สลดใจ!ด.ช.7ขวบถูกเพื่อนใช้ฝักคูณแทงตาจนต้องควักตาทิ้ง พ่อแม่คู่กรณีปัดรับผิดชอบ





ผู้สื่อข่าวทีนิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 60 ที่บ้านเลขที่ 508 หมู่ 7 บ้านตำแย ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนศรีสะเกษ ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจกับ นางอุไรทิพย์ ดวงทอง อายุ 28 ปี และนายชัยวัฒน์ บุตรราช อายุ 28 ปี 2 สามีภรรยาที่ลูกชายคือ ด.ช.ยศกร บุตรราช หรือน้องอิกคิว อายุ 7 ปี  น.ร.ชั้น ป. 1 ร.ร.แห่งหนึ่งที่ได้ถูก ด.ช.อิน อายุ 10 ปี ซึ่งมาเล่นที่บ้านได้ใช้ฝักคูณแทงเข้าไปที่ดวงตาข้างซ้ายของ ด.ช.อิกคิว จนทำให้ดวงตาแตกยุบเข้าไปในเบ้าตา แพทย์ต้องควักดวงตาทิ้ง ซึ่งขณะนี้ด.ช.อิกคิว ยังคงใช้ผ้าปิดตาเอาไว้ เนื่องจากว่าแผลยังไม่หายสนิท โดยพ่อและแม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด 

 

 

นางอุไรทิพย์ ดวงทอง อายุ 28 ปี แม่ของน้องอิกคิว เล่าว่า เหตุที่ทำให้น้องอิกคิวพิการตาบอดตลอดชีวิตเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 4 ต.ค. 2559 ขณะนั้นน้องอิกคิวกำลังเล่นอยู่หน้าบ้านของตนเอง ปรากฏว่าได้มี ด.ช.ธีรภัทร หรือ อิน ซึ่งติดตามพ่อแม่มาร่วมงานวันเกิดของเพื่อนบ้านคนหนึ่งได้มาขอเล่นด้วยและต่อมาปรากฏว่า ตนได้ยินเสียงน้องอิกคิวร้องไห้เสียงดังลั่น ตนอยู่ในบ้านจึงได้รีบวิ่งออกมาดูพบว่าน้องอิกคิวมีเลือดไหลทะลักออกมาจากดวงตาข้างซ้ายตนจึงได้ถามว่าใครทำแบบนี้น้องอิกคิวได้ชี้ไปที่ ด.ช.อิน ซึ่งน้องอิกคิวบอกว่าด.ช.อินได้ใช้ฝักคูณที่น้องอิกคิวเก็บมาเพื่อที่จะเล่นขายของโดยได้หักฝักคูณเป็น 2 ท่อน จากนั้นได้ใช้ฝักคูณแทงมาที่น้องอิกคิว โดยครั้งแรกน้องอิกคิวหลบทัน แต่พอ ด.ช.อิน ใช้ฝักคูณแทงมาครั้งที่ 2 น้องอิกคิวหลบไม่ทันทำให้โดนฝักคูณทางเข้าที่ดวงตาข้างซ้ายจนทำให้ดวงตายุบเข้าไปในเบ้าตาเลือดไหลทะลักออกมาจำนวนมาก ตนจึงได้รีบนำตัวน้องอิกคิวส่งไปที่ รพ.อุทุมพรพิสัย และแพทย์ได้ส่งตัวต่อไปยัง รพ.ศรีสะเกษ

 

 

นางอุไรทิพย์ เล่าต่อไปว่า แพทย์รพ.ศรีสะเกษได้ทำการตรวจบาดแผลแล้วแจ้งว่าจะต้องควักดวงตาข้างซ้ายของน้องอิกคิวทิ้ง เนื่องจากว่าดวงตากระจกแก้วตาแตกกระจายไม่สามารถที่จะรักษาได้หากไม่ควักตาทิ้งอาจจะทำให้ลุกลามติดเชื้อไปยังดวงตาอีกข้างหนึ่งและจะทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ตนจึงได้อนุญาตให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาลโดยการควักเอาดวงตาข้างซ้ายของน้องอิกคิวทิ้งไปจากนั้นตนได้ไปแจ้งความกับพ.ต.ต.ธงชัย ตอพิมาย สารวัตรสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อให้ดำเนินคดีกับด.ช.อินตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายกันซึ่งด.ช.อิน ได้ยอมรับต่อหน้าแม่และต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า ได้ใช้ฝักคูณแทงดวงตาของน้องอิกคิวจริงโดยตนได้บันทึกเสียงการรับสารภาพเอาไว้ด้วยแล้วซึ่งแม่ของ ด.ช.อิน ได้รับปากว่า ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้จำนวน 10,000 บาท แต่ตนไม่ยินยอม เนื่องจากว่า น้องอิกคิวต้องพิการตลอดชีวิตและต้องใช้ตาปลอมเพื่อที่น้องอิกคิวที่ตาบอดจะได้ไม่มีปมด้อยมากนักเวลาไปเรียนหนังสือซึ่งหลังจากนั้นแม่ของ ด.ช.อิน ไม่ยอมที่จะเจรจาชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด แม้ว่าตนจะไปหาที่บ้านเพื่อเจรจาเรื่องนี้ก็ตาม โดยบอกปัดปฏิเสธความรับผิดชอบและบอกว่า เด็กเล่นกันเองทำไมต้องไปรับผิดชอบค่าเสียหายด้วย

 

 

นางอุไรทิพย์ ยังเล่าต่อไปว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ปรากฏว่าผ่าน 4 เดือนกว่าแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าทางคดีเมื่อไปสอบถามความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวนก็แจ้งว่าให้รอไปก่อนไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ตนจึงขอร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่าขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าของคดีนี้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ด้วย เนื่องจากว่าคดีล่าช้ามากและขอให้พ่อแม่ของ ด.ช.อิน มาช่วยเหลือรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามความเหมาะสมด้วยเนื่องจากว่าไม่มีการติดต่อให้การช่วยเหลือแต่อย่างใดและขอความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศขอได้โปรดกรุณามอบดวงตาเทียมให้กับน้องอิกคิวด้วย   

 

 

นางอุไรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ตนขอฝากเป็นอุทาหรณ์ไปยังพ่อแม่ทุกคนว่าในการเล่นของลูกหลานไม่ควรที่จะให้เล่นของที่มีคมที่อาจจะเป็นอันตรายจนถึงกับพิการเหมือนกับลูกของตนที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ควรที่จะดูแลลูกหลานของตนเองอย่างใกล้ชิดด้วยเพราะหากว่าเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้จะต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตเมื่อโตขึ้นไม่สามารถที่จะทำงานรับราชการหรือทำงานดีเหมือนกับคนที่ดวงตาปกติได้

ทางด้าน พ.ต.ต.ธงชัย ตอพิมาย สารวัตรสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย เจ้าของคดี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนได้เร่งรัดในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเต็มที่พร้อมทั้งได้นัดหมายให้มีการเจรจาค่าเสียหายกันด้วยแต่ว่าหลังจากที่มีการเจรจากันแล้วคงจะไม่สามารถที่จะเจรจาตกลงกันได้เนื่องจากว่า ด.ช.อิกคิว ถึงกับตาบอด ซึ่งตนได้ตั้งข้อหากับด.ช.อิน ว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและขณะนี้กำลังรอหนังสือตอบเกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติของ ด.ช.อิน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน  หลังจากได้รับหนังสือตอบแล้วจะได้นำตัว ด.ช.อินส่งฟ้องไปยังอัยการ จ.ศรีสะเกษ ตามกฎหมายต่อไป

ข่าวจาก : ทีนิวส์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: