โพลล์ชัด..ลูกที่เชื่อฟังคำสั่งสอน-ตั้งใจเรียนหนังสือ-ยอมรับเมื่อตนเองทำผิด ทำให้แม่ดีใจที่สุด





                           
                              
โพลล์ชัด..ลูกที่เชื่อฟัง

ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม แถลงผลสำรวจความรู้สึกและความคิดเห็นของคุณแม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อลูก ๆ เนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2557

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด982คน  สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์  กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 41ถึง 45ปีซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30.04 ขณะที่ร้อยละ 26.88มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 46ถึง 50ปี ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 34.01จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชน ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ  ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 31.67 ร้อยละ 24.44 และร้อยละ 21.28ตามลำดับ

สำหรับเรื่องที่ลูก ๆ เคยทำให้กลุ่มตัวอย่างดีใจสูงสุด3อันดับ ได้แก่ เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ผู้ปกครอง     คิดเป็นร้อยละ 79.84ตั้งใจเรียนหนังสือ คิดเป็นร้อยละ 76.58และยอมรับเมื่อตนเองทำผิด คิดเป็นร้อยละ 72.1ส่วนเรื่องที่ลูก ๆ เคยทำให้กลุ่มตัวอย่างเสียใจสูงสุด3อันดับ ได้แก่ ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ผู้ปกครอง คิดเป็นร้อยละ 78.72    พูดโกหกคิดเป็นร้อยละ 75.76และแอบหนีเรียนคิดเป็นร้อยละ 71.89

ในด้านการพูดคุยและการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างกลุ่มตัวอย่างกับลูก ๆ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 38.09ระบุว่าในปัจจุบันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกโดยเฉลี่ยประมาณ 5ถึง 6วันในหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.93ระบุว่าเป็นประจำทุกวัน และกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 34.22ระบุว่าในปัจจุบันตนเองมีโอกาสได้ร่วมรับประทานอาหารกับลูก ๆ โดยเฉลี่ยประมาณ 2 ถึง 4มื้อต่อสัปดาห์

สำหรับช่องทางการพูดคุยกับลูก ๆ นั้น กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 67.21ระบุว่าปัจจุบันนี้ตนเองได้พูดคุยกับลูกแบบเจอกันต่อหน้ามากกว่าการพูดคุยผ่านโทรศัพท์/สื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 19.86ระบุว่าได้พูดคุยผ่านทั้งสองช่องทางเท่า ๆ กัน ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 12.93ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกผ่านโทรศัพท์/สื่อสังคมออนไลน์มากกว่า

นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งมีความคิดเห็นว่าสภาพการใช้ชีวิตของตนเองในสังคมปัจจุบันมีส่วนทำให้ตนเองได้พูดคุยกับลูก ๆ น้อยลง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.68 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 58.35มีความคิดเห็นว่าพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของลูก ๆ ในสังคมปัจจุบันมีส่วนทำให้ตนเองได้พูดคุยกับลูก ๆ น้อยลง และกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 60.08มีความคิดเห็นว่าการที่ลูก ๆ มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต/โทรศัพท์เคลื่อนที่/สมาร์ทโฟนใช้มีส่วนทำให้ตนเองได้พูดคุยกับลูก ๆ น้อยลง

ภาพประกอบข่าวจากhttp://www.one.org/international/ (ท่านสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมช่วยเหลือเด็ก ๆ ได้จากเว็บไซต์นี้)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: