งบ700,000บาท สร้างบ้านได้ถึงขนาดไหน?! มาดูกันแบบละเอียดยิบทุกซอกมุม-เปิดบิลทุกรายการ!!





 

สาเหตุที่ตั้งกระทู้นี้เนื่องจากอาศัยห้องนี้มาปีกว่า เก็บเกี่ยวความรู้ เคล็ดลับต่างๆ ไปสร้างบ้านของตัวเอง หาข้อมูลเยอะมากมาก ถึงมากที่สุด ถ้ามีงบเยอะคงไม่ต้องหาข้อมูลขนาดนี้ อยากได้บ้านสวยๆ แต่งบน้อย ก็ต้องอาศัยบทเรียนของคนอื่นๆ และที่สำคัญไม่เคยสร้างอะไรเลย ความแตกต่างของปูนฉาบกับปูนธรรมดายังไม่รู้เลย ต้องขอบคุณห้องชายคาเป็นอย่างสูง เพราะที่แน่ๆ เลยคือ เราไม่ถูกหลอกจากช่างแน่ 

เพื่อนๆที่กำลังจะสร้างบ้าน และงบน้อย อย่างแรกที่ต้องทำคือ จัดการกับงบ ดูว่าเรามีเงินเท่าไร จะสร้างเท่าไร งบที่จะสร้างควรตั้งไว้น้อยๆก่อน และกันส่วนงบบานไว้สัก 20-30 เปอร์เซ็น อย่างบ้านที่จะรีวิว ตอนแรกตั้งงบไว้ห้าแสน ยังบานมาอีกสองแสนถึงสองแสนห้า

ถัดจากนั้นหาแปลนและคำนวนงบ คิดง่ายๆ คำนวนเป็นตรม. ปีนี้ปี 2556  จะสร้างบ้านตกอยู่ตรม. ละ 7,500+++(เริ่มต้นราคานี้เพราะบ้าน ตจว. สามารถสร้างได้จริง แต่การตกแต่งอาจจะไม่สวยงามนักนะคะ) ส่วนบ้านเราตก ตรม. ละ 8,750 พื้นที่ตัวบ้าน 80 ตรม. ค่ะ(ประหยัดงบสุดๆ)

หาช่าง การหาช่างเราก็หาประสบการณ์จากเพื่อนๆในชายคาช่วยในการตัดสินใจค่ะ ช่วยได้มากทีเดียว หาอยู่สามช่าง สุดท้ายเลือกช่างใกล้ๆ ในพื้นที่ เพราะเห็นผลงานแล้ว ตอนไปติดต่อเราเดินเข้าไปดูงานที่เขาทำเลย ฉาบเป็นยังไง ก่อดีไหม แล้วก็ถามเจ้าของบ้านว่า การเบิกเงินเขาบ่อยไหม ทิ้งงานไหม ฝีมือน่าพอใจไหม (แต่ออกแนวชวนคุยนะ ไม่ถามเป็นทางการ) ถ้าเพื่อนๆจะหาช่างห้ามรีบนะคะ ถ้าเจอช่างฝีมือดีดี ไม่ทิ้งงาน เรื่องเงินไม่มีปัญหาเบิกตามหน้างาน ถ้าช่างติดงานแล้วต้องคอย เราแนะนำให้คอยค่ะ เพราะบ้านเราไม่สร้างกันบ่อยๆ เนอะ

ระหว่างรอ รอ รอ ช่าง เราก็ไปเดินหาวัสดุ เดิน เดิน อยู่หลายที่ รวมทั้งหาตามอินเตอร์เน็ต กระเบื้องแบบไหนสวย ก่ออิฐควรใช้แบบไหน ซื้อที่ไหน หลังคาเหล็กหรือไม้ ขั้นตอนนี้หากเราทุ่มเทและใส่ใจจะสามารถประหยัดงบได้บานโข เพราะแต่ละร้านที่ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ราคาถูกบ้างแพงบ้าง บางอย่างไม่น่าจะแพง อีกร้านกลับถูกกว่าในคุณภาพหรือยี่ห้อเดียวกัน (เจ้าของร้านวัสดุกระซิบมาว่าพวกของชิ้นใหญ่ๆ ที่เราชอบถามราคา เช่นพวกกระเบื้องหลังคา ไม้ฝาเณอร่า ปูน อะไรพวกนี้ราคาจะไม่ต่างกันและราคาจะถูกด้วย ส่วนพวกของชิ้นเล็กที่เราไม่ค่อยสนใจถามราคา ตะปู น๊อต อุปกรณ์ยึดหลังคา พวกนี้ราคาจะต่างกันและแอบแพง เจ้าของร้านวัสดุบอก ที่แพงเพราะลูกค้าไม่ถามราคา เราก็เขียนใส่บิลได้เลย ลูกค้าก็พอใจที่ได้หลังคาราคาถูก เรื่องหลังคานี้มีอุธาหรณ์ด้วย ไว้ค่อยเล่า)

ปล. เราจะค่อยๆ โพสต์นะ เพราะรายละเอียดที่อยากเขียนเก็บไว้ให้คนที่จะสร้างบ้านอ่านมันเยอะ

อ้อ ระหว่างที่เขียนแปลน เราแอบไปเรียนฮวงจุ้ยด้วย แบบว่าเสียดายหากต้องไปจ้าง แต่ก็อยากให้บ้านถูกหลักฮวงจุ้ยไม่มากก็น้อย

ตอนนี้มาถึงขั้นตอนการลงเสาเอก สิ่งที่ต้องมีและทำ
1. ไม้มงคล 9 ชนิด สามารถหาซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์ ราคาประมาณร้อยกว่าบาท
2. หน่อกล้วย หน่ออ้อย มะพร้าว ผ้าแดงสำหรับผูกกับเสา(ต้นไม้สามชนิดเมื่อทำพิธีเสร็จ ตอนปลดลงมาให้เอาไปปลูก เพื่อเสี่ยงทายว่าจะเจริญงอกงามแค่ไหน)
3. อาหารคาวหวานไหว้เจ้าที่และเทวดา(ตอนลงเสาที่บ้านมีแต่ผลไม้ เพราะคุณแฟนไม่ให้ทำใหญ่โต)
4. แผ่นเงินแผ่นทอง แก้วแหวน เงิน ทอง(มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร)
5. ดอกไม้มงคลต่างๆ ข้าวตอกด้วยถ้ามี หลายคนคงสงสัยข้าวตอกคืออะไร ตอนแรกเจ้าของกระทู้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณแฟนบอกว่าข้าวเปลือกที่เอาไปคั่วให้มันออกมาเหมือนป๊อบคอรน์ (อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ)
6. น้ำมนต์

มองไปไกลๆ นะคะ ที่แดงๆ ริมถนนนั่นคือถมที่ค่ะ แอบแพงด้วย 1 งาน สูงเมตรยี่สิบเซ็นติเมตร ราคา 75,000 บาท (สิชล นครศรีธรรมราช) นี่คนรู้จักนะ อีกเจ้าเรียกแสนห้า เลือดกำเดาแทบไหล (ราคานี้ไม่รวมในเจ็ดแสนนะคะ) ที่โพสต์เพื่อจะบอกว่า หากต้องถมที่และสูงด้วยควรรอสักสองปี ให้ดินยุบลงไปเซ็ทตัวกับดินเดิมก่อน หากไม่รอ ต้องขุดหลุมเสาลึกกว่าที่ถม แต่ช่างที่ทำเขาบอกว่าถึงดินเดิมก็พอหากดินเป็นดินร่วน ของเรารอแค่ครึ่งปีก็สร้างเลยค่ะ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ใจร้อนเกิน

 

 

ลงเสาเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้มีข้อแนะนำ คือเมื่อเราลงเสาเอกเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นช่างจะตีแปลน ตอนนี้เราต้องเข้าไปเช็คว่าช่างตีแปลนถูกไหม เสาอยู่ตามที่แปลนวางไว้ไหม ขั้นตอนนี้สำคัญ เน้นว่าสำคัญ เพราะเราโดนมากับตัวเลย ตอนที่ช่างตีแปลน เราก็เข้าไปดูนะ แต่ดูไม่รู้เรื่องดูไม่เป็น และไม่รู้ว่าต้องดู สรุปช่างลงเสาให้ผิดแบบห้องนอนใหญ่ขึ้น ห้องน้ำเข้าได้ทางเดียวจากที่ตั้งใจให้เข้าได้สองทาง และเมื่อลงเสาไปแล้ว เราถึงเข้าใจและเห็นภาพว่ามันผิดแบบ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ถามช่าง ช่างบอกว่าห้องนอนต้องใหญ่ๆ ไหนจะตู้เสื้อผ้า ของจิปาถะเอ่ย  คือช่างคิดแทนเราไง (แอบเคือง มิได้รู้เลยว่าบ้านหนูมี ห้องแต่งตัว) แต่เราก็พยายามเข้าใจนะ ช่างต่างจังหวัด แถมอำเภอเล็กๆอีก ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ดังนั้นเพื่อนๆ ค่ะ อย่าละเลยในการเช็คการตีแปลนของคุณช่างนะคะ หากดูไม่เป็น ให้ลองจินตนาการว่าห้องนั้นแบบนั้น ห้องนี้ออกทางนี้ ถ้ามันไม่พอดีก็วัดเลย (สายวัดคือเครื่องรางประจำกายในตอนนั้นเลย)

 

 

ระหว่างที่ช่างก่อเสา ก่อคานคอดิน เราก็ไปตามหาอิฐ หาข้อมูลว่าควรใช้อิฐอะไรดี มีตั้งหลายแบบ บ้างก็ว่ามวลเบา อิฐบล็อคก็ถูกดีแถวนี้ใช้กันเพียบ อิฐแดงเขาว่าเย็นและแข็งแรง สรุป อิฐแดงละกัน เน้นแข็งแรง ไปตามล่าหาโรงทำอิฐแดง กะว่าสั่งกะโรงน่าจะได้ราคาถูกกว่า นั่งคำนวนอิฐกันจนปวดหัวเลย เพราะต้องสั่งทีเดียวให้เขามาส่งในครั้งเดียว ถ้าซื้อร้านวัสดุจะโดนบวกอีกห้าสิบสตางค์ถึงหนึ่งบาทต่อก้อน สรุปเราได้มาก้อนละ 6.5 สั่งมา 4,000 ก้อน บ้าน 80ตรม. สูง 3.4 เมตร แต่ห้องเยอะ คำนวนเอง อิฐแดง 8 รู 1 ตรม. จะใช้อิฐประมาณ 20 ก้อน (ถ้าให้ชัวร์เราไปนั่งนับบ้านที่กำลังก่อสร้างเลย แต่มันนานแล้วเลยลืมว่ากี่ก้อนแน่) พอช่างเห็นเราสั่งอิฐแดงถึงกับโอดเลย แล้วก็แอบบ่นๆ ว่าอิฐบล็อคเดี๋ยวนี้แข็งแรงกว่าอิฐแดงแล้ว แต่ก็น่าจะจริงนะ เราใช้ค้อนทุบอิฐบล็อคหลายทีเลยกว่าจะแตก ถ้าแต่ก่อนก็ป๊อกเดียวละเอียดเลย แต่ไม่รู้ว่าแล้วแต่จังหวัดด้วยป่าว อ้อ อีกอย่างที่จะแนะนำเรื่องอิฐคือ ตอนไปสั่งให้ไปดูด้วยว่าอิฐที่เขาเผามันตรงไหม อิฐเราที่สั่งมาเบี้ยวทุกอันเลยโดนช่างด่าไปตามระเบียบ (ตอนนั้นช่างเป็นเทวดา จะด่าอะไร เราไม่โกรธเลย ขอแค่พี่ไม่ทิ้งงานและทำให้หนูอย่างดีก็พอค่ะ)

 

 

มาว่ากันด้วยเรื่องทับหลัง รายละเอียดจะเขียนด้านล่างค่ะ

 

 

ว่าด้วยเรื่องทับหลัง(เรียกถูกไหมค่ะพี่ช่าง ไม่แน่ใจ)  การก่อกำแพงควรมีทับหลังนะคะ ยิ่งกำแพงสูง ยิ่งต้องมี บอกตรงๆ เราไม่เคยรู้จักหรือได้ยินคำว่าทับหลังเลย จนเมื่อพี่ช่างก่อกำแพงเสร็จแล้วและ มีอยู่ด้านหนึ่งไม่มีทับหลัง คนที่รู้เรื่องก็เงียบไม่บอกอะไร มารู้เมื่อสายเสียแล้วว่าควรต้องมี เพราะพอเขย่าผนังที่ไม่มีทับหลังตอนก่อนฉาบมันแอบโยกนิดๆ ด้วย บรื้อๆ น่ากลัว และเคยเห็นในอินเตอร์เน็ตเขาทำตรงกรอบประตูด้วยแต่ไม่รู้เรียกทับหลังเหมือนกันไหม  ถามคุณแฟน คุณแฟนบอกตรงประตูมีก็ดีแข็งแรง แต่ไม่มีก็ได้ ไม่เป็นไรค่ะ

 

 

ตรงลูกศรสีแดงไม่มีทับหลังค่ะ กำแพงด้านนี้แหละที่เขย่าแล้วโยกหน่อยๆ แต่พอฉาบแล้วก็ไม่โยกแล้วค่ะ แต่ควรมี

มีเรื่องอยากเล่า ขั้นตอนก่ออิฐ ช่างแอบคิดแทนอีกแล้วค่ะ คือแปลนบ้านเราห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ซึ่งต้องเดินผ่านห้องนอน เข้าห้องแต่งตัว ถึงจะเจอห้องน้ำ แต่ช่างคิดแทนคือ
ทำกำแพงกั้นห้องนอนมีประตูเดียวไม่สามารถเข้าห้องแต่งตัวได้ และช่างไปทำประตูตรงห้องครัว ซึ่งช่างคิดว่าแขกที่มาบ้านได้เข้าห้องน้ำได้ แต่ แต่ผิดหลักฮวงจุ้ยอย่างแรง ตัดสินใจอยู่สองวิค่ะ หันไปบอกช่าง พี่ค่ะทุบค่ะ ทุบด่วน แบบนี้ไม่ไลค์ ที่จะบอกคือ ถ้าช่างทำผิดแบบ (แล้วเราสามารถสกัดทันก่อนอะไรจะล่วงเลย) สั่งทุบเลยค่ะ อย่าเกรงใจและลังเล บอกไปว่าพี่คิดแทนหนูแค่เรื่องก่อสร้างให้ดีให้ถูกต้อง แต่อย่าคิดทนเรื่องแปลนค่ะ พลาดมาครั้งนึงแล้วที่ห้องน้ำเข้าได้ทางเดียว

 

 

ว่าด้วยเรื่องหลังคา และโครงหลังคา รายละเอียดด้านล่างนะคะ

 

 

ขอบอกนะคะ ขอบอก ค่าหลังคาพอๆ กะค่าช่างและค่าโคงสร้างค่ะ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็น ค่าโครงสร้าง(จนถึงฉาบและเทพื้นปูนนะคะ) ประมาณ 40% ค่าช่าง 30% (ในกรณีช่างตจว. นะคะ ช่างใน กทม. แพงเวอร์) ค่าหลังคา 30% (ขนาดใช้หลังคาแบบถูกที่สุดแล้ว กระเบื้องไตรลอนนะ ถ้าจำไม่ผิด) ของเราค่าหลังคา 100,000 บาทค่ะ

อันดับแรก ไม้ (ในกรณีใช้ไม้นะคะ มีคนแนะนำเหล็กเหมือนกัน แต่เขาบอกว่ามันก็มีอายุการใช้งานของมัน อาจจะต้องขึ้นไปทาสีตรงรอยเชื่อม ส่วนไม้อายุการใช้งานอาจจะนานแต่ก็ต้องระวังเรื่องปลวกมอด แต่เราคิดว่า เอาน่าซื้อไม้ดีดีไปเลย ทายากำจัดปลววกดีดีเยอะๆ อย่างน้อยก็อยู่ถึงรุ่นลูก)

ตอนหาข้อมูลเรื่องไม้นี้ลำบากเหมือนกันเพราะต้องหาไม้ท้องถิ่น แล้วส่วนใหญ่ไม้อายุน้อยๆ ทั้งนั้น ภาคใต้ไม้ที่นิยมทำหลังคาได้แก่ ไม้เทียม (ชื่อไม้ค่ะ) ไม้มะพร้าวแก่ๆ (ถ้าแก่มากๆ เหนียวสุดๆ วันก่อนทำเก้าอี้จากไม้แบบที่เหลือ ตอกตะปูไม่เข้าเลยสักตัวต้องใช้น๊อตยึดทีเดียว) ไม้ตะเคียน อันนี้มีเงินก็หาดีดีแก่ไม่ได้ เพราะตะเคียนที่ปลวกไม่ค่อยขึ้นคือตะเคียนทองซึ่งหายากมาก ในตลาดไม้ตอนนี้ตะเคียนทรายเยอะมาก บ้านเพื่อนที่ใช้ตะเคียนทรายหลังคายังขึ้นไม่เสร็จทีมอดขึ้นเรียบร้อยโรงเรียนตะเคียนเลยค่ะ

ถัดมาไม้สัก แถวนี้ไม่มีไม่ต้องไปหาเลยค่ะ ส่วนถ้ามีก็ไม้อายุน้อย ต่อให้ภาคเหนือก็เหอะ ต้องลักลอบตัดในป่านู่นแนะค่ะถึงจะได้สักที่อายุเยอะๆ สักที่อายุน้อยปลวกก็รับประทานค่ะ ให้สังเกตกระพี้หรือตาเยอะมาก สีไม้อ่อนๆด้วย 

ในที่สุดก็ต้องมาดูไม้ในท้องถิ่นที่เป็นหัวกะทิ อาศัยถามๆ ชาวบ้านเอา เพราะในเน็ตหาข้อมูลไม่ได้เลย เขาแนะนำไม้ยอดเขียวสามพอน ปลวกไม่ขึ้นแข็งมากพอๆ กับสัก แต่ถ้าไม้ยอดเขียวเฉยๆ ปลวกและมอดมากันตรึมค่ะ และโชคดีอีกอย่างคือมีคนกำลังจะตัดเป็นไม้แก่มากต้นใหญ่ ขออนุญาตแล้วเรียบร้อย(การจะขนย้ายไม้ต้องมีใบอนุญาตนะคะ) เอามาให้ช่างขึ้นหลังคา ช่างบอกว่าตอกตะปูไม่เข้าเลย ตอกตะปูเสียไปเยอะมาก แต่เราภูมิใจที่ได้ไม้ดี อ้อ ก่อนเอาขึ้นหลังคา อย่าลืมทาเชนไดรกำจัดปลวกนะคะ ยังไงกับปลวกก็ไม่วางใจค่ะ เชนไดรท์สามารถผสมกับดีเซลทาได้ค่ะจะได้ไม่เปลือง ค่าไม้ 30,000 บาทค่ะ (ถูกเนอะ)

อีกอย่างนะคะ ความสูงของหลังคา บ้านเราสูงจากอกไก่หรือคานบน 180 เซ็นติเมตร สูงดี เย็นสบาย ช่างบอกว่าสูงได้เท่านี้ สูงกว่านี้ไม่สวยแล้ว 

ปล. แอบบ่นช่าง ช่างไม่ยอมทำคานบนเป็นปูนให้ เราก็ไม่รู้เรื่องอีกนั่นแหละ คนรู้เรื่องเขาก็เงียบตามเคย ดังนั้น ตอนคุยราคาเพื่อนๆ กำหนดไปเลยนะคะ ว่าคานบนต้องเป็นปูนหรือไม้

 

 

เรื่องหลังคาจบง่ายๆ ก็ไม่ใช่หลังคาค่ะ มันเป็นมหากาพย์. ได้ไม้แล้ว ตอนนี้ไปตามล่าหากระเบื้องหลังคา จากที่เกริ่นด้านบนว่าหลังคามีเรื่องเล่า เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆ ด้วย หลังคาที่เราใช้คือไตรลอนนะคะ ตอนเลือกมีสองตัวเลือกคือไตรลอนกับลอนคู่ ราคาไม่ต่างกันค่ะ ความที่เราอยากประหยัด เราก็ตามหาร้านที่ถูกและดี แต่ส่วนใหญ่ค่ากระเบื้องทุกร้านราคาไม่ต่างกันมาก มากสุดสองบาทก็เยอะแล้ว

แต่วันก่อนเราไปซื้อประตูหน้าต่างร้านในอำเภอเมือง เขาบอกว่าหลังคาลดราคามีโปรโมทชั่นแรง แผ่นละ 52 บาท (นึกในใจ ถูกเวอร์ ร้านแถวบ้านแผ่นละ 62 บาท ต่างกันสิบบาท เช็คมาเกือบทุกร้านราคาไม่ต่ำกว่าหกสิบบาททั้งนั้น) โอเคร้านนี้แหละ คุยดี พูดจาหวานเวอร์ สรุปกระเบื้องหลังคาอ่ะถูกจริง 52 บาทจริง แต่อุปกรณ์ตั้งแต่เหล็กเกี่ยวยันตะปู  สันเข้ ครอบ น๊อต ตัวเล็กตัวน้อย ผ้ากาวอันละ700 กว่าบาท ท่านเอากำไรเกือบสองร้อย ร้านอื่นขาย 530 ค่ะ มันแพงหูฉี่ทุ๊กอย่างเลยค่ะ แล้วขอซื้อแต่กระเบื้องหลังคาอย่างเดียวไม่ได้ด้วย ท่านขายเป็นแพคเกจค่ะ ตกลงบ้าน 80ตรม. จ่ายไป 50000 บาท คราวนี้จำค่ะ จำร้านได้แม่นเลยค่ะ แต่ไม่เข้าไปอีกค่ะ เอวัง ว่าด้วยเรื่องหลังคา

ตอนเขามาส่งไปตรวจของก็ดีนะคะ เผื่อคนงานลงไม่ดี ทำกระเบื้องเราแตก ละเอียดไว้ไม่เป็นไร เงินของเราใครจะดูแลให้เราคะ

พอช่างใส่หลังคาเสร็จ ถ้าฝนตกจะดีมาก เราจะได้รู้ว่าแผ่นไหนรั่ว ตอนที่ทำฝนตกพอดี เราก็ไปตรวจ เฮ้ยน้ำซึมทุกแผ่นเลย พี่ช่างทำไงดี สรุป ที่มันซึมๆ มันไม่ได้รั่วค่ะ มันกำลังเซ็ทตัว ไม่ต้องเปลี่ยน ที่รั่วคือต้องมีน้ำหยดติ่งๆ ค่ะ ช่างเขาว่างั้นนะ แต่ถึงตอนนี้ก็ไม่มีรั่วนะคะ

ปล. กำชับให้ช่างติดผ้ากาวด้วยนะคะ

ฉาบ ไม่มีอะไรมาก ขนาดให้หนาเท่ากับโครงอลูมิเนียมกระจกก็พอ ซึ่งช่างจะรู้ดีค่ะ ทรายก็ใช้ทรายละเอียด แบบระเอียดยิบ อันนี้ช่างสั่งมาให้เองเลย กลัวเราสั่งไม่ถูกใจ แต่ราคา
ทรายละเอียดจะแพงกว่าทรายหยาบเกือบเท่าตัวค่ะ ถ้าบิลมาอย่าตกใจ รับรองว่ามันดีกว่าจริงๆ

ปล. ปลื้มช่องลมค่ะ สวยเนอะ ของเฌอร่า แผ่นละห้าร้อยกว่าบาท

 

 

ไฟฟ้า 
บ้านเราใช้ไฟนีออนธรรมดา ชอบบ้านสว่างๆ ถ้าติดไฟฝังดาวน์ไลท์ต้องติดหลายดวงกว่าจะสว่างถูกใจ นีออนเนียะแหละถูกด้วยอายุการใช้งานนานด้วย ห้องละดวง ประหยัดเยอะเลย 

ค่าติดตั้งไฟฟ้า เขาคิดเป็นจุดค่ะ จุดละ 480 คือ เสียบปลั๊กได้สองตัว สวิตซ์ไฟแสงสว่าง จุดละ 350 ราคานี้ไม่รวมแผงไฟกับหลอดนีออนนะคะ นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นสายไฟ ปลั๊กไฟ ตู้ไฟ สายดิน สายเมนื่อมที่เสาไฟ รวมในราคานี้ค่ะ

 

 

โครงสร้างเสร็จแล้ว หลังจากนี้ไปคือความปวดหัว ต้องบู่กับช่างตกแต่ง ตกแต่งบ้านหลังเล็กแค่นี้ใช้เวลาเกือบเท่ากับทำโครงสร้างเนื่องจากความสับสนและช่างอาศัยลูกมั่ว เราเลือกช่างอีกคนแต่กลับได้อีกคน เพราะช่างชื่อเหมือนกัน คนนึงเราไปอ้อนวอนให้ทำให้ อีกคนมาอ้อนวอนขอเราทำ เพื่อนๆ อย่าใจอ่อนนะคะ เลือกคนไหนก็เอาคนนั้น อย่าคิดว่างานแป๊บเดียว ของเราติดฝ้า ช่างบอกสามวันเสร็จ พี่ท่านติดซะเดือนครึ่งค่ะ 

ฝ้าที่เราใช้ คือฝ้าฉาบเรียบ เรียบจริงๆ ไม่มีลูกเล่นใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่ไฟยังเป็นแบบเดิมๆนีออนยาวๆเลยค่ะ อยากให้บ้านสวย แต่งบจำกัดค่ะ ตอนทำฝ้าก็เหมือนเดิม ชื่อชนิดของฝ้ายังไม่รู้เลยว่าเขาเรียกอะไรมั้ง ฝาฉาบเรียบ ฝ้าทีบาร์ ฝ้าหลุม มาหาเอาข้างหน้าทั้งนั้น อุปกรณ์ที่ใช้ก็ไม่รู้ว่าใช้อะไรได้บ้าง คน ตจว. แถวนี้ส่วนใหญ่ตีฝ้ากับไม้ทั้งนั้น ช่างแนะนำไม้ แต่ถ้าใช้ไม้ งบบานๆๆๆ คำนวนเท่าไรก็เกินงบ เลยหาข้อมูลว่าสามารถใช้อย่างอื่นแทนได้ไหม ถ้าเป็นในกทม. ส่วนใหญ่จะใช้สังกะสีฉาก (ไม่รู้ช่างเขาเรียกอะไร) และก็มีลวดยึดกับโครงหลังคาไว้อีกที เราเลือกใช้แบบนี้ ค่าแรงช่างฝ้าและอุปกรณ์ทั้งหมด ตรม. ละ 250 บาท (สิชล นครศรธรรมราช 2556)  ทั้งหมด ประมาณ 20000 บาท ส่วนเรื่องวัสดุที่ใช้ตอนนั้นเรากำลังยุ่งๆ เลยลืมคิดเรื่องใยหินว่าต้องบอกช่างว่าไม่เอาที่มีใยหิน มาคิดได้ตอนช่างขนของมาลงแล้ว เราก็เลยตามเลย แต่สำหรับเพื่อนๆ ลองถามช่างก่อนนะคะว่าใช้ฝ้าแบบไหน 

และฝ้านี้แหละทำเราเจ็บใจสุดๆ คือสองวันแรกเข้างานทุกวัน บอกว่าสามวันเสร็จ พอวันที่สามหายหน้าไปเลย ต้องโทรตาม ก็มาครึ่งวัน แล้วก็หาย คือเขารับงานเพิ่ม ตรงนี้ได้งานแล้วทิ้งไว้ก่อน ไปเอางานที่ยังไม่ได้ก่อน ก็พยายามเข้าใจเขานะว่าถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ เขาจะมีงานน้อย แต่เขาจะเข้าใจเราไหมว่า ช่างอื่นๆ ก็รอพี่คนเดียว เพราะการจะขึ้นฝ้าต้องใช้นั่งร้านเกะกะเต็มบ้านไปหมด ช่างกระเบื้องเข้าไม่ได้แน่ๆ ช่างไฟก็ต้องทำไว้ครึ่งๆ กลางๆ เดือนครึ่งถึงเสร็จ เราต้องยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่มาทำก็จะจ้างช่างอื่นแล้ว ที่สำคัญคือเราจ่ายเงินไปแล้ว เรื่องจ่ายเงินจะเล่าด้านล่างนะคะว่าทำไมเราไว้ใจ

เรื่องมีอยู่ว่าเราเลือกช่างไว้แล้วเป็นช่างในอำเภอสิชล ทำดี ฝีมือเยี่ยม หลายๆ คนการันตี เขาชื่อโกไข่ เราไปติดต่อเรียบร้อยถามรายละเอียดราคาเสร็จสรรพ นัดกันตอนบ่าย เขียนเบอร์ให้ แล้วบอกว่าแล้วเจอกันนะพี่ ตอนบ่ายมีโทรศัพท์โทรมา ถามว่าเราจะเข้าไปที่บ้านที่สร้างไหม ช่างไข่รออยู่ จะคุยเรื่องฝ้า เราก็เข้าไป พอเจอหน้าอ้าวคนละคนนิ เราก็ถามว่ามาจากโกไข่เหรอคะ โกไข่ให้มาดูใช่ไหม ที่อยู่ในสิชลอะนะ เขาก็พยักหน้าเออเออออ เราก็นึกในใจทีมงานโกไข่มั้งสงสัยโกไข่ส่งมาวัดพื้นที่ ที่สำคัญคนงานร้านโกไข่ที่สิชลมากับช่างคนนี้ด้วย เราจำได้เพราะไปซื้อตาข่ายกับน้องเขา เราเลยคิดว่าชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม

วัดเสร็จเรียบร้อย ตีราคา อ้อลืมบอกว่าให้เขาทำกระจกด้วย(เอวัง) เขาบอกขอเบิกเงินก่อน 20000 บาท ค่ากระจกและค่าฝ้ารวมกัน 80000 บาทค่ะ เราก็จ่ายไป ยังถามเขาอีกนะว่า จ่ายที่พี่ได้เลยเหรอคะ เขาบอกก็จ่ายที่เขานี้แหละได้เลย 55555 ขำความโง่ของตัวเอง เรามารู้ความจริงสามวันถัดจากนั้น โกไข่ตัวจริงโทรมาค่ะ ถามว่าจะให้เข้าไปดูบ้านเมื่อไหร่ เราก็งง งง งง  สรุปเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ใช่ทีมเดียวกัน แต่เราสันนิษฐานว่า ร้านโกไข่เกลือเป็นหนอน เพราะเด็กในร้านน่าจะเป็นอะไรสักอย่างกับช่างไข่ ถึงได้รู้ว่าเรานัดเจอ แล้วมาวัดพื้นที่ด้วยตัวเองในวันแรกด้วย

อุทาหรณ์คือ หากเรายุ่งมากจนไม่มีเวลาไตร่ตรอง อย่าจ่ายเงินช่างค่ะ บอกเขาว่าขอคิดดูก่อน หากเราไม่แน่ใจตรงไหน ให้ตรวจสอบก่อนจ่ายตังค์ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ หากเขาบอกจะเอาไปซื้อของอย่าเชื่อจนหมดใจ เขาลีลามากค่ะ เขารู้ว่าต้องพูดอะไร เพราะถ้าจ่ายไปแล้วมันจะเลยเถิด ได้ช่างดีก็ดีไป

 

 

ราคากระจก ทั้งหมด 60000 บาทค่ะ ขนาดและจำนวนตามรูปภาพนะคะ ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง เพราะตอนตกลงราคาเราคิดว่าเราได้โกไข่มาทำให้ ซึ่งสามารถเชื่อถือ และวางใจเรื่องราคากับคุณภาพได้ เราก็ไม่ถามมาก แต่ตอนที่คุยราคาคร่าวๆ กับโกไข่ก็ราวๆนี้ค่ะ ไม่ต่างกันมาก

กระจกใช้สีชา กับใส กอบสีขาวอลูมิเนียมค่ะ ส่วนที่เป็นหน้าต่างทั้งหมดมีมุ้งลวดให้ค่ะ

ปล. ตอนแรกตามที่ฝันอยากได้บ้านที่มีกระจกเยอะๆ กระจกบานใหญ่ๆ แปลนแรกที่เขียน กระจกทั้งบ้าน บานใหญ่ๆ ทั้งนั้น นอนคิดไปคิดมา เราเขาไปอยูในป่าในเขา แล้วโจรหล่ะ คิดไม่ตก เหล็กดัดก็ไม่ชอบ บังทัศนียภาพ พยายามคิดแบบโจรที่กำลังจะขึ้นบ้านคนอื่น แก้แบบไปประมาณห้ารอบ ทำยังไงก็ไม่ลงตัวกับสิ่งที่ชอบ จนมาแบบสุดท้าย โอ้ย! ไม่คิดแล้ว เอาแบบนี้แหละ แล้วหันไปบอกแฟนว่า "ถ้าโจรมันคิดจะเข้านะ ไม่ว่ากระจก เหล็กดัด ประตูเหล็ก หน้าต่างประตูไม้ มันมีอุปกรณ์งัดได้หมดแหละ " จริงๆ ถ้าได้แบบแรกคงจะดีไม่ใช่น้อย แต่ตอนนั้นเหนื่อยที่จะคิดแล้วเลยเอาแบบนี้แหละ

 

 

 

 

ประตูกระจกบานนี้ราคาต่างหากจาก 60000 บาทด้านบน ไว้กั้นส่วนเปียกในห้องน้ำ ราคา 14500 ขนาดกว้าง 1.2 เมตร สูง 2 เมตรค่ะ สามราง

 

 

สรุปค่าประตูหน้าต่างกระจกทั้งบ้าน รวมประตูเหล็กเลื่อน ขนาด กว้าง 4.5 เมตร สูง 2.5 เมตร (ประตูเหล็กเลื่อนราคาน่าจะหมื่นต้นๆ) และฝ้าฉาบเรียบ จ่ายไปหนึ่งแสนบาทค่ะ เพื่อนๆ ว่าถูกหรือแพงคะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ

โพสต์รูปก่อนรายละเอียดด้านล่างค่ะ เรื่องสีของแต่ละห้องเราเลือกต่างหลักฮวงจุ้ยด้วยนะคะ แต่ไม่ถึงกับต้องเป๊ะๆ นะคะ แต่มาตกม้าตายตอนนี้หน้าบ้านค่ะ เนื่องจากหลังคาสีแดงเพื่อให้ถูกทิศธาตุ บ้านหันทิศใต้ ธาตุไฟ ตอนเลือกหลังคาลืมว่าสีแดงเข้ากับสีอื่นยากนิดนึง ตอนไปเลือกสีเลยต้องเอาขาวมาเข้าคู่ แต่ธาตุไฟ(แดง)ทำลายธาตุโลหะ(ขาว)  แหะๆ เรียนมายังไงนะผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้ก็ได้แต่อยากทาสีนอกบ้านใหม่ (โดนแฟนด่าแน่เลย เพราะเขาเป็นคนทา) 

เรื่องทาสีนี้ก็คิดว่าอะไรพอจะทำเองได้ก็ทำเองดีกว่า ก่อนทาสีคิดว่า ทาสีเรื่องจิ๊บๆ หลังทา มันไม่จิ๊บแล้ว คนทาเริ่มร้องเจี๊ยกแล้ว ตอนหาข้อมูลคำนวนค่าแรงแล้วแพงกว่าหรือเท่าๆ กับค่าสีเลย คนงกเลยทาเองกับแฟน แล้วก็ลูกน้องอีกคนค่ะ เหนื่อยโฮก ก่อนทาเอาไม้กวาดดอกหญ้ามาปัดเศษทรายออกก่อน แต่ถ้าอยากให้งานเนียบก็กระดาษค่ะ ขัดเข้าไป ลองลูบๆ ดูว่าเรียบไหม ที่บ้านมีผนังอยู่ด้านเดียวที่ใช้กระดาษทราย นอกนั้นไม้กวาดปัดๆ เอา วันไหนเหนื่อยมากแล้วก็ จุ่มสีทาเลย (ไม่ควรทำนะคะ) หลังจากนั้นทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อน ทิ้งไว้ให้แห้งสักวันนึง แต่ช่างบอกไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ แล้วก็ทาสีจริง ชั้นที่หนึ่ง ทิ้งไว้ให้แห้งดี แล้วทาชั้นที่สองค่ะ ตอนที่ทาเอง ตรงขอบประตูหน้าต่างเราเอากระดาษกาวหนังไก่แปะไว้กันสีเปื้อน แต่ผลที่ได้ตอนลอกออกสีหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ เลย เพื่อนๆ อย่าทำนะ มันไม่ได้ช่วยเลย ได้งานเพิ่มอีกต่างหาก ช่างมือโปรเขามาแนะนำว่าค่อยๆ วาดแปรงไปมือนิ่งๆ แค่นี้ก็ไม่เลอะแล้วน้องรุ่ง เราก็ แหะแหะ เกือบเสร็จทั้งหลังแล้วพี่ ตอนผสมสีก็มั่วๆ เอา แต่ต้องชมช่างไข่หน่อยนึง ด่าไว้เยอะ ช่างไข่เข้ามาทำงานพอดี เขาเห็นเราผสมแล้วสงสาร เลยสอนให้ว่าให้ใส่น้ำแค่ไหน ควรจะเหลวหรือข้นแค่ไหน และต้องใช้มือกวนค่ะ เพื่อที่สีจะได้เข้ากันดี ช่วงที่ทาสี กลับบ้านหัวถึงหมอนหลับเป็นตาย รู้แล้วว่าทำไมค่าแรงทาสีถึงแพง

 

 

 

 

 

 

ค่าสีอุปกรณ์รวมๆ แล้วประมาณ 30,000 บาท ค่ะ การคิดพื้นที่ เราคิดไปก่อนก็ดีนะคะ วันที่ไปซื้อพนักงานไม่รู้เรื่อง คิดไม่เป็นจะสั่งมาให้เราเกิน เราต้องบอกเขาว่าน้องคิดแบบนี้ๆ นะคะ

คิดพื้นที่แบบง่ายๆ คือ 
เอาส่วนกว้างของผนัง บวกกันให้หมด คูณด้วยความสูงของผนัง เท่ากับเท่าไร จดไว้
ต่อมา เอาพื้นที่ของประตูหน้าต่าง ลบ ด้วยพื้นที่ของผนัง จะเท่ากับพื้นที่ที่จะทาสี 
สีรองพื้นทารอบเดียวไม่ต้องคูณ
สีจริงทาสองรอบ ดังนั้นเอาพื้นที่ที่จะทาสี คูณ 2 จะได้จำนวนที่ต้องใช้สี
นำจำนวนที่ต้องใช้สี มาหาร 30 จะเท่ากับ กี่แกลลอนที่จะต้องใช้
ถ้าไม่อยากคิดก็ใช้พนักงานคิดให้ก็ได้ค่ะ เพราะมันจุกจิกไปนิดนึง แต่เราต้องการประหยัดงบไง 

 

 

 

 

 

 

มาถึงเรื่องกระเบื้อง บ้านเราใช้กระเบื้องหลายลายค่ะ ด้วยงบกับความพอใจมันไปด้วยกันไม่ค่อยได้
ดังนั้นส่วนห้องนอน กับห้องนั่งเล่นใช้ของแพง ตรม. ละ 659 บาท รวม 15,157 บาท
ส่วนครัว ห้องแต่งตัว ห้องนอนเล็ก และด้านหน้าบ้านใช้ของถูก ตรม.ละ 172 บาท  รวม ประมาณ 9,000 บาท
ห้องน้ำมี กระเบื้องพื้น ตรม. ละ 169 บาท รวม 1,352 บาท
ห้องน้ำกระเบื้องผนัง ตรม. ละ 275 บาท รวม 5,225 บาท
นอกนั้นก็จะเป็นพวกจิปาถะคือ เคาน์เตอร์ซิงค์ กระเบื้องขึ้นข้าง ยาแนว 
รวมๆแล้วค่าวัสดุเกี่ยวกับกระเบื้องประมาณ 35,000 บาท

 

 

ตอบคำถามเพิ่มเติม : เราไปเรียนฮวงจุ้ยมาก็จริง แต่เรียนพื้นฐานค่ะ ถ้าให้ดูแบบละเอียดยิบก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่การวางแปลนอันนี้เรามั่นใจเพราะให้อาจารย์ช่วยดูค่ะ ส่วนเรื่องสีนี้ยากจริงๆ ที่จะเอามาแมทแล้วให้ถูกฮวงจุ้ยทั้งหมด แต่ก็อย่างที่เขาว่ากันแหละค่ะ ถ้าสร้างบ้านให้ถูกฮวงจุ้ยไปทั้งหมด จะออกมายังไงก็ไม่รู้ เราก็งูๆ ปลาๆ ไป อาศัยไม่ต้องจ้างเขา โรงรับซื้อยางพาราแถวบ้านจ้างซินแสมาแสนหนึ่ง ตอนแรกเราก็อู้หู้เขารวยเนอะ แต่เราเคยเข้าไปครั้งหนึ่ง เราก็แอบงง ทำไมมันไม่เหมือนที่เรียนมาหว่า หรือท่านปรมาจารย์ท่านคิดมาแล้ว

มาว่ากันเรื่องประตูและหน้าต่างไม้ค่ะ 
ตอนแรกคิดว่าประตูไม้กับหน้าต่างไม้จะช่วยประหยัดงบ คิดง่ายๆ แต่มันไม่ง่ายค่ะ บานปลายก็เพราะสิ่งนี้ด้วยแหละ อันดับแรกเราอยากได้ประตูคู่คล้ายบ้านเรือนไทยที่เวลาเปิดต้องเปิดคู่ ต้องหาร้านทำประตู ไปสั่งที่ตัวเมืองนครค่ะ เป็นไม้สัก บานละ 2,450 บาท  ใช้ 6 บาน ได้สามคู่ ตกบานละ 4,900 บาท วงกบอันละ 1,200 บาท  ตอนไปรับสินค้า ก็เลยเอาหน้าต่างกับประตูบานเดียวมาด้วยเลยเห็นถูกดี  แต่ของถูกและดีมีที่ไหน หน้าต่างบานละ 600 บาท ไม้สัก แต่โดนไม้เนื้ออ่อน กระพี้เพียบ ซื้อมาตั้งไว้สักพัก ไม้หด เกิดเป็นช่องๆ ตรงที่เป็นลูกฟัก เลื่อนขยับได้ ปัญหานี้แก้โดยช่างที่ติดให้ค่ะ เขาให้เอากาวร้อนหยอดที่ช่องว่างที่เกิดจากไม้หด หน้าต่าง 7บานใช้กาวหยอดไปไม่รู้กี่หลอด 5555 สะใจเลย ของถูก ส่วนประตูไม้สักบานเดียวไม่มีอะไรมาก จะหาประตูไม้ดีดี แนะนำให้ไปหาพวกประตูไม้เก่า ที่อยุธยาเขาว่ามีเยอะ ส่วนไม้ใหม่ๆ โดนไม้เนื้ออ่อนเยอะค่ะ ตอนนั้นไม่รู้ก็เลยซื้อมา มารู้ทีหลังอีกแหละ ซื้อมาแล้ว ก็ต้องขัดด้วยกระดาษทราย ขัดเองค่ะกับแฟนสองคน หลังๆ ขัดไม่ไหว ไปซื้อลูกหมูมา แต่ก็ช่วยไม่ได้มาก ใช้ขัดหน้าต่างบานถูกๆ แหละค่ะ สุดท้ายก็ต้องใช้มือขัดอยู่ดี ขัดรอบแรกใช้กระดาษทรายหยาบขัดสองรอบ รอบสองเอากระดาษทราย ละเอียดลูบๆ ขัดแค่สามหนก็เหนื่อยแล้วค่ะ มาแพงตอนไหนรู้ไหมคะ ทำสี (ถ้าจ้างทำบานละ 1,500 บาท ประตูคู่ก็ไม่เกี่ยวคิดเป็นบานค่ะ ) แต่เราไม่ทำ ใช้วู้ดสเตนก็ได้ ไม่สวยแต่ประหยัด ค่าติดตั้งบานละ 500 บาท ประตูคู่ สองบานก็ต้อง 1,000 บาท ที่แพงที่สุดคือ ลูกบิด เราแอบไฮโซ ใช้เฮเฟเร่ 55555 เกือบ 5,000 แค่ประตูคู่เดียว นอกนั้นก็ใช้คละๆ กันไปถูกบ้างแพงบ้างตามปะสา แต่ที่ล็อคห้องน้ำถูกที่สุด เป็นที่เกี่ยวธรรมดา  อ้อ ลืมบานพับได้ไง อันนี้ก็แพงอันละ 140 ค่ะ คู่นึงใช้ 8อัน (เริ่มเพลียใจแล้วค่ะ )

 

 

 

 

 

 

 

อ้อลืมบอกว่าประตูคู่บ้านเราใหญ่กว่าปกติ แบบปกติเขาทำกัน กว้าง 80 เซ็นติเมตร แต่ของเรา 108 เซ็นติเมตร ตามหลักฮวงจุ้ย คืออาจารย์ให้สายวัดที่นักดูฮวงจุ้ยใช้กันมาวัดเองค่ะ ให้ดูที่แดงทั้งหมดถือว่าดีมาก ดำ ไม่ดี แดงดำ ถือว่ากลางๆ (อันนี้ง่ายๆ นะคะ ไม่ซีเรียสมากนัก) 80 เซ็นไม่ค่อยดีค่ะ (โปรดใช้วิจารณญาญและเงินในกระเป๋าในการคิดคำนวนค่ะ อิอิอิ)

เรื่องห้องน้ำไม่ค่อยมีอะไรมาก เราได้ช่างกระเบื้องดี ถึงดีมาก เขาพยายามช่วยเราประหยัดมาก คืออะไรสามารถใช้แทนได้เขาก็ไม่ซื้อ กระเบื้องนี้ใช้จนแผ่นสุดท้ายเลย ของไม่ขาดไม่สั่ง ปูเนียบ ราคาไม่แพง เขาเดินประปาให้ด้วย 

ค่าวัสดุในห้องน้ำ เราใช้ของเกรดกลางๆ โถส้วมโคห์เลอร์ 7,700 บาท อันนี้แพง เพราะเรากับแฟนเรื่องมากเรื่องโถส้วม ราคานี้ได้มาตอนลด อาศัยเดินบ่อย ราคาเต็มหมื่นกว่า อ่างล้างหน้าโคห์เลอร์เหมือนกัน 2,290 บาท (เห็นดอกหญ้าที่อยู่ตรงฐานไหมคะ มันคือ wall sticker ที่ติดเพราะช่างทำฐานหักค่ะ เลยแอบเนียน) Rain shower ของ groHe (โคลเฮ่) 5,990 บาท อันนี้อยากได้เอง (ไม่ประหยัดเลย) อิฐบล็อคแก้ว ใช้ 67 ก้อน ก้อนละ 47 บาท รวม 3,149 บาท ตู้สูงของ ikea ราคาประมาณ 4,500 บาท ส่วนของจิปาถะอื่นๆ ก็ไม่เกินสองพันค่ะ เป็นเงินค่าตกแต่งทั้งหมดรวมกระเบื้องพื้นและผนัง กระจก ตู้ ชั้นวางต่างๆ และประตูเลื่อนสามราง เป็นเงิน 53,000 -55,000 บาท

มีข้อแนะนำค่ะ ที่กดสบู่ของจีน(ซื้อร้านที่ขึ้นต้นด้วย h) กดสองทีพังค่ะ ถ้าดูในรูปจะเห็นว่ากลายเป็นอนุสาวรีย์ไปแล้ว ก่อนซื้อดูด้วยนะคะว่ามาจากที่ไหน

 

 

 

 

 

 

ห้องแต่งตัว ตอนที่ถ่ายเพิ่งย้ายเข้ามาเลยดูไม่ค่อยเรียบร้อย แต่ตอนนี้รกกว่าเดิมอีก 5555 ห้องนี้ถูกและภูมิใจ จะให้เราบิวท์อิน ไม่ไหวค่ะ มันแพงมาก ราคาแรงสุดๆ แต่ใจรัก อยากได้ห้องแต่งตัว หรือที่เขาเรียก walk in choset กันหนะค่ะ สีที่ทาที่ใช้สีม่วงเพราะอยากกระตุ้นธาตุทองเอาไว้เก็บเงิน และเล่นสีทูโทนเพื่อให้ดูมีลูกเล่น (เพราะไม่มีตังค์บิวท์อิน) ต้องขอบคุณอีเกียที่มาเปิดได้ทันเวลา ที่แขวนผ้าและชั้นตะแกรงสูงๆมุมห้องใช้ของอีเกียทั้งหมด ราคาเหรอคะ จำไม่ได้ แต่รู้สึกว่า 3,500-5,000 บาท (ถูกใช่ไหมหล่ะ) แต่ก่อนไปซื้อควรวางแผน ขีดๆ เขียนๆก่อนว่าจะเอาอะไรไว้ตรงไหน เปิดเว็บอีเกียดูรายละเอียด ความสูงความกว้างได้เลย พอไปถึงเราได้คำนวนถูกว่าควรซื้อกี่ชิ้น ได้ไม่ซื้อเกินมาเหลือ ขนาดเราคำนวนแล้วนะ ยังเกินเลย ราวแขวนผ้าใช้เหล็กกระดูกงูของอีเกียยึดกับผนังนะคะ ต้องมีการเจาะด้วย เตรียมใจไว้ก็ดีค่ะ เจาะกันสนุกเลย

ขอนอกเรื่องนิดนึง เห็นตู้สีชมพูไหมคะ มันมีที่มา ตู้ใบนี้ราคา 350 บาทค่ะ เดิมตู้นี้เขาให้มามันก็เก่าๆ เราเอาสีน้ำมันทาเป็นสีขาว พอนานๆ ไปอ้าวเหลืองตุ่นๆ ซะงั้น ไม่เหมาะกับบ้านใหม่ฉันเลย เลยไปซื้อวอล์เปเปอร์มาติด งามไปเลย diy แล้วได้ตู้ใหม่ค่ะ

 

 

 

ห้องครัว คำแรกที่คิดคือ ใช้ตังค์เท่าไรถึงจะได้ครัวสวยๆ แบบคนอื่นเขา เป็นแสนแน่ๆ แล้วมันก็เริ่มต้น ของชิ้นแรกที่ซื้อตอนสร้างบ้านคือ ตะแกรงของเฮเฟเร่ค่ะ ตอนนั้นเสาบ้านยังไม่มีเลย คิดดูเอานะคะว่าเราจะหมกหมุ่นกับครัวมากแค่ไหน คำนวนราคา หาวัสดุ ลดรายจ่ายอย่างอื่น ทำยังไงก็ไม่ได้ครัวบิวท์อิน ขีดๆ เขียนๆ ฉีกทิ้งไปเยอะทีเดียว มาจบที่อีเกีย แต่ แต่ แต่อีเกียก็ราคาแรงเหมือนกัน ดีที่เขาขายแยกชิ้นให้เราเอาไปประกอบเอง โครงตู้เราไม่ซื้อ เพราะงบไม่พอ ตอนแรกเราใช้แฟนกับลูกน้องอีกคนก่อเคาน์เตอร์เอง 

เราวัดคุม (ห้ามซื้อตะแกรงก่อนสร้างบ้านนะคะ เพราะมันคือปัญหาหญ่ายๆๆๆมาก ต้องวัดให้เป๊ะเพื่อจะได้ใส่ตะแกรงได้พอดี) สุดท้ายความงกไปไม่รอด ต้องจ้างช่างมาทำเคาน์เตอร์ ช่างบอกก่อก็เบี้ยว ตอนติดกระเบื้องลำบากมากน้องรู้ไหม แถมต้องวัดให้เป๊ะ ให้ฉากอีก (หนูขอโทษค่ะ คราวหน้าหนูจะเก็บตังค์บิวท์อินสักสามแสนค่ะพี่ ฮือฮือฮือ) 

ท๊อปด้านบนเราใช้กระเบื้องผนังลายหินอ่อนติดนะคะ ห้องครัวควรมีสี แดง ส้ม เขียวหรือตกแต่งด้วยไม้ค่ะ สีฟ้าห้ามเด็ดขาดค่ะ เพราะครัวคือธาตุไฟ หากไม่ชอบสีแดงก็กระตุ้นธาตุด้วย สีเขียวหรือไม้ไปเลย สีขาว ม่วง แววๆ ก็ห้าม แต่ดูครัวของคนเรียนฮวงจุ้ยมาสิคะ ส้มกับขาว สนุกเลย ไฟทำลายทองอีกแล้ว ตอนไปซื้อบานตู้ ตู้ครัว เราจำได้นะ รู้ดีเลย แต่ราคากับฮวงจุ้ยมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ บานตู้สีขาวถูกสุด สีแดงก็ไม่ไหวแล้ว แรงไป บานไม้ บานละ 1,700 บาทนี้ถูกสุดนะ สรุปจำใจเอาสีขาว (แต่เราเชื่อว่าเพื่อนๆ ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากมีครัวสีขาวใช่ไหมคะ) ราคาครัวแบบนี้ ตู้ทุกใบ บานเปิด เตาแก้ส ที่แขวนต่างๆ ตะแกรง ลิ้นชักใส่ช้อนมีด ประมาณ 50,000-60,000 บาทค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะตอนติดตะแกรงกับลิ้นชักเป็นอะไรที่ยากมากถ้าต้องติดกับเคาน์เตอร์ปูนที่ก่อไม่ได้ขนาด ไม่ได้ฉากทะเลาะกับแฟนจนครัวเสร็จเลยค่ะ

 

 

 

 

สองอันนี้แหละที่ซื้อก่อนลงเสาเอก

 

 

 

ห้องสุดท้ายห้องนั่งเล่นก็ไม่มอะไรมากทาสีปูกระเบื้อง จบ โซฟาตัวสีขาวก็ได้มาฟรีค่ะเดิมเป็นหนังแท้สีดำ แต่มันไม่เข้ากับห้องสีฟ้า เลยไปซื้อหนังเทียมสีขาวมาหุ้มหนังเดิม ราคา 1,300บาท รวมค่าแรงค่ะ ผ้าม่านสีขาวที่เห็นนั้นซื้อจากอีเกียค่ะ สองชิ้น 200-300 บาท ลดราคาพอดี แต่ในรูปยังไม่ได้เย็บชาย เอามาลองติดก่อนค่ะ และถุงที่ครอบขาโซฟาไว้เนื่องจากตอนขนย้ายกลัวที่รองขาโซฟาเลอะค่ะ

 

 

สรุป 700,000 บาท ได้บ้าน 80 ตรม. มีห้องดังนี้
1. ห้องนอนเล็ก 1 ห้อง กว้าง 3ม. ยาว 3.5 ม. 
2. ห้องนอนใหญ่ กว้าง 4 ม. ยาว 4.5 ม. 
3. ห้องโถงหน้าบ้าน กว้าง 4.5 ม. ยาว 3 ม. 
4. ห้องนั่งเล่น กว้าง 3.5 ม. ยาว 4 ม. 
5. ห้องครัว กว้าง 3.5 ม. ยาว 3 ม. 
6. ห้องแต่งตัว กว้าง 2 เมตร ยาว 3 ม. 
7. ห้องน้ำ กว้าง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ใครที่กำลังสร้างบ้านเราของเป็นกำลังใจให้  เรื่องการเงินซื้ออะไรจดลงไปให้หมด อย่าคิดว่าเล็กน้อย ตะปูห่อเดียวเราก็จด ไว้จะถ่ายมาให้ดูว่าจดขนาดไหน  ส่วนเรื่องราคาที่เอามาลงเพื่อให้เพื่อนๆ พิจารณาเรื่องงบประมาณว่าถ้าเพื่อนสร้างจะต้องใช้เท่าไร สามารถใช้ของเกรดไหนได้ ค่าโครงสร้างทั้งช่างทั้งอุปกรณ์จริงๆ ไม่เท่าไรไปเยอะกับเรื่องตกแต่งค่ะ

กลับไปดูแล้วยังไม่เชื่อตาตัวเองเลย พอดีธนาคารอนุมัติ เลยได้บ้านหลังใหญ่ขึ้น (แอบขำตัวเอง อยากมีบ้านมาก งบประมาณเท่าไรไม่เกี่ยงเลย)

 

 

รายจ่ายแบบละเอียด แต่ไม่ยิบ เพราะช่วงที่เข้ามาอยู่แล้วมีซื้อของตกแต่งไปอีกนิดหน่อยแต่ก็เลิกจดไปแล้วค่ะ 
ปล. ลองดูดีดี แอบมี led 42 นิ้วให้คุณสะมีด้วย แถมด้วยค่าธุรกรรมกับกรมที่ดินอีกหมื่นนึงด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

อันนี้เอามาฝาก เราจดไว้ตอนที่ลงเสาเอก ลงเอง สวดมนต์เอง ร่ายคาถาเอง ไม่จ้างใครมาลงให้
สรุป เป็นทุกอย่าง แม่หมอ สถาปนึก วิศเวอะ โฟร์แมน วัดคุม ช่างสี แรงงานแบกปูน 
มัณทนากร ช่างเจาะ คนดูฮวงจุ้ย ช่างเย็บผ้า(สอยผ้าม่าน) บัญชี ช่างปะปา (หลังบ้านต่อปะปากับแฟนสองคนเอง)
อ่านขำขำนะ อย่าซีเรียส

 

 

เอามาจากไหนจำไม่ได้ แต่เราทำ

 

 

อันนี้คือประมาณการงบประมาณ ว่าทำไปกี่บาทแล้ว เหลือต้องทำอะไรบ้าง ประมาณอีกกี่บาท เพิ่มงบตรงนี้ไปตรงนั้นได้ไหม ที่ทำไว้มีหลายแผ่นหลายวัน แต่เอามาลงให้ดูสองแผ่น เผื่อเป็นประโยชน์ การทำแบบนี้ ช่วยให้เราเห็นภาพว่าเราสามารถทำอะไรได้อีกเท่าไร และเงินพอไหม ถ้าไม่พอต้องลดงบตรงไหน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หากกระทู้นี้มีข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะข้อมูล หรือการโพสต์ยี่ห้อ เราขอโทษด้วย ขอรับผิดทั้งหมด เราก็คลำทางมาแบบนับหนึ่ง ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างหรือตกแต่งบ้านเลย ส่วนเรื่องยี่ห้อ เราพยายามบอกน้อยที่สุด แต่มีเพื่อนๆ ถามมาว่าครัวสร้างได้จริงเหรอ ทำอย่างไร เราก็คิดแต่ว่าควรบอกให้หมด เพื่อที่เขาจะมีไอเดียไปทำบ้าง เราหวังดีจริงๆ เพื่อนๆ อย่าว่าแล้วก็อย่าจับผิดเราเลย

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาชิกRaphassacho เว็บไซต์https://pantip.com/topic/30690973

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: