สาวๆหลายคนคงจะเคยกังวลกับการมีรอบเดือนในวันที่ต้องทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ในช่วงวันสงกรานต์ วันที่ไปเที่ยวทะเล เข้าค่ายพักแรม หรือแม้กระทั่งวันทำงานที่ต้องรับผิดชอบงานสำคัญๆ ทำให้เกิดความกังลวลว่าอาจจะไม่สะดวกต่อหน้าที่การงาน นอกจากนั้นช่วงที่มีประจำเดือน ยังอาจมีอาการไม่สบายต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย ปวดท้องน้อย เครียด คัดเต้านม ท้องอืด จนทำให้รบกวนการทำงานในช่วงนั้น
เราสามารถเลื่อนประจำเดือนออกไป ไม่ให้ตรงกับช่วงเวลาที่ไม่สะดวกในการมีประจำเดือนได้ โดยการใช้ฮอร์โมนในการเลื่อนประจำเดือนฮอร์โมนที่ใช้เลื่อนประจำเดือนมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ
1. พรีโมลุท เอ็น (Primolut N) ขนาดเม็ดละ 5 มิลลิกรัม เป็นยาที่มีฮอร์โมน โปรเจสโตเจน (Progestogen) ที่ชื่อว่า นอร์เอสทิสเตอโรน (Noresthisterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่นิยมนำมาใช้เลื่อนประจำเดือนกันมาก
วิธีกินยาเพื่อเลื่อนประจำเดือน คือ เริ่มกินล่วงหน้า 3 วันก่อนมีประจำเดือน (นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งก่อน) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้งหลังอาหาร รับประทานต่อเนื่องกันทุกวัน แต่ไม่ควรเกิน 10 วัน
**ถ้ากินยาเกิน 10 วัน จะทำให้รอบเดือนมาผิดปกติ เลือดประจำเดือนออกกระปริดกระปรอย เจ็บคัดเต้านม ซึมเศร้า และ/หรือ ปวดศีรษะได้
เมื่อหยุดกินยา ประจำเดือนจะมาภายใน 2-4 วัน โดยประจำเดือนจะมาเป็นรอบตามปกติ ดัง นั้นเมื่อต้องการให้ประจำเดือนมาวันไหน ก็หยุดกินยาล่วงหน้า 3 วัน ไม่จำเป็นต้องกินจนถึงวันที่ต้องการให้ประจำเดือนมา
ข้อห้ามกินยานี้ คือ
-แพ้ตัวยานอร์เอสทิสเตอโรน (เช่น กินแล้วมีผื่นขึ้น เป็นต้น)
-กำลังตั้งครรภ์
-เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง (ยาจะปนออกมากับน้ำนม)
-หลอดเลือดดำอุดตัน (ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ)
-น้ำตาลในเลือดขึ้นสูง (โรคเบาหวาน)
-ตับอักเสบ
-เป็นโรคซึมเศร้าโดยเฉพาะเมื่อเคยมีประวัติมีภาวะนี้
ผลข้างเคียงจากยา คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่ม บวม
นอกจากนั้น ถ้าใช้ยาเลื่อนประจำเดือนบ่อยๆ จะมีผลรบกวนรอบประจำเดือน ทำให้ประจำ เดือนแปรปรวนสูง จึงไม่แนะนำให้ใช้บ่อยๆ
2. การเลื่อนประจำเดือนโดยใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
เราสามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดในการเลื่อนประจำเดือนได้เช่นเดียวกัน แต่วิธีนี้ได้รับความนิยมน้อยกว่า เนื่องจากมีอาการข้างเคียง (ผล ข้างเคียง) สูง และต้องกินยาหลายวัน แต่เหมาะกับหญิงที่ปกติกินยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่แล้ว
วิธีกินยา
กรณีหญิงคนนั้นไม่ได้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
โดยเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดก่อนมีประจำเดือน 10 วัน กินเม็ดที่เป็นฮอร์โมนครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ทุกวัน เมื่อต้องการให้ประจำเดือนมาวันไหนก็หยุดกินยาล่วงหน้า 3 วัน เช่นเดียวกับการใช้ ยาพรีโมลุท เอ็น
ในกรณีที่หญิงคนนั้นกินยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่แล้ว และไม่ต้องการให้มีประจำเดือนในช่วง 7 วัน ที่ไม่ได้กินยา หรือช่วงที่กินยาเม็ดแป้ง ก็ให้กินยาเม็ดที่เป็นฮอร์โมนต่อเนื่องไปได้เลย ไม่ต้องเว้นยา หรือไม่ต้องกินยาเม็ดแป้ง ซึ่งในระหว่างที่กินยาเม็ดที่เป็นฮอร์โมน ก็จะไม่มีประจำเดือน อย่าง ไรก็ตาม ไม่ควรกินยานานเกิน 10-14 วัน (เพราะจะมีผลข้างเคียงจากยาสูงขึ้น) และหลังจากเลื่อนประจำเดือนแล้ว ให้เริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดเม็ดแรกในวันที่มีประจำเดือนเลย
ผลข้างเคียงจากการกินยาเลื่อนประจำเดือนวิธีนี้ คือ คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักตัวเพิ่ม เพิ่มความอยากรับประทานอาหาร ปวดศีรษะ หงุดหงิด และ/หรือบวม
**หลังหยุดกินยา ประจำเดือนจะมาใน 2-3 วัน และประจำเดือนจะมาเป็นปกติเช่นกัน
ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องรับประทานยาเลื่อนประจำเดือน ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://haamor.com และรูปภาพจาก : www.healthtap.com, onlinedoctor.lloydspharmacy.com
เรียบเรียงใหม่โดย : www.thaijobsgov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ