19 กุมภาพันธ์ 2559 ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์รายงานว่า นายศิวจักร ชื่นสังข์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการสำนัก ผู้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1-16 และสาขาทุกสาขา ผู้อำนวยการกองทุกกอง รวมทั้งผู้อำนวยการและหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าศูนย์ทุกกลุ่ม ทุกศูนย์ในสังกัด เรื่องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ถูกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้
โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) โดยนายไพศาล สถิตวิบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักฯ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดขอความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ จำนวน 4 ราย ซึ่งถูกฟ้องคดีอาญา เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ยมและเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารม้าที่ 12 (ค่ายพระยาไชยบูรณ์) เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ในการปะทะกันและเป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บสาหัส 5 คน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายในการแก้ต่างคดี เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท และการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย จำนวน 1,350,000 บาท โดยไม่มีระเบียบและบทบัญญัติกฎหมายที่จะให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่กรณีถูกฟ้องคดีอาญา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 ราย เป็นผู้มีรายได้น้อย มีภาระรับผิดชอบต่อครอบครัวและไม่ได้รับการเลื่อนค่าตอบแทนประจำปี เนื่องจากถูกฟ้องคดีอาญา จึงเกินกำลังความสามารถที่จะจ้างทนายและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหาย
หนังสือดังกล่าวระบุว่า สำนักบริหารงานกลางจึงขอให้แจ้งสำนัก กอง หน่วยงานและบุคลากรในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อขอความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายดังกล่าวโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางบัว ชื่อบัญชี “ส่วนอำนวยการ สำนักบริหารงานกลาง” บัญชีเลขที่ 053 – 4 – 34180 – 5 พร้อมส่งหลักฐานการโอนเงินให้ส่วนอำนวยการ สำนักบริหารงานกลางทางโทรสารหมายเลข 0 2940 6665 ภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีหนังสือดังกล่าวไปถึงหน่วยงานต่างๆ ปรากฏว่าได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอย่างหนักว่า เหตุใดผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติฯ ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเจ้าหน้าที่ทั้งที่เจ้าหน้าที่ทำงานปกป้องผืนป่าตามนโยบายพอเกิดปัญหากลับให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตัวเองทั้งในเรื่องของคดี แถมยังไม่ได้เลื่อนค่าตอบแทน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีกำลังใจทำงาน นอกจากนี้หลายรายระบุว่าเหตุใดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่มีแนวปฏิบัติในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ถูกฟ้องในคดีอาญาเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ แต่กลับให้แก้ปัญหาเอง ขณะที่การจัดเก็บเงินรายได้จากอุทยานฯ ปีละมากกว่า 1 พันล้านบาท เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้สอบถามไปยังนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายเฉลิมชัย ปาปะทา รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ รวมทั้งนายนายศิวจักร ชื่นสังข์ ผู้อำนวยสำนักบริหารงานกลาง ที่เป็นผู้ออกหนังสือเวียนในการเรี่ยไร แต่ไม่สามารถติดต่อได้
นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัด ทส. ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า ทราบเรื่องแล้ว น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ และอยู่ระหว่างหารือเรื่องสวัสดิการ แต่ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็มีสวัสดิการอยู่แล้วควรดำเนินการไปก่อน เพราะต้องดูแลเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถนำเงินรายได้ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ มาใช้ได้หรือไม่ ปลัด ทส.กล่าวว่า น่าจะนำมาใช้ได้ แต่ไม่ทราบว่าติดเงื่อนไขอะไรหรือไม่ ซึ่งได้หารือกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ แล้วว่าจะต้องเปิดช่องให้นำเงินส่วนนี้ออกมาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้ได้
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ