กรมขนส่งฯ บอกว่าแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสารมีไม่ถึง 1%
กรณีการจับอูเบอร์ และแกรบคาร์ของกรมขนส่งฯ ที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับผู้โดยสารอย่างยิ่ง โดยส่วนใหญ่เหตุผลที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจก็คือ ระบบแท็กซี่ในปัจจุบันนั้นไม่มีคุณภาพ เรียกแล้วก็ไม่ไป โก่งราคา คนขับมีมารยาท หรือให้การบริการที่ไม่ดี
วันนี้มีผู้สื่อข่าวจากไทยรัฐ เดินทางไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่จากกรมขนส่งฯ ในกรณีนี้ เมื่อเจาะถามไปที่เรื่องของ "การปฏิเสธการให้บริการ" เจ้าหน้าที่ในคลิปตอบว่า
"ผมเรียนว่า แท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกมี 110,000 ราย แต่วิ่งในระบบประมาณ 7-80,000 รายต่อวัน แท็กซี่แต่ละคันจะวิ่งประมาณ 18 เที่ยว เมื่อนำไปคูณกับ 70,000 เป็นจำนวนกี่เที่ยว
ทีนี้เมื่อเรามาดูเรื่องการร้องเรียนมายังขนส่งทางบก เรื่องแท็กซี่อย่างเดียว มีการปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ปีหนึ่งประมาณ 40,000 กว่าราย หรือเดือนละ 3,000 กว่าราย คิดเป็นวัน วันละ 160-170 รายต่อวัน
ถ้านำไปคูณ มาหาร หารลบ จะเห็นว่า ยังไม่ถึง 1% เลย ในเรื่องของการร้องเรียน"
คำถามก็คือ เราสามารถนำการร้องเรียนไปที่กรมขนส่งทางบก (เบอร์ 1584) มาเป็นตัวตั้งต้นในการคำนวณได้จริงไหม ในเมื่อหลายครั้งที่โดนปฏิเสธ ผู้โดยสารก็อาจไม่ได้ร้องเรียนไปที่เบอร์โทรดังกล่าวเลย ดังนั้นวิธีคำนวณที่ละเอียดขึ้น อาจต้องทราบด้วยว่ามีผู้โดยสารกี่เปอร์เซนต์ ที่เมื่อพบแท็กซี่ปฏิเสธการให้บริการ แล้วโทรไปร้องเรียน
ในปีที่ผ่านมา มีการประชาสัมพันธ์ถึงบริการสายด่วน 1584 ว่า "โทรแล้วจะทราบผลภายใน 7 วัน" และหากสอบสวนพบว่าผิดจริง ถ้าเป็นการทำผิดครั้งแรก จะปรับ 1,000 บาท และอบรม 3 ชั่วโมง หากทำผิดซ้ำซ้อนจะพักใช้อนุญาตขับรถชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ในเรื่อง 1% นั้น เมื่อตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นคำพูดเดียวกับที่ นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ซึ่งเป็นผู้ที่ออกมาพูดเรื่องความเป็นไปได้ในการใช้ม. 44 จัดการอูเบอร์) เคยให้สัมภาษณ์ไว้ เมื่อปีที่แล้วว่า
"พูดแบบนี้ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ แท็กซี่ไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนคิด ลองคิดดูว่า ปัจจุบันแท็กซี่ในกรุงเทพฯมีอยู่ประมาณ 1.2 แสนคัน วิ่งจริงประมาณ 80,000 คัน คันหนึ่งวิ่งวันละ 14 เที่ยวต่อวัน ปีหนึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนเฉลี่ย 40,000 เรื่อง ตกเดือนละ 3,000 กว่าราย เฉลี่ยวันละ 100 กว่าราย คิดเป็นเปอร์เซนต์ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์ด้วยซ้ำ ถ้ามองอย่างเป็นกลางก็ถือว่าจำนวนน้อยมาก"
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ