ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจสอบราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ท่าอากาศยานดอนเมืองของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ภายหลังมีกระแสข่าวเรื่องของการจำหน่ายในราคาสูงกว่าปกติ
นายไพรินทร์เปิดเผยว่า จากการเดินสำรวจภายในอาคาร 2 ซึ่งเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศในท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออกพบว่า มีการให้บริการร้านค้าที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้โดยสารด้วย คือ ฟู้ดคอร์ท (food court) ด้วย โดยราคาเริ่มต้นของอาหารในฟู้ดคอร์ทก็จะเริ่มต้นที่ประมาณ 60 บาท หรือประมาณ 2 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่แพงจนเกินไปหากเปรียบเทียบกับท่าอากาศยานในต่างประเทศ และระยะเวลาการให้บริการของร้านค้าเหล่านี้ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00-21.00 น. ส่วนน้ำเปล่าที่จำหน่ายก็อยู่ที่ 10 บาทเท่านั้น
นายไพรินทร์กล่าวว่า สำหรับร้านค้าโดยทั่วไปที่อยู่ภายในอาคาร 2 ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้โดยสารจะมีราคาสูงกว่าห้างสรรพสินค้าทั่วไปประมาณ 15-20% เป็นไปตามสัญญาสัมปทานที่ทางร้านทำไว้กับท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งบางร้านก็ไม่ได้ปรับขึ้นตามสัดส่วนดังกล่าว เพราะใช้ราคาเดียวกันกับสาขาที่อยู่นอกสนามบิน แต่ราคาก็จะสูงเป็นปกติอยู่แล้ว สำหรับเครื่องบริการน้ำดื่มฟรีในท่าอากาศยานดอนเมือง พบว่ามีอยู่ประมาณ 40 จุดตามพื้นที่ต่างๆ ก็ถือว่าอยู่ในสภาพดีและสะอาด
“เท่าที่เห็นร้านค้าที่ให้บริการเป็นร้านใหม่ สะอาด แต่สิ่งที่สนามบินดอนเมืองจะต้องทำเพิ่มเติมคงเป็นเรื่องของการทำให้คนรู้ว่ามีฟู้ดคอร์ทให้บริการด้วย เพราะจากการสอบถามผู้โดยสารหลายคนไม่ทราบ คนที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะมีเพียงเจ้าหน้าที่ในสนามบิน และผู้โดยสารคนจีน ดังนั้นอาจจะต้องทำลูกศรชี้บอกเส้นทางไปยังฟู้ดคอร์ท รวมถึงการประชาสัมพันธ์ และทำใบปลิวแจกเพื่อแนะนำฟู้ดคอร์ทด้วย ขณะเดียวกันก็อยากให้ใช้คำว่าสตรีทฟู้ดแทน เพราะเป็นคำที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักประเทศไทยในเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องทั้งหมดดังกล่าวจะมีการหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” นายไพรินทร์กล่าว และว่า เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องของการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสูงกว่าที่กำหนด จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยต่อไปจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
นายวิสิฏฐ์ บาลี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ตามสัมปทานที่ร้านค้าทำไว้กับท่าอากาศยานดอนเมืองจะสามารถจำหน่ายได้สูงกว่าปกติไม่เกิน 20% โดยแต่ละรายจะมีสัญญาประมาณ 3-5 ปี โดยเป็นการแข่งขันการเสนอผลตอบแทนให้กับ ทอท. ผู้ที่เสนอเงื่อนไขดีสุดจะเป็นผู้ชนะ ดังนั้นการจะปรับลดราคาลงคงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากจะมีผลถึงผู้ที่แพ้การประกวดราคาที่อาจจะมีการร้องเรียนด้วย ส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถจำหน่ายได้สูงกว่าปกติไม่เกิน 25%
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ