ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก โท และ ตรี จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปี 2558 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ เมื่อวันที่ 24-25 ต.ค. โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ได้พระราชทานพระโอวาท แก่บัณฑิต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า
“ณ ที่นี้ ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างผู้ที่ทำงานและประสบความสำเร็จ คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นผู้ที่มีความรู้ทั้งด้านกว้างและด้านลึกในวิชาเกษตรกรรม และวิชาชลประทาน ทำให้ทรงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่รอบๆ ตัวพระองค์ท่าน จึงได้สามารถนำความเจริญมาสู่เมืองไทย ท่านในที่นี้ อาจจะเกิดช้าไป ไม่ทันได้เห็นประเทศไทยเมื่อ 40 กว่าปีมาแล้ว ในขณะนั้นประเทศไทยวุ่นวาย มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มีการรบพุ่งต่อสู้กัน ในประเทศชาติ ซึ่งข้าพเจ้าได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทมา
ตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ 14 ได้ออกไปตามหมู่บ้านต่างๆ ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทั้งด้านสุขภาพพลานามัย และทางด้านประกอบอาชีพ และได้เห็นวิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติตน ทรงไม่เคยนึกถึงพระองค์เองเลย ทรงนึกถึงแต่ประชาชน ทุกอย่างก็ประชาชนทั้งสิ้น ทรัพย์สมบัติอะไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ที่ปรารถนาของพระองค์ท่าน ความปรารถนาอย่างเดียวของพระองค์ท่าน คืออยากให้คนไทยมีความสุข มีความเจริญและก้าวหน้าเท่าเทียมกับอารยประเทศ ถ้าบัณฑิตทั้งหลายดำเนินรอยตามพระยุคลบาทช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นกว่านี้ โดยบัณฑิตทั้งหลายก็คงจะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงได้ทำไว้ และอาจจะนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน”
โดยวันที่ 25 ต.ค. ได้พระราชทานพระโอวาท แก่บัณฑิต มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ” การฝึกจิตให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมนั้น แม้ว่าจะเป็นการฝึกที่ยากลำบาก เพราะว่า ในทุก ๆ คนที่ยังต้องเกิดมาบนโลกแห่งความทุกข์นี้ ทุกคนก็มีกันทั้งความชั่วทั้งความดี แต่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านได้สอนข้าพเจ้าว่า ใช่ ในตัวเรามีทั้งความดีและความชั่ว แต่สิ่งที่ควรทำคือ ควรส่งเสริมและควรฝึกฝนในสิ่งที่เป็นความดีให้มาก ๆ และให้เหยียบย่ำความชั่วร้ายให้จมดินไป ถ้าทุกคนทำได้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่า การที่จะเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ย่อมไม่ยาก”
“การที่คนเราจะต้องมีตัวอย่างสักคนหนึ่ง หรือพระองค์หนึ่ง ที่กระทำความดี ข้าพเจ้าขอให้ทุกคนมองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ข้าพเจ้าเป็นลูกท่านตั้งแต่เด็กจนวาระสุดท้ายของท่าน ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นท่านทรงทำงานอะไรเพื่อตัวเองเลย ทุกอย่างเพื่อสังคม เพื่อประชาชน และความเป็นอยู่ของท่านก็เป็นทุกอย่างอย่างพอเพียงที่สุด และท่านไม่เคยตำหนิคน ถ้าคนไหนท่านเห็นว่าเขาจะพลาด และท่านเห็นว่าตักเตือนกันได้ เพราะเป็นคนสนิทสนม ท่านก็จะทรงตักเตือน แต่ถ้าตักเตือนแล้วเขายิ่งโกรธยิ่งแค้น ยิ่งตะแบงซ้าย ตะแบงขวา เหมือนม้าที่เฮี้ยวๆ ท่านก็จะทรงหยุดและไม่ยุ่งด้วยเลยกับคนนั้น ก็ขอให้ทุกคนนำตัวอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปเป็นตัวอย่างแก่ตนเอง และเป็นตัวอย่างสอนลูกหลานต่อไปในอนาคต”
พระราชดำรัส เริ่มต้นนาทีที่ 8.08
[embedyt] http://www.youtube.com/watch?v=XNxt7mRcQ8Q[/embedyt]
พระราชดำรัส เริ่มต้นนาทีที่ 4.06
[embedyt] http://www.youtube.com/watch?v=joJcJ1QGzoE[/embedyt]
ภาพและข่าวจาก : khaosod.co.th
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ