วันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ที่ห้องทิวลิปโรงแรมนิภาการ์เด้น จ.สุราษฎร์ธานี นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการภาพครูและบุคลาการทางการศึกษา ได้กล่าวขณะเดินทางมาติดตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการสร้างวินัยทางการเงินให้ครูในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูนั้นเริ่มต้นกับธนาคารออมสินและธนาคาร ธกส. มานานแล้วความเคลื่อนไหวและการพัฒนาการมันมาเริ่มแปรเปลี่ยนในช่วงท้าย แทนที่จะสนับสนุนให้สมาชิกในกลุ่มของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครูที่จะร่วมกันยึดมั่นในสัจจะและร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินร่วมกันและช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันกลายเป็นว่ามาตอนหลัง สกสค. ได้ดำเนินนโยบายที่ต้องเรียกว่าผิดพลาดโดยเน้นไปที่จะการปล่อยให้ครูกู้ ประกอบกับครูทุกคนที่มีหนี้สินอยู่ก็มากู้เพิ่มโดยเฉพาะยอดเงินที่กู้ได้สูงสุดถึง 3,000,000 บาท ได้สร้างปัญหาให้กับครูเหล่านี้มาก มีหลายคนในกลุ่มที่กู้ไปแล้วไม่มีกำลังที่จะสามารถชำระหนี้ได้ท้ายที่สุดแล้ว ทำให้มีหนี้ที่ค้างชำระในระบบกับธนาคารออมสินนานเกิน 3 เดือนขึ้นไปมีจำนวนมาก 80,000 กว่าคน
เพราะฉะนั้นปัญหาเหล่านี้จะต้องถูกแก้ไขอย่างครบวงจร ทาง สกสค. จะต้องแก้ไขหนี้สินปัญหาครูโดยคำนึงถึงองค์ประกอบที่แท้จริงที่ครูกำลังเผชิญอยู่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรายได้รายเดือน รายจ่ายรายเดือน และความสามารถในการชำระเงิน ทาง สกสค.จึงเติมเต็มด้วยการนำครูเข้าสู่โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการแก้ไขหนี้ให้สินครูทั้งระบบโดยนำวินัยทางการเงินเข้าไปด้วย เพิ่มช่องทางที่จะมีรายได้เสริมที่ไม่รบกวนกับเวลาราชการ และ สกสค. ก็จะหาแหล่งเงินทุนเพื่อมารีไฟแนนซ์ หนี้สินครูทั้งหมดที่อยู่ในระบบและนอกระบบให้มาเป็นหนี้ที่ สกสค.เพียงแห่งเดียวโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ซึ่งในปัจจุบันต้องเสียดอกเบี้ยต่อธนาคารร้อยละ 6 หรือ 7 หรือบางคนที่ผิดนัดชำระดอกเบี้ยก็จะเสียมากกว่านี้ ทาง สกสค.จะต้องเน้นในเชิงคุณภาพของครูผู้ที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาจะต้องเป็นครูที่ดีมีความตั้งอกตั้งใจในการทำงานเพียงแต่หนี้สินที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากอุบัติเหตุเกิด จากการเจ็บป่วย หรือ เกิดจากการดูแล บิดา-มารดา หรือ คนในครอบครัว ส่วนคนที่วินัยทางการเงินไม่ดีมีประวัติการใช้เงินอย่างฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยหรือเล่นการพนัน ก็จะต้องพักไว้ก่อนขอช่วยเหลือคนดีๆที่กำลังจะจมน้ำเสียก่อน ซึ่งขณะนี้โครงการช่วยเหลือได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวงเงิน 1,000 ล้านบาท และกำลังพยายามกระจายไปให้ทั่วถึงและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสามารถทำไปเรียนรู้ไปดูปัญหาที่จะเกิดขึ้นไป พัฒนาไปโดยมีการวิจัยพัฒนากำกับติดตามไปด้วยและคิดว่าวงเงินสามารถจะเพิ่มขึ้นได้อีก
สกสค.จะมีแหล่งเงินทุนพร้อมที่เข้ามาสนับสนุนถ้าสามารถแกไขปัญหาหนี้สินได้จริงตรงตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้สินจะต้องไม่ใช่เป็นการสร้างหนี้สินใหม่เพิ่มขึ้น
นายพิษณุ ได้ยอมรับว่าสิ่งที่น่าหนักใจสำหรับตนเองนั้นก็คือปัญหาหนี้สินของครู ที่มันส่งผลต่อจิตใจครูคนที่มีความวิตกกังวลในปัญหาภาระหนี้สินของครอบครัวที่จะต้องคอยพะวงที่จะหาเงินมาส่งเจ้าหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ สอนหนังสือไปก็มีจิตใจกังวนและเป็นทุกข์ บรรยากาศภายในห้องเรียนก็ไม่ดี เด็กนักเรียนก็จะพลอยเครียดกับครู เพราะฉะนั้นทำอย่างไรครูถึงจะมีความมั่นคงในชีวิตและความมั่นคงในครอบครัว และสามารถทำงานอย่างมีความสุข ถ้าครูไปโรงเรียนด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสและมีความสุข บรรยากาศภายในห้องเรียนก็เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข เด็กนักเรียนก็จะสนุกเด็กนักเรียนก็จะมีความสุขการเรียนรู้อย่างมีความสุขการเรียนรู้อย่างมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้มันเป็นการสร้างคุณภาพให้กับตัวเด็กได้อย่างดี และการอบรมบ่มนิสัยที่เกิดจากครูที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงชีวิตในฐานะในสังคมก็จะติดตัวเด็กที่เป็น ไอด้อล หรือเป็นตัวอย่าง หรือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก เราก็จะได้เด็กดีในอนาคตที่เติบโตมาเป็นพลเมืองดีของประเทศไทย เพราะฉะนั้นปัญหาหนี้สินจึงเป็นปัญหาที่หนักใจ ณ.วันนี้ตนได้ใช้งานวิจัยที่ทำมาเมื่อปี 2553 -2554 มาตามลำดับซึ่งตนเชื่อว่าสามารถที่จะช่วยเหลือครูได้ แต่เราจะไม่สามารถช่วยเหลือพร้อมกันที่เดียวทั้งหมด 3-400,000 คนแต่จะเริ่มต้นจากกลุ่มคนที่วิกฤติและจะขยายผลไปสู่กลุ่มคนที่มีวินัยทางการเงินก็จะได้รับการดูแลไปตามลำดับ
พร้อมกันนี้นายพิษณุ ได้กล่าวถึงการตรวจสอบปมทุจริตงบประมาณในคุรุสภาพ-สกสคว่าขณะนี้ได้รับการชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการ ปปช เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนที่เป็นข้าราชการอยู่ ปปช.จะแจ้งกับมาให้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงก็คือไล่ออกปลดออก ส่วนคนที่เป็นเอกชนหรือคนที่พ้นจากราชการไปแล้วรวมทั้งข้าราชการที่ถูกวินัยด้วยนั้นก็จะส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินคดีทางอาญา ส่วนทางแพ่งก็ว่ากันไปว่าใครเป็นคนทำให้เกิดความเสียหายต่อ สกสค. ซึ่งพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้นโยบายไว้เงินจำนวนนี้ใครโกงไปต้องเอาคืนกลับมาให้ได้ ย่อมมีผลกระทบต่อตัวเจ้าหน้าที่ที่ไปเกี่ยวข้องได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนผลกระทบต่อตนเองนั้นย่อมมีบ้างที่คนไม่เข้าใจก็จะโกรธและเกลียดแต่จริงๆก็คือมันเป็นหน้าที่ถ้าเขาไม่ทำผิดเราก็ไม่มีหน้าที่ไปรบกวนเขา ก็เหมือนกับผู้ร้ายถ้าไม่ทำผิดตำรวจก็ไม่เข้าไปยุ่งอยู่ในฐานะพลเมืองดี งานนี้ก็เหมือนกันถ้าเขาไม่ทำการทุจริตไม่ทำผิด ตนก็ไม่ต้องเข้าไปยุ่งไม่ต้องไปทำหน้าที่ ถามว่าทำหน้าที่ตรงนี้หนักใจมัย ยอมรับว่าหนักใจ เพราะเป็นผลกระทบต่อคนเป็นวงกว้าง ตอนนี้เดินทางไปไหนก็ต้องระมัดระวัง แต่ก็เชื่อมั่นว่า คนดีผีคุ้มสิ่งศักดิ์สิทธิคงคุ้มครองให้ปลอดภัย และสิ่งที่ยึดมั่นมาโดยตลอดก็คือพระบรมราโชบายของในหลวงที่เป็นที่พึ่ง
ข่าวจาก : ทีนิวส์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ