Advertisement
Advertisement
Advertisement
อ.ประมาณ ทนายความชื่อดังชี้ ทุบตีภรรยาเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ มีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายและค่าเลี้ยงดู เรื่องส่วนตัวบางเรื่องแม้จะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ก็ไม่ควรนำเสนอ แนะสื่อมีเจตนาสุจริตในการทำงานและระวังความผิดฐานหมิ่นประมาท
จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการนำเสนอภาพข่าว โดยระบุว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัวของบุคคลสาธารณะ อาจารย์ประมาณ เลืองวัฒนะวนิช ประธานบริษัทอาณาจักรกฎหมายจำกัด ให้ความเห็นในเรื่องการที่ภรรยาหรือคนในครอบครัวถูกทำร้ายร่างกายว่า โดยปกติผู้ที่ทำร้ายร่างกายผู้อื่นนั้นมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ที่ระบุว่าผู้ใดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากเป็นการทำร้ายบุคคลภายในครอบครัว ก็จะมีความผิดฐานกระทำความรุนแรงภายในครอบครัว ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงภายในครอบครัว โดยเพียงแค่มีแนวโน้มว่าจะถูกทำร้าย ก็มีความผิดทางอาญาแล้ว และมีโทษจำคุก 6 เดือน ซึ่งหากภรรยาถูกสามีทำร้ายร่างกาย ก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย รวมไปถึงการฟ้องหย่า ซึ่งสามารถเรียกร้องสินสมรสได้ แบ่งทรัพย์สินได้ และหากในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีความลำบากในการดำรงชีพ ก็สามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้เช่นกัน ทั้งนี้หากผู้ถูกทำร้ายร่างกายกำลังตั้งครรภ์ และการทำร้ายร่างกายนั้นเป็นเหตุให้แท้งลูก ก็ถือเป็นความผิดฐานทำให้แท้งลูกอีกด้วย
ในกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอภาพผู้ถูกทำร้ายร่างกายหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม อันเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายร่างกายนั้นเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด อาจารย์ประมาณกล่าวว่า สื่อมวลชนจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียงหรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพหรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท ทั้งนี้ต้องดูที่เจตนาของการกระทำ หากแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต ก็ไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท
"อย่างกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหญิงสาวหน้าตาคล้ายดาราชื่อดังมีบาดแผลฟกช้ำ มีการระบุอย่างชัดเจนว่าเพียงแค่ 'หน้าคล้าย' และเจ้าตัวก็ยังไม่ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ถูกกระทำและเป็นผู้เสียหาย ซึ่งกรณีนี้สื่อมวลชนจะต้องวางตัวเป็นกลางในการนำเสนอข่าว และนำเสนอให้ครบทุกด้านโดยเจตนาสุจริต โดยสามารถอ้างอิงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 ในการนำเสนอข่าวได้ เรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องในครอบครัว ซึ่งแม้จะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ก็ไม่ควรนำเสนอ ทั้งนี้เรื่องของการใส่ความคิดเห็นส่วนตัวลงไปในข่าวนั้นจะต้องไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย " อาจารย์ประมาณ กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.jr-rsu.net
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ