เสียดายอนาคต!! 2หนุ่มตกงาน อ้างจบวิศวะ ม.ดัง ควบเก๋งยกเค้าบ้านเหยื่อ7หลัง กวาดทรัพย์4ล้าน!!





 

คู่หูวิศวะ มช. จนมุมตำรวจ สน.ศาลาแดง ภายหลังก่อเหตุขับพรีอุส ตระเวนยกเค้าบ้านเหยื่อย่านฝั่งธนฯ 7 หลัง ในระยะเวลา 4 เดือนกว่า ลักทรัพย์มูลค่าร่วม 4 ล้านบาท นำขายออนไลน์ เผย ตกงาน ต้องหาเงินใช้ไปวันๆ 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ม.ค. ที่ สน.ศาลาแดง พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 พร้อม พ.ต.อ.ณฐกร คุ้มทรัพย์ ผกก.สน.ศาลาแดง แถลงข่าว จับกุมตัว นายพีระพันธุ์ หรือบอส ดุรงค์ศศินา อายุ 29 ปี ชาว จ.ตาก และ นายวิษณุ หรือเทิง ดินยุ้งศรี อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง รถเก๋งโตโยต้า รุ่นพรีอุส สีขาว ทะเบียน 5 กฐ 1776 กรุงเทพมหานคร ทองรูปพรรณ นาฬิกาข้อมือ กระเป๋าถือแบรนด์เนม พระเครื่องเลี่ยมทอง ทีวีดิจิตอล และเครื่องเล่นเกม รวม 78 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

จับกุมตัว นายพีระพันธุ์ ได้ที่ลานจอดรถเมโทรปาร์ค คอนโดเฟส 2/1 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ส่วน นายวิษณุ ถูกจับกุมตัวได้ที่ร้านข้าวต้มยันหว่าง ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.

พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 31 ธ.ค.60 ต่อเนื่องช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค.61 ซึ่งเป็นค่ำคืนที่อยู่ในช่วงเทศกาลเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้มีผู้เสียหายคือ ในพื้นที่สน.ศาลาแดง 2 ราย มีบ้านพักอยู่ติดๆ กัน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่า ช่วงปีใหม่ ได้ถูกคนร้ายชาย 2 คน ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งเงินสด พระเครื่องเลี่ยมทอง สร้อยทอง แหวนทองรูปพรรณ สูญไปรวมกันกว่า 1.3 ล้านบาท

"จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในละแวกใกล้เคียง และในตัวบ้าน สามารถได้ภาพผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายเอาไว้ได้ค่อนข้างชัดเจน และจากแผนประทุษกรรมของคนร้ายก็คล้ายคลึงกับหลักฐานคดีลักทรัพย์ในบ้านพักเหยื่อ ท้องที่อื่นๆ อาทิ สน.บางขุนเทียน สน.บางเสาธง และ สน.หลักสอง ฝ่ายสืบสวน สน.ศาลาแดง จึงขยายผลติดตามหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 2 คน จนทราบว่า นายพีระพันธุ์ และ นายวิษณุ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันเป็นผู้ลงมือและติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้" 

ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การว่า เคยเรียนด้วยกันมาจนจบการศึกษาปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อนหน้านี้เคยมีอาชีพ โดยทำธุรกิจร่วมกันเกี่ยวกับการรับจ้างขับรถยกและรถขนส่ง แต่ระยะหลังสภาพคล่องไม่ดี ทำให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับการสั่งจ่ายเช็ค จึงชักชวนกันมาก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักผู้เสียหายหลายแห่ง เพื่อหาเงินใช้จ่ายประจำวัน ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.60 จนถึงปัจจุบัน ยอมรับทำมาแล้ว 7 หลัง ได้ทรัพย์สินไปขายตามเว็บไซต์และตลาดออนไลน์ กว่า 4 ล้านบาท

"วิธีการคือ จะเลือกบ้านที่ไม่มี รปภ.แล้วขับรถทำทีไปกดออด หากไม่มีคนอยู่บ้านก็จะปีนและงัดประตูเข้าไปทำลายระบบซีซีทีวี รื้อค้นขโมยทรัพย์สิน แต่หากมีคนอยู่ก็จะอ้างว่ากดออดผิดบ้าน ทั้งนี้อยากฝากเตือนถึงผู้แสวงหาซื้อสินค้ามือสองในโลกออนไลน์ หากพบว่า มีราคาต่ำกว่าท้องตลาดมากเกินไป ขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากอาจถูกดำเนินคดีรับของโจรก็เป็นได้" 

ขณะที่ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนทำธุรกิจขายผ้าม่าน คืนวันที่เกิดเหตุตนเดินทางไปเคาต์ดาวน์กับเพื่อน ไม่มีใครอยู่บ้าน คนร้ายทั้งคู่มาถึงประมาณสองทุ่ม วันที่ 31 ธ.ค.60 โดยงัดประตูหลังบ้านเข้าไปลักทรัพย์สินด้านใน ได้เงินสด พระนางพญาเลี่ยมทอง และกระเป๋าแบรนด์เนม ไป มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท หลังจากเกิดเหตุทราบว่า ฝ่ายสืบสวนแกะรอยคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิด และแท็บเล็ตของผู้เสียหายคดีหนึ่ง ที่คนร้ายเผลอไปเปิดเครื่องที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ทำให้โดนตามจับกุม และสามารถนำพระนางพญาเลี่ยมทองมาคืนตนได้

"คนร้ายทั้ง 2 มีรูปพรรณสัณฐานดี ขับรถดี และมีการศึกษาเป็นถึงบัณฑิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่คิดว่าจะลงมือก่อเหตุได้ แต่เมื่อทางตำรวจมีหลักฐานและคนร้ายยอมรับสารภาพแบบนี้ จึงเข้าใจสัจธรรมที่ว่า คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ" 

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น.อย่างไรก็ตาม รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร วรรณฤมล รองอธิการบดี ปฏิบัติการแทนอธิการบดีในงานด้านสื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเขียงใหม่  แจ้งว่า จากการตรวจสอบไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่พบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน มีรายชื่อเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แต่อย่างใด.  

ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: