ไม่รอด!! “แพท ณปภา” โดนข้อหาฟอกเงินตาม”เบนซ์ เรซซิ่ง” ปส.เตรียมสอบเส้นการเงินทั้งหมดทุกบัญชี!!!(รายละเอียด)





 

ปส.จ่อแจ้งข้อกล่าวหา แพท ณปภา ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เช่นเดียวกับเบนซ์ เรซซิ่ง โดยวันที่ 13 มี.ค.จะเชิญครอบครัวเบนซ์​และภรรยา มาสอบปากคำเชื่อมโยงหาที่มาของเงินจำนวนกว่า 30 ล้านที่หมุนเวียนในบัญชีของแพท

ความคืบหน้าคดีฟอกเงิน ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน กรณีครอบครองรถหรู ลัมโบร์กินี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาคดียาเสพติดชาวลาวรายสำคัญ

พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมคณะทำงานคดีของนายเบนซ์ และการทลายเครือข่ายของนายไซซะนะ โดยในวันจันทร์ที่ 13 มีนาคมนี้ พนักงานสอบสวนได้เชิญครอบครัวของนายเบนซ์ 6 – 7 คน รวมถึง นางสาวณปภา ตันตระกูล หรือแพท ภรรยาของนายเบนซ์ มาสอบปากคำ เกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สิน และรายได้ต่างๆ หลังการตรวจเส้นทางธุรกรรมทางการเงินกว่า 100 ล้านบาทที่อาจจะเชื่อมโยงไปยังบุคคลหลายกลุ่ม และมีเงินจำนวนกว่า 30 ล้านบาทหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของนางสาวแพท

เบื้องต้น หลังสอบปากคำนางสาวแพทแล้ว ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เช่นเดียวกับนายเบนซ์ จากนั้นจะนำตัวไปฝากขังครั้งแรกที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ซึ่งแนวทางการต่อสู้คดี โดยนางสาวณปภา มีสิทธิ์ให้การในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ก็ได้ และสามารถยื่นหลักทรัพย์ เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาลได้

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดันในการทำคดีนี้ เนื่องจากมีการตั้งคณะทำงาน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุม เมื่อหลักฐาน โดยเฉพาะการทำธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยงถึงใครก็ต้องดำเนินการไม่ละเว้น แต่หากผู้ถูกกล่าวหามีพยานหลักฐานที่มาของทรัพย์สิน สามารถนำชี้แจง และให้การกับพนักงานสอบสวนได้

ด้าน พลตำรวจตรี ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงการขยายผลจับเครือข่ายนายไซซะนะ โดยยอมรับว่าจากการสอบปากคำ นายไซนุเด็น มะ หรือ "มะ สิบล้อ" ซึ่งถูกจับตัวที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงมากขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่า มีส่วนสนับสนุนเงินทุนกับผู้ก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ เนื่องจากขบวนการยาเสพติดเหล่านี้ มักจะไม่โอนเงินผ่านระบบธนาคาร ทำให้ตรวจสอบได้ยาก ซึ่งผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ กำชับเร่งจับกุมบุคคลที่ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ โดยขณะนี้ก็สามารถจับกุมได้เพิ่มเติมบางส่วนแล้ว และขยายผลไปยังคนมีชื่อเสียงบางกลุ่ม แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียด เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวน

ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: