23 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. ประชุมร่วมกับตัวแทนกรมการขนส่งทางบก และธนาคารกรุงไทย เพื่อหารือในประเด็นประเภทรถและการเชื่อมข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกรมขนส่งทางบกเข้าด้วยกัน
พล.ต.ท.วิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายทั้งการเก็บค่าปรับสำหรับคนทำผิดกฎจราจรไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก นำมาซึ่งความสูญเสีย จึงเป็นที่มาของคำสั่งคสช.ที่14/2560 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถทุกคัน และสามารถชำระค่าปรับได้เลย ซึ่งตอนนี้ระบบของขนส่งทางบกกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีลิงค์ข้อมูลกันอยู่ระดับหนึ่ง แต่ระบบใบสั่งของสำนักงานตำรวจก็มีธนาคารกรุงไทยเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ชิฟ ในการอำนวยความสะดวกการชำระค่าปรับ
ส่วนจะสามารถชำระค่าปรับได้เลยหรือไม่นั้น ต้องขอเวลาดำเนินการด้านเทคนิคประมาณหนึ่งเดือน และขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบใบสั่งใหม่ โดยมีการระบุฐานคะแนนสำหรับผู้ผู้ขับขี่ เช่น ถ้าขับรถเร็วจะต้องถูกตัด 30 คะแนน ถ้าถูกตัดเกิน 60 คะแนนต้องเข้าอบรม ซึ่งกรณีนี้บังคับใช้กับรถแท็กซี่ด้วย ส่วนคนที่ไม่ถูกหักเลยก็มีการยกย่อง โดยจะเริ่ม 30 วันหลังจากนี้
ด้าน นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก ชี้แจงกรณีการบังคับให้รถทุกที่นั่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ว่า เรื่องนี้กรมขนส่งทางบกมีข้อกำหนดไว้ว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมาย 2 ส่วน คือ กฎหมายรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สำหรับรถยนต์ที่นั่งบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2531 – 31 ม.ค.2555 และรถแท็กซี่ ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัย
ส่วนรถแท็กซี่ ที่จดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2554 กำหนดให้มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถตู้ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2555 ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกที่นั่ง ส่วนของรถกระบะ (ปิ๊กอัพ) ในส่วนของผู้ขับขี่และคนนั่งด้านหน้า ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัย ยกเว้น รถสองแถว รถกระบะมีแคป และรถสามล้อเครื่อง ที่บังคับเฉพาะคนขับและผู้โดยสาร เนื่องจากไม่เหมาะแก่การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มเติม
รองอธิบดี กล่าวอีกว่า ส่วนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก กรณีรถบรรทุกบังคับให้มีและต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ส่วนรถโดยสารหมวด 2 และ หมวด 3 ไม่เกิน 20 ที่นั่ง ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และวิ่งระหว่างจังหวัด รวมถึง รถบัสขนาดใหญ่ ที่วิ่งในมหาวิทยาลัย จะบังคับให้มีและใช้เข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รวมทั้ง มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง โดยจะให้มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันเช่นกัน
ส่วนกรณีรถแท็กซี่ อนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารทั้งคันไม่เกิน 5 คน รวมคนขับ โดยทุกที่นั่งต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืน คนขับจะมีความผิดฐานยินยอม ส่วนผู้โดยสารจะมีความผิด ฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับคนละไม่เกิน 500 บาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้มีการติดตั้งให้ครบทุกที่นั่ง ซึ่งมาตรการทั้งหมด จะดำเนินการก่อนช่วงเทศสงกรานต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ