หลังจากที่เมื่อวานนี้ 7 เมษายน 2560 สหรัฐอเมริกาได้โจมตีฐานทัพซีเรีย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อนุมัติสั่งกองทัพเรือยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก จำนวน 59 ลูก ถล่มฐานทัพอากาศในประเทศซีเรีย ซึ่งฐานทัพดังกล่าวนี้มีรัสเซียเป็นผู้สนับสนุน
โดยสหรัฐอเมริกาออกมาให้เหตุผลในการโจมตีซีเรียครั้งนี้ว่า เพื่อต้องการทำลายฐานทัพที่เป็นเป้าหมายของกองทัพซีเรีย ที่มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีใส่ประชาชนผู้บริสุทธ์
ทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ระบุว่า ประธานาธิบดี อัซซาด แห่งซีเรีย ใช้อาวุธเคมีสังหารผู้บริสุทธ์จำนวนมาก พร้อมเรียกร้องให้ นานาชาติยุติการนองเลือด
โทรทัศน์ทางการของรัฐบาลซีเรีย ได้ออกแถลงการณ์ประนามการกระทำของ สหรัฐอเมริกา ในครั้งนี้ที่ได้ใช้ขีปนาวุธจำนวนมาก ถล่มฐานทัพอากาศของซีเรีย โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้พลเรือนและทหารซีเรีย เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจำนวนหลาย 100 ราย โดยที่สหรัฐฯ นั้นไม่มีการสอบสวนหาสาเหตุว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนครั้งนี้
ต่อมา กระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐ หรือ เพนตากอน ก็ได้ออกมาออกแถลงการณ์ว่า กระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐ แจ้งไปยังกระทรวงกลาโหมรัสเซียล่วงหน้าแล้ว ก่อนที่กองทัพเรือสหรัฐจะโจมตีด้วยขีปนาวุธโทมาฮอว์ก ไปยังฐานทัพอากาศของซีเรีย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามระหว่างสหรัฐและรัสเซีย
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มบานปลาย เพราะล่าสุด เรือพิฆาต ของกองทัพเรือรัสเซีย บรรทุกขีปนาวุธ KALIBR-NK เดินทางเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อไปยังท่าเรือ ในเมืองตาร์ตูส ประเทศซีเรีย แต่ในขณะเดียวกัน เรือพิฆาต ยูเอสเอส พอร์เตอร์ ดีดีจี 78 และ เรือพิฆาต ยูเอสเอส รอสส์ ดีดีจี 71 ซึงเป็นเรือที่ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ อนุมัติสั่งการให้ใช้ขีปนาวุธโทมาฮอว์ก จำนวน 59 ลูก โจมตีฐานทัพอากาศซีเรีย เมื่อวานนี้ ที่ยังประจำการใน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่นกัน
ข่าวจาก : tnews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ