จบปัญหารีดผ้าไม่เรียบ! ด้วยเทคนิคง่ายๆที่ใครก็ทำได้…ประหยัดไฟ ประหยัดเวลา ผ้าเรียบกริบ





ใครที่ชอบทะเลาะกับเตารีดเป็นประจำ มักจะต้องปวดหัวกับการรีดผ้าให้เรียบเสมอๆ ยิ่งถ้าเป็นคนไม่มีเวลาหรือเป็นคุณผู้ชายด้วยแล้ว การจะให้มารีดผ้าให้เรียบเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆที่จะช่วยให้การรีดผ้าเป็นเรื่องง่าย สนุก และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูวิธีที่ว่านี้กันได้เลยค่ะ

 

1. ใช้อุณหภูมิให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า

ผ้าแต่ละประเภทมีความหนาและบางไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้ต้องใช้อุณหภูมิความร้อนต่างกันตามไปด้วย เช่น

– ผ้าไหม หรือผ้าใยสังเคราะห์ ให้ใช้ความร้อนต่ำ

– ผ้าขนสัตว์ ผ้าลินิน และผ้าคอตตอน ให้ใช้ความร้อนปานกลางถึงระดับความร้อนสูง

นอกจากนี้ เมื่อปรับอุณหภูมิเสร็จแล้ว อย่ารีดเลยทันที แต่ควรตั้งเตารีดทิ้งไว้ก่อนประมาณ 2-3 นาที และฉีดพรมน้ำที่ผ้าอย่างเหมาะสม  เพื่อให้ผ้าอ่อนตัว ทำให้รีดได้เรียบง่ายและเร็วขึ้น

 

 

2. ใช้ผ้ารองรีดกับผ้าเนื้อบางหรือผ้าที่มีสกรีน

ผ้าเนื้อบางและผ้าที่มีสกรีน ไม่สามารถรีดด้วยเตารีดตรงๆได้ เพราะความร้อนอาจจะหลอมละลายหรือทำลายเสื้อผ้าของคุณได้

ดังนั้น ก่อนรีดควรนำผ้าคอตตอนหรือผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ ๆ มารองรีดด้วยทุกครั้ง แล้วใช้ไฟอ่อนหรือไฟปานกลางค่อย ๆ รีดบนผ้ารองรีดช้า ๆ จะช่วยให้ผ้าเรียบและสวยเหมือนเดิมได้

 

 

3. รีดกลีบกระโปรงจากล่างขึ้นบน

หลายคนรีดกลีบกระโปรงผิดมาตลอดชีวิต เพราะสำหรับกระโปรงของผู้หญิงที่มีจีบรอบตัวแล้ว ควรรีดจากข้างล่างขึ้นมาข้างบน และรีดจากจีบที่อยู่ติดซิป ไล่ถัดไปเรื่อย ๆ จนครบทั้งตัว

วิธีนี้จะช่วยให้จับจีบกระโปรงได้ง่าย และได้เป็นกลีบสวยงามมากกว่า

 

4. รีดตามความยาวของใยผ้า

ถ้าต้องการรีดให้เรียบและรวดเร็ว ควรรีดตามความยาวของใยผ้า ไม่ควรรีดแนวขวาง เพราะจะทำให้ผ้าเสียรูปทรงได้ง่าย แถมยังเสียเวลาและพลังงานอีกด้วย

 

 

5. ใช้เตารีดระบบไอน้ำ

ถ้าเตารีดที่ให้แต่ความร้อนยังไม่ทำให้คุณรีดผ้าได้ดีขึ้น ก็ลองเปลี่ยนไปใช้เตารีดระบบไอน้ำดู เพราะระบบไอน้ำจะช่วยให้เนื้อผ้าที่โดนขยำยับยู่ยี่คลายตัวออกได้ง่าย  แม้ว่าผ้าจะยับหรือรีดยากแค่ไหน ใช้เตารีดไอน้ำก็หายห่วง

ส่วนวิธีใช้ที่ควรรู้ก็คือ เวลาใช้งานเตารีดประเภทนี้ควรเปิดระบบไอน้ำให้เสร็จ แล้วค่อย ๆ รีดวนไปวนมาตรงจุดนั้นสักพักโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก แค่นี้ผ้าก็เรียบกริบไร้รอยยับแล้ว

 

[ads]

 

6. เลือกใช้ปลั๊กพ่วงให้ถูก

ปลั๊กเตารีดส่วนใหญ่มักทำสายมาไม่ยาว จึงจำเป็นต้องใช้ปลั๊กพ่วงต่อเกือบทุกครั้ง ซึ่งควรเลือกปลั๊กพ่วงที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยขณะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยควรเลือกเตารีดขนาดไม่ต่ำกว่า 12 แอมป์ เพราะถ้าใช้แอมป์น้อยกว่านี้ อาจทำให้ปลั๊กรับกำลังไฟไม่ไหว จนเกิดประกายไฟหรือเกิดไหม้ได้

 

7. ถอดปลั๊กก่อนรีดเสร็จ

เมื่อใกล้จะรีดผ้าเสร็จแล้วสามารถถอดปลั๊กออกได้เลย ไม่ต้องรอให้รีดเสร็จแล้วค่อยถอด เพราะตอนที่ถอดปลั๊กใหม่ๆเตารีดยังเก็บความร้อนไว้ได้อยู่

ทั้งนี้ อาจจะเก็บผ้าตัวบางๆที่รีดง่ายๆไว้ในลำดับสุดท้าย เพื่อให้รีดผ้าได้ง่ายขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้มากกว่า

 

 

8. แขวนผ้าทันที

อย่ากองผ้าที่รีดเสร็จทับๆกันไว้ เพราะจะทำให้เสื้อผ้าที่รีดเสร็จไปแล้วกลับมายับใหม่ และจะต้องกลับมารีดอีกรอบ เพราะฉะนั้น ควรนำผ้าไปแขวนทันทีจะดีที่สุด

 

 

9. อย่าใส่ผ้าที่รีดเสร็จทันที

หลังจากรีดผ้าเสร็จแล้ว ไม่ควรรีบร้อนใส่เลยทันที แต่ควรจะแขวนผ้าทิ้งไว้สัก 2-3 นาที เพื่อทิ้งให้ผ้าเซตตัวสักพัก หรือผ้าคลายรอยยับและความร้อน เท่านี้ก็จะได้ใส่เสื้อผ้าที่เรียบกริบ แถมไม่ต้องทนร้อนจากการรีดเสร็จใหม่ ๆ ด้วย

 

 

คุณพ่อบ้านแม่บ้านที่ทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว เมื่อได้รู้เทคนิคในการใช้เตารีดกันไปแล้ว หวังว่าการรีดผ้าครั้งต่อไปของคุณจะง่ายขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น และประหยัดไฟมากขึ้นด้วย

อย่าลืมนำคำแนะนำเหล่านี้ไปทำตามนะคะ รับรองว่าจะได้ผ้าเรียบกริบ แบบไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนอย่างที่เคยแน่นอน

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก home.kapook.com และ fashionhithot.com

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: