้นคาดความเสียหายของช่อง 3 จะเป็นเพียงระยะสั้นหรือไม่เกินเดือนเมษายนเท่านั้น เนื่องจากภายในช่อง 3 ยังเหลือผู้ดำเนินรายการข่าวที่เป็นตัวแม่เหล็กอยู่อีกมากมาย และเร็วๆ นี้ ช่อง 3 อาจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อรักษาเรตติ้งของรายการข่าวให้ยังเกาะในกลุ่มผู้นำตลาดต่อไป

 

3 รายการทำเงิน2.9พันล./ปี
นายดิษฐนพ วัธนเวคิน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่นายสรยุทธประกาศยุติการทำหน้าที่พิธีกรว่าจะส่งผลต่อเรตติ้งของช่อง 3 แน่นอน แต่จะเป็นเท่าใดนั้นต้องรอติดตามการประเมินเรตติ้งในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เพราะในระยะสั้น เรตติ้งช่อง 3 โดยเฉพาะรายการที่มีนายสรยุทธเป็นพิธีกรทั้ง 3 รายการ เรตติ้งจะสูงขึ้นเป็นพิเศษเพราะคนจะเข้ามาติดตามการทำหน้าที่ของพิธีกรใหม่ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 รายการคิดเป็น 13% ของเวลาออกอากาศทั้งหมดของช่อง 3 เอชดีสามารถสร้างรายได้ให้ช่อง 3 ประมาณปีละ 2,900 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของรายได้ของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3

 

ขอบคุณที่มาจาก : มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: