การทำธุรกรรมใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะฝาก ถอน โอน แม้เดี๋ยวนี้จะสบายมากขึ้น มีแอพพลิเคชันให้พร้อมทำที่ไหนก็ได้ มีพนักงานคอยทำทุกอย่างตั้งแต่เราเข้าธนาคารจนตัวเราแทบปลิว ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็อย่าเพิ่งวางใจไปเด็ดขาด เพราะบางครั้งความชะล่าใจของเราอาจนำมาซึ่งช่องโหว่บางอย่างให้เราเสียทรัพย์ได้
ภาพประกอบจาก http://pantip.com/topic/32968253
(ใช้เพียงประกอบบทความ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด)
โดยเฉพาะประกัน การลงทุนต่างๆ เดี๋ยวนี้ยิ่งต้องดูให้ดี มิฉะนั้นจะเป็นอย่างประสบการณ์ของคุณดอกแก้วเมษา กระทู้พันทิปhttp://pantip.com/topic/33767963 ที่ต้องสูญเงินไป 460,000 บาท เพียงเพราะทางธนาคารบิดเบือนข้อมูลแก่ลูกค้า แม้เรื่องราวดังกล่าวจะผ่านมาปีกว่าแล้ว แต่ก็ยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจนักลงทุน นักวางแผนการเงินทั้งหลายให้รอบคอบมากขึ้นได้อย่างดี
โดยเธอเล่าว่า…
เมื่อปี 2012 เจ้าหน้าที่ธนาคารได้มาเสนอขายประกันกับดิฉันในรูปแบบที่อธิบายว่าเป็นการออมเงิน และได้รับการคุ้มครองประกันภัยล้านสาม โดยมีการชำระเบี้ยประกันปีละ 154,765 บาท เพียง 5 ปี จะได้รับดอกเบี้ยทุกปีๆละ 13,000 บาท ซึ่งตอนพูดคุยเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ได้กดเครื่องคิดเลขคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเปรียบเทียบให้ดู ว่าทำแบบนี้มันคุ้มกว่าการฝากเงินประจำ แถมยังมีการคุ้มครองด้วยอีกต่างหาก
เจ้าหน้าที่พูดและทำให้ความเข้าใจว่ามันก็คือฝากเงินอีกรูปแบบหนึ่ง คือเป็นประกันไปด้วยในตัว แต่ไม่ได้รับการคุ้มครองในกรณีเข้า รพ. และที่สำคัญเมื่อดิฉันถามว่าสามารถยกเลิกและได้เงินคืนครบใช่ไหม ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าได้คืนครบ ซึ่งทางเราจะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้หลังจากที่จ่ายครบแล้ว 5 ปี แต่การคุ้มครองก็จะถูกยกเลิกไป
ดิฉันเองก็อยากบังคับตัวเองให้มีเงินเก็บ เมื่อมาคิดดูแล้วเลยตัดสินใจทำ ทางธนาคารก็อนุมัติบัตรเครดิต The Premier มาให้ด้วย บอกว่าสำหรับลูกค้า Exclusive member ตั้งแต่ตอนนั้นจนมาปัจจุบัน ดิฉันจ่ายไปแล้ว 3 รอบป็น 464,295 บาท โดยไม่เคยเอะใจอะไรทั้งสิ้น จนเมื่อพฤษภาที่ผ่านมา ดิฉันเข้ามาดูในกระทู้พันทิปจนมาเจอกระทู้นี้ pantip.com/topic/33605960 ก็เลยหลังไมค์ไปถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอได้ยินที่น้องเขาบอก ใจสั่นมากๆแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนั้นดึกแล้ว รอจนเช้าจะโทรไปก็ยังไม่ได้เพราะเลขกรรมธรรม์อะไรก็ไม่มี ต้องรอทางคุณแม่ไปหา นึกถึงความสะเพร่าของตัวเอง เชื่ออะไรง่ายๆ เพราะคิดว่าเขาเป็นธนาคารไม่หลอกหรอก
สายๆ เลยโทรไปสอบถามกับทางเมืองไทยประกันชีวิตได้ความว่า จะได้คืนครบตามจำนวนที่ส่งไปตอนอายุ 90 !!! นั่นหมายความว่าถ้าดิฉันจะขอเงินคืนก่อนอายุ 90 หรือภาษาประกันเรียกว่า "เวนคืนกรรมธรรม์" ดิฉันจะไม่ได้รับเงินเต็มจำนวนแต่จะได้ตามปีที่เราจะขอเวนคืน เลยบอกกับทางเจ้าหน้าที่เมืองไทยว่าตอนที่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกขายประกันตัวเนี่ย ไม่เคยมีคำพูดแบบนี้ออกมาเลย ถ้าบอกว่าได้คืนตอนอายุ 90 เราไม่มีทางทำแน่นอน
เราบอกเจ้าหน้าที่ว่าคนที่โดนแบบเราไม่ได้มีคนเดียว แล้วที่เรารู้เรื่องนี้ก็มาจากที่เราอ่านเจอในพันทิป นั้นแสดงว่าไม่ใช่เกิดจากการที่เราฟังผิดหรือไม่เข้าใจ แต่เป็นเพราะข้อมูลที่ได้รับมันไม่ถูกต้อง บิดเบือน หลอกลวง
คำถามที่ตามมาคือ ทำไมพนักงานต่างที่ ต่างสาขา ต่างเวลา ถึงให้ข้อมูลแบบนี้เหมือนกัน แล้วการที่พนักงานธนาคารเอาเวลางานเพื่อมาขายประกัน แสดงว่าธนาคารย่อมรู้เห็นเป็นใจทุกอย่างและสนับสนุนให้เกิดขึ้น ถ้ามันไม่จริงอยากให้ทางธนาคารมีคำตอบให้ดิฉันว่าทำไมพนักงานคุณถึงพูดชักจูงแบบเดียวกัน
หลังจากเหตุการณ์นี้ดิฉันเข้าไปไล่อ่านคนที่โดนแบบนี้เกิดขึ้นเยอะมาก บางคนโดนแบบจ่าย 9 พันบาทก็มี ทำงานจนเก็บเงินได้ 9 พัน ธนาคารชวนทำประกันบอกว่าเป็นเงินออมสุดท้ายไม่ใช่ หรือบางคนก็เป็นคนแก่ และต้องมีอีกเยอะมากที่ไม่ได้มาโพสหรือแจ้งให้เราทราบ
ดิฉันจึงอยากให้ข้อมูลตรงนี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนไทยทุกคนที่โดนชักจูงให้ทำประกันกับทางธนาคาร ถ้าอยากทำจริงๆให้ติดต่อบริษัทประกันโดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้องอย่าไปฟังหรือเชื่อ 100% กับข้อมูลที่ทางธนาคารให้แบบที่ดิฉันโดนเพราะเมื่อเกิดเรื่องขึ้น ทางธนาคารจะพูดแบบเดียวกันว่าได้ให้ข้อมูลครบถ้วนแล้วกับทางลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทประกันก็เชื่อธนาคาร คือไม่ยอมคืนเงินให้เรา ทั้งๆที่มันไม่ใช่แล้วเราเป็นฝ่ายเดือดร้อนกับข้อมูลบิดเบือนที่ได้รับมาตั้งแต่ต้น
เราจะเดินหน้าสู้ต่อเพื่อความถูกต้อง
หลังจากที่เธอได้โพสต์เรื่องราวไป ทางธนาคารซึ่งใช้ล็อกอินK8888 ก็ได้มาตอบเธอในความคิดเห็นที่ 4
ธนาคารต้องขออภัยในความไม่สะดวกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างสูงค่ะ อย่างไรแล้วรบกวนคุณดอกแก้วเมษา แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาทางหลังไมค์เพื่อให้ K8888 ช่วยประสานงานฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ดังนี้นะคะ
– ชื่อและนามสกุลจริง
– หมายเลขกรมธรรม์
– ชื่อสาขาที่ติดต่อ
– หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อสะดวก
รวมถึงฝากไฟล์ประกาศให้แอดมินพันทิปปักหมุดไว้บนสุด ข้อความในประกาศชี้แจงมีดังนี้
แต่เธอก็ยังไม่พอใจ เธอได้ตอบธนาคารในความเห็นที่ 4-1 ว่า..
ติดต่อทางเมืองไทยประกันชีวิตไปแล้วค่ะ และทางเมืองไทยก็แจ้งมาว่าทางธนาคารได้บอกว่าให้ข้อมูลที่ถูกต้องแล้วกับทางดิฉัน ซึ่งถ้าถูกต้องจริงๆ ดิฉันจะไม่ทราบเลยเหรอคะว่าตัวเองจะไม่ได้เงินคืนตามที่จ่ายไปทั้งหมด แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ดิฉันจะทำไปเพื่ออะไรคะ ไม่เคยคิดว่าจะอายุยืนยาวจนถึง 90 หรอกนะคะ เพราะฉะนั้นไม่หวังอะไรกับทางธนาคารอีกต่อไป
อีกทั้งยังขอเตือนอีกหลายคนในความคิดเห็นที่ 13
ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศค่ะ ที่กลับไปเมืองไทยปีละครั้งคือไปเยี่ยมคุณแม่ กับพาที่บ้านไปเที่ยว เรื่องกรมธรรม์ไม่เคยเปิดอ่าน เอาจริงๆ ไม่เคยเห็นหน้าตาเลย จริงๆ ถึงตอนนี้มีกรมธรรม์เราก็อ่านก็ไม่เข้าใจอยู่ว่า การเวนคืนเขาคำนวณจากตรงไหนว่าได้เท่าไหร่ๆ ที่เรานำเรื่องนี้มาตั้งกระทู้เราก็คิดแต่แรกว่าคงต้องมีคนว่าเรื่องไม่อ่านให้รอบคอบ เราเข้าใจ เพราะมันก็จริง แต่อย่างน้อยคนที่ไม่รอบคอบอย่างเรา ขอให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ เพื่อจะได้ไม่มีใครโดนแบบเราอีกเพราะต้นเหตุยังไม่เคยโดนอะไรเลย มีแต่ได้อย่างเดียว
นอกจากทางธนาคารแล้ว ก็ยังมีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่าเคยโดนแบงค์เจ้านี้หลอกเช่นกัน แต่ความคิดเห็นที่น่าสนใจ น่าคิดที่สุดก็คือ ความคิดเห็นที่ 13-2 ของคุณkop999kiat สามารถเตือนสติลูกค้ารวมถึงตัวแทนได้ดีทีเดียว
แสดงว่ากรมธรรณ์ประกันชีวิตใช้ภาษากฎหมาย ซึ่งคนวิชาชีพอื่นยังยากที่จะเข้าใจได้ ถ้าเจ้าของกระทู้หรือคนทำประกันอื่นๆ ไม่ได้เรียนกฎหมายหรือมีเพื่อนเป็นทนายไม่งั้นก็ต้องไปจ้างทนายมาเพื่ออธิบายให้เข้าใจ คงโยนกรมธรรณ์ไปให้ทนายอ่านเพื่ออธิบายให้เราฟรีๆ ไม่ได้หรอก ปัญหาเรื่องการทำประกันจึงต้องมีตัวแทนช่วยในการอธิบาย ซึ่งผมมองว่าจรรยาบรรณเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ เช่นแพทย์ หรือ วิศวกร แต่เป็นเพราะคนคดในข้องอในกระดูกในบ้านเมืองเรามันมีเยอะเหลือเกิน เพราะขนาดชนชั้นปกครองยังคดโกงมากมายมันคือแบบอย่างที่ผิดนำมาซึ่งความเสื่อมของสังคมนั้นๆ จึงมีแต่คนโลภ เจ้าของกระทู้อาจจะพลาดที่ไม่ละเอียดรอบคอบในการอ่านสัญญา (ซึ่งผมแปลกใจมาก มีคนพลาดเหมือนเจ้าของกระทู้เยอะมาก) แต่ที่ผิดเต็มๆ คือ ตัวแทนประกันชีวิตและบริษัทประกันในเครือของธนาคาร นอกจากจะไม่ชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจนแล้ว ยังหลอกล่อ ล่อลวง ให้ลูกค้าเข้าใจผิดในสาระสำคัญที่จำเป็นต้องทำสัญญาต่อกัน ทางแก้คงมีทางกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญน่าห่วงใยคือจรรยาบรรณในวิชาชีพตน ถ้าปล่อยไปแบบนี้เรื่อยๆ สังคมนี้จะเสื่อมทรามลงทุกวัน เด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาคงไม่รู้จกคำว่าศีลธรรม
ล่าสุด เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าของกระทู้ก็ได้อัพเดทความเคลื่อนไหวหลังจากเหตุการณ์ได้ครบรอบ 1 ปีหลังจากที่ตั้งกระทู้และธนาคารก็พอตื่นตัวดำเนินการให้เธอบ้าง เธอจึงพอจะมีข่าวดีบ้างเร็วๆ นี้
แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูล 12/06/2015 (14.23 เวลาเมืองไทย)
ดิฉันโทรติดต่อเจ้าหน้าที่เมืองไทยประกันชีวิตถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งผลสรุปรอบสอง (12/06/2015) คือ ทางบริษัทจะคืนเงินค่าเบี้ยประกันให้ครบตามจำนวนเงินที่จ่ายไปทั้งหมด โดยให้ทางเราส่งคืนหนังสือกรรมธรรม์ให้กับทางบริษัทและจะดำเนินการโอนเงินให้ในลำดับต่อไป ซึ่งดิฉันจะมาอัพเดทข้อมูลอย่างต่อเนื่องค่ะ
ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดีสำหรับคนทั้งหลายที่สนใจการธุรกรรมต่างๆ กับธนาคาร แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน ธนาคารจะสรรหาความสบายพร้อมเสิร์ฟหาเรามากเท่าไหร่ เสียเวลาเช็คหน่อย ตรวจสอบนิด เราก็จะมีโอกาสพลาดได้น้อยมาก หรือไม่พลาดเลย
คลิกที่นี่หากต้องการเข้าสู่หน้าเว็บต้นเรื่อง
เพื่ออ่านความคิดเห็นทั้งหมดกว่า 400 คอมเม้นท์
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณดอกแก้วเมษา เว็บไซต์http://pantip.com/topic/33767963
เรียบเรียงใหม่โดย Thaijobsgov
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ