เฟซบุ๊กทำให้สมหวัง!! 33ปีที่แม่ลูกพรากกันไป ในที่สุดก็เจอกันแล้ว!!





สองแม่ลูกที่พลัดพรากจากกัน 33 ปี โชคดีได้เจอกันทางเฟซบุ๊กและนัดมาพบหน้าอีกครั้ง ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างแสดงความยินดีกล่าวขานกันกว้างขวาง

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้มีเรื่องราวประทับใจเกิดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าแปลกเมื่อสองแม่ลูกที่พลัดพรากกัน 33 ปี ได้ตามหากันจนเจอในเฟซบุ๊กและนัดเดินทางมาพบหน้ากันที่สถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ โดยเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนจำนวนมากไปเฝ้าติดตามทำข่าว 

โดยนางวิภาวดี ธิสอน หรือ กล้วย อายุ 54 ปี ชาวจ.อุดรธานี ได้ไปรอรับนายปริญญา ธิสอน อายุ 36  ปี หรือ โอ๊ด ซึ่งเป็นลูกชายที่สถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ พร้อมเปิดเผยว่า ตอนที่ลูกชายอายุได้ 3 ขวบ มีปัญหาครอบครัวจนต้องเลิกกับสามี ส่วนลูกก็อยู่กับครอบครัวสามีที่บ้านในเวียง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ช่วงแรกๆก็ได้พบกับลูกบ้างแต่ชีวิตค่อนข้างลำบากเพราะทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต และปัจจุบันไปๆมาๆระหว่างหาดใหญ่กับสิงคโปร์เพราะไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่นั่น เมื่อชีวิตเริ่มดีขึ้นก็ติดตามหาลูกชาย กระทั่ง 4 วันก่อนได้ไปพิมพ์ชื่อนามสกุลค้นหาในเฟซบุ๊กจนเจอและได้ติดต่อกัน หลังลูกชายรู้ความจริงก็จะเดินทางมาหา ซึ่งนั่งรถทัวร์จากเชียงรายมาสงขลาใช้เวลาเกือบ 2 วัน จึงได้เตรียมของวันเป็นนาฬิกาข้อมือมาให้ลูกเพื่อรับขวัญ

 

 

 

ต่อมานายปริญญาได้เดินทางมาถึง โดยนางจำดี ไชยคุตร อายุ 65 ปี ผู้เป็นป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อและเพื่อนอีก 1 คน เดินทางมาด้วย ขณะนางวิภาวดีและนายปริญญาสองแม่ลูกได้พบหน้าต่างก็ดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่วิ่งโผเข้ากอดกันร่ำไห้ และนางวิภาวดีได้นำพวงมาลัยมาไหว้นางจำดีเพื่อแสดงความเคารพและขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกชายมาโดยตลอด จากนั้นทั้งหมดพากันเดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 74 ซอยสามสกุล อ.หาดใหญ่ ซึ่งมีการทำขนมจีนไว้รอรับและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างมาแสดงความยินดีจำนวนมาก

ด้านนายปริญญา กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้พบกับแม่บังเกิดเกล้า ที่ผ่านมาคิดว่าแม่ได้ตายไปแล้วและทำบุญไปให้อยู่ตลอด ไม่เคยคิดโกรธแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงดูมาแม้จะต้องอาศัยอยู่กับป้าเพราะพ่อแม่แยกทางกัน หลังจากนี้จะดูแลแม่ให้ดีที่สุดและจะไม่มีวันพรากจากกันอีกแล้ว

ข่าวจาก : เดลินิวส์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: