นับว่ากลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาเลยค่ะ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุค นามว่า “Nu-sajee Kornrawee” ได้โพสต์รูปและข้อความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ถึงผู้ป่วยรายหนึ่งที่เป็นเด็กชาย ซึ่งได้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องมารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ ถึงต้องรอพบคุณหมอเป็นเวลาที่นานมากๆ จนมีอาการช็อกและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวตรวจสอบทราบชื่อเด็กชายที่เสียชีวิต คือน้องนิว อายุ 15 ปี ชาวจ.เพชรบุรี โดยญาตินำศพมาตั้งทำพิธีทางศาสนา ณ วัดชะอำคีรี อ.ชะอำ สอบถามนางสุพัตร อายุ 46 ปี มารดาของน้องนิว เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา น้องนิวมีอาการเจ็บปวดท้องอย่างรุนแรง ตนและญาติรีบนำตัวส่งรพ.ชะอำ แพทย์เอ็กซเรย์รักษาให้นอนพักดูอาการ 1 คืน แต่เช้าวันที่ 21 ปรากฏอาการไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวมารักษาต่อที่รพ.โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ในเวลา 13.30 น.
ระหว่างที่รอตรวจน้องนิวปวดท้องอย่างรุนแรง จนไม่สามารถนั่งรถเข็นของทางโรงพยาบาลได้ ตนไปขอให้พยาบาลเร่งช่วยเหลือ แต่พยาบาลกลับบอกให้รอแพทย์ก่อน จนน้องทนไม่ไหวช็อกหมดสติไป จากนั้นแพทย์พยาบาลได้เร่งให้การช่วยเหลือ จนน้องฟื้นขึ้นมาและนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน และตรวจพบว่าน้องมีอาการเส้นเลือดใหญ่ใหญ่แตก ก่อนจะเสียชีวิต
ต่อมาเวลา 13.30 น. นพ.ประจักษ์ วัฒนะกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี และนพ.สาธิต รัตนศรีทอง ผอ.รพ.พระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี ร่วมแถลงข่าวขี้แจงกรณีดังกล่าว ต่อสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
นพ.สาธิต กล่าวว่า ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาจากรพ.ชะอำ ถึง รพ.พระจอมเกล้าฯ เวลา 13.30 น. เข้าตรวจที่แผนกอายุรกรรม ต่อมาเวลา 14.04 น. แพทย์ส่งไปเอ็กซเรย์ในเวลา 14.30 น. ได้ฟิล์มส่งให้แพทย์วินิจฉัย ระหว่างรอผลเด็กเป็นลมหมอทำการเจาะเลือด ปฐมพยาบาล เวลา 14.45 น. จึงส่งมายังห้องฉุกเฉิน โดยเด็กมีอาการความดันตก แพทย์ตรวจให้น้ำเกลือเจาะเลือดจากนั้น เข้าทำซีทีสแกนตรวจคลื่นหัวใจ และทำซีทีสแกนซ้ำ เนื่องจากมีอาการผิดปกติ
“เบื้องต้นแพทย์สงสัยเป็นเส้นเลือดใหญ่โป่งพองในช่วงอก ซึ่งเกินกว่าระดับการรักษาของรพ.พระจอมเกล้า จึงประสานเตรียมส่งตัวไปรักษาต่อ แต่ปรากฏผู้ป่วยเริ่มกระสับกระส่าย ชีพจรหยุดเต้น แพทย์ปั๊มหัวใจและให้เลือด แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ เด็กเสียชีวิตใน 16.38 น. ช่วงห่างของเวลาเป็นช่วงที่รอฟิล์มเอ็กซเรย์และช่วงแพทย์ต้องวินิจฉัยโรค ยืนยันว่าแพทย์ พยาบาล ทำอย่างเต็มที่แล้ว ขอแสดงความเสียใจกับญาติด้วยความจริงใจ แต่กรณีนี้ผู้ป่วยเป็นโรคที่รุนแรง เกินระดับความสามารถในการรักษาของ รพ.พระจอมเกล้าฯ มาก”
โรคนี้รักษายากในพื้นที่นี้มีเพียงรพ.ศิริราชเพียงแห่งเดียว ที่สำคัญเมื่ออาการกำเริบรุนแรงจะมีเวลาเพียง 3-5 นาที ในการรักษาเท่านั้น ขณะที่แพทย์รพ.จอมเกล้าฯพบผู้ป่วยก็เกิดอาการกำเริบสูงสุดกะทันหันจึงไม่สามารถส่งตัวรักษาได้ทัน
ขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของน้องนิว เราพยายามเต็มที่แล้ว แต่เกินระดับความสามารถของแพทย์ และพยาบาลของโรงพยาบาลจริงๆ ส่วนการเยียวยาจะประชุมกับส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถดำเนินการได้เช่นไรบ้าง และจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ