เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า เหวิน เซียวลี่ หนุ่มชาวจีนวัย 19 ปี ต้องทนทุกข์จากอาการปวดหัวเรื้อรังมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองเป็นไมเกรนจึงไปหาซื้อยามากิน แต่อาการก็ไม่ทุเลาลง สุดท้ายทนไม่ไหวจึงเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจรักษา ทีมแพทย์ทำการเอกซเรย์สมองของเขาดูก็พบว่ามีอาการของโรคสปาร์กาโนซิส อันเกิดจากพยาธิฝังตัวอยู่ในร่างกาย ซึ่งในที่นี้คือสมอง
ที่มาที่ไปของพยาธิตัวนี้ คาดว่ามันมาจากตอนที่เหวินทำมีดบาดมือตัวเองขณะทำถลกหนังกบเพื่อนำมาปรุงอาหาร ตัวอ่อนพยาธิที่อยู่ในตัวกบจึงเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านบาดแผลที่มือ จนในที่สุดไปฝังตัวเจริญเติบโตอยู่ในเซลล์สมอง ซึ่งตอนที่แพทย์ผ่าตัดนำมันออกมา มันยังมีชีวิตอยู่และดิ้นดุกดิกชอนไชไปมา วัดขนาดความยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร
นายแพทย์หยาง จื่อเฉียน ศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด เปิดเผยว่า การติดเชื้อพยาธิในลักษณะนี้ไม่พบได้บ่อยนัก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกายแล้ว มันสามารถเคลื่อนไหวไปได้ทั่ว และเมื่อมันขึ้นมาถึงสมอง มันจะฝังตัวอยู่ในนั้นและกัดกินเซลล์สมองเป็นอาหาร ซึ่งในขณะเดียวกัน มันก็จะขับของเสียที่เป็นสารพิษออกมา ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด และอาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้ ซึ่งถ้าไม่รักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยอาจสูญเสียความทรงจำ พูดไม่ได้ ไปจนถึงอัมพาต
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นเคสที่ยากและมีความเสี่ยงสูง แต่การผ่าตัดก็ประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยตอนนี้เหวินกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และมีอาการดีขึ้นแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์เมโทร
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ