ปัญหาสิวเสี้ยนอาจไม่เป็นผลมากเท่าไร หากเรามีระยะห่างมากเพียงพอที่จะทำให้คนรอบข้างไม่ทันสังเกตเห็นความไม่สวยงามบนผิวหน้าของเราได้ แต่ถ้าเมื่อใดที่คนรอบข้างซูมอินเข้ามาแล้วละก็ เครื่องสำอางไหนๆก็คงยากที่จะอำพรางหัวสิวสีดำที่น่ารังเกียจนี้ได้อย่างแน่นอน การกำจัดสิวเสี้ยนให้หมดไปจากผิวหน้าของเรา จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณแลดูมีผิวหน้าที่เรียบเนียนใสได้ตลอดเวลา แต่วิธีการที่เหมาะสมนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาหาคำตอบไปด้วยกันตอนนี้ได้เลยค่ะ
หากพูดถึงสาเหตุที่มาของสิวเสี้ยน หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักมันเสียเท่าไร รู้แต่เพียงว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สวยงาม ที่ไม่อยากให้ปรากฎอยู่บนผิวหน้าของเราเลย แต่หากคุณรู้ถึงที่มาของมันสักนิด อาจจะทำให้คุณเข้าใจในวิธีการกำจัดมันออกได้อย่างไม่ยากลำบาก ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักกับมันตอนนี้เลยค่ะ
สิวเสี้ยนมีความแตกต่างจากสิวประเภทอื่นๆ ตรงที่สิวประเภทนี้จะมีขนเข้ามารวมตัวอยู่กับไขมันด้วย ซึ่งขนที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยนนี้อาจมีจำนวนเส้นเดียวหรือมีมากกว่าหนึ่งเส้นก็ได้ แล้วแต่ว่าผิวบริเวณนั้นของคุณเป็นอย่างไร และการสะสมตัวของก้อนไขมันและเส้นขนเหล่านี้ ก็เป็นที่มาของจุดสีดำเล็กๆ หรือมีหนามแหลมเล็กๆ แทงออกมาตามใบหน้าของเรานั่นเอง ซึ่งสิวเสี้ยนมักจะพบเจอได้มากตามปลายจมูก หน้าผาก ข้างแก้ม คาง หรือคอด้านหลัง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหนๆ ก็นำพาความกลุ้มใจมาสู่คุณไม่น้อยเลยใช่ไหมละค่ะ
อย่านิ่งนอนใจอีกต่อไปเลย เพราะถึงแม้ว่าสิวเสี้ยนจะไม่ได้เป็นต้นเหตุสำคัญที่นำอันตรายมาสู่ตัวเรา แต่ก็ทำให้เรารู้สึกรำคาญมันได้ไม่น้อยเลย วันนี้เราจึงอยากจะพาท่านมารู้จักกับวิธีการในการกำจัดสิวเสี้ยนกัน ว่ามีวิธีไหนบ้างที่น่าสนใจ และจะได้เก็บกลับไปใช้ที่บ้านกัน
ภาพจาก : http://www.blackheads.co/how-to-remove-deep-blackheads-from-nose-and-skin/
1. แผ่นลอกสิวเสี้ยน ของสิ่งนี้ดูจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปรู้จักกันดีตามโฆษณาโทรทัศน์หรือสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ สิ่งของสิ่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบของของใช้สำเร็จรูป ที่เพียงแค่คุณลอกแผ่นกาวออก แปะที่จมูก ปล่อยทิ้งไว้ แล้วลอกทิ้ง สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมาที่แผ่นลอกนั้นๆได้แล้ว ซึ่งหลักการในการลอกสิวเสี้ยน ก็ขึ้นอยู่กับสารเคลือบที่ทำให้ติดแน่น โดยส่วนใหญ่จะใช้สาร cyanoacrylate polymer glue ที่มีคุณสมบัติในการติดแน่นคล้ายกับการใช้กาวตาช้าง เพื่อเป็นตัวกลางในการดึงเอาหัวสิวให้หลุดออกมาจากผิวหนังของเรานั่นเอง วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากราคาไม่แพงและเห็นผลได้อย่างรวดเร็วทันใจ อย่างไรก็ตาม การใช้แผ่นลอกผิวหน้าบ่อยๆอาจมีผลให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ดังนั้น จึงควรใช้เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ
ภาพจาก : http://www.ladycarehealth.com/best-face-masks-for-pimples/
2. ไข่ขาวลอกสิว ส่วนใครที่มีผิวแพ้ง่าย หรือไม่ชอบของสำเร็จรูปแต่ชอบใช้ของจากธรรมชาติ ก็ต้องวิธีนี้เลยค่ะ “ไข่ขาวลอกสิวเสี้ยน” วิธีนี้ง่ายและประหยัดมากๆ เพียงแค่ตอกไข่ไก่ แล้วแยกเอาแต่เฉพาะไข่ขาวมาทาลงบนผิวหน้า จากนั้นใช้กระดาษทิชชู่โปะไว้ด้านบน ทิ้งไว้จนแห้งแล้วค่อยๆดึงออก โดยให้เริ่มดึงจากคางย้อนขึ้นมาถึงหน้าผาก สิวเสี้ยนที่ติดอยู่ก็จะหลุดออกมาพร้อมกับไข่ขาวและกระดาษทิชชู่อย่างง่ายดาย สูตรนี้ถือเป็นสูตรจากธรรมชาติที่ใครๆก็ต่างยอมรับว่าสามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้อย่างเห็นผล สาวๆคนไหนที่มีปัญหาสิวเสี้ยนก็ลองเอาไปทำกันดูนะคะ รับรองว่าได้ผลและปลอดภัยอย่างแน่นอน
[ads]
3. ทาน้ำมะนาว นอกเหนือจากการลอกสิวเสี้ยนโดยใช้แรงทางกลแล้ว ก็ยังสามารถใช้วิธีทางเคมีในการลอกเอาหัวสิวออกมาได้เช่นกัน โดยวิธีที่ว่านี้ใช้วัตถุดิบง่ายๆที่เรียกว่า ‘น้ำมะนาว’ ทำได้โดยการนำน้ำมะนาวมาทาลงบนหัวสิวเสี้ยน หากรู้สึกว่าแสบเกินไปให้ผสมน้ำเพื่อเจือจางกรดมะนาวให้น้อยลง ทำเช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็จะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นได้แล้วละค่ะ เนื่องจาก กรด Alpha Hydroxy Acids (AHA) ในน้ำมะนาว จะช่วยลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ทำให้รูขุมขนเต่งตึงกระชับ และลดโอกาสการเกิดสิวเสี้ยนให้น้อยลงด้วย
นี่เป็นเพียงตัวอย่างง่ายๆที่ช่วยในการลอกสิวเสี้ยนออกจากใบหน้า แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถช่วยกำจัดสิวเสี้ยน ที่เป็นต้นเหตุของความไม่สวยงามบนใบหน้าได้อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณสามารถกำจัดเอาสิวเสี้ยนเหล่านี้ออกไปได้แล้ว ก็ต้องอย่าลืมที่จะดูแลรักษาความสะอาดบนใบหน้าให้ดียิ่งขึ้นด้วย โดยเฉพาะการควบคุมความมันที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยน หากคุณสามารถดูแลผิวหน้าได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็คงจะช่วยให้โอกาสการเกิดสิวเสี้ยนลดน้อยลงได้อย่างแน่นอน แล้วก็ไม่ต้องมาเสียเวลาสรรหาวิธีที่จะกำจัดมันออกไปจากผิวหน้าด้วย เรียกได้ว่า ‘กันไว้ดีกว่าแก้ไขทีหลัง’ อย่างแน่นอน
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ