ฟังความข้าง "ตำรวจ" กรณีคดีหวย 30 ล้านเมืองกาญจน์ พลิกกลับมาข้างฝ่ายครูปรีชา หลังผบช.ภ.7 นำชุดสืบสวนสอบสวนในคดีแถลงข่าว แจงละเอียดยิบ ยืนยันสอบพยานบุคคลไปถึง 40 ปาก ให้การสอดคล้องต้องกัน..
วันที่ 31 ม.ค.61 ภายหลังการแถลงข่าวที่ อาคารชั้น 4 ห้อง ศปก.ภ.7 ศูนย์ฝึกอบรม ตร.ภ.7 โดยพล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหวย 30 ล้าน และชุดสอบสวน ได้ร่วมกันแถลงถึงผลการสืบสวนสอบสวนในคดีที่มีการแจ้งความยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัล 30 ล้านบาท หมายเลข 533726 งวดวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ ซึ่งมีผู้กล่าวอ้างเป็นเจ้าของสลาก 2 คน ระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตตำรวจ โดยจากพยานหลักฐาน สามารถยืนยันได้ว่าแม่ค้าขายให้ ครูปรีชา จริง
สำหรับการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7ผู้สื่อข่าวได้นำรายละเอียดมานำเสนอ เพื่อความชัดเจน
1. สอบสวนโดยยึด ‘พยานบุคคล’ 40 ปาก ให้การเชื่อมโยงกัน
พล.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวว่า "ประเด็นที่ต้องทำให้กระจ่างมี 3 ประเด็น 1. เส้นทางของหวยมาขายที่ตลาดจริงหรือไม่ 2. แม่ค้าขายให้ครูปรีชา จริงหรือไม่ และ 3. ร.ต.ท.จรูญ ได้สลากฯ มาอย่างไร ประเด็นที่ 1 เส้นทางของสลากกินแบ่งรัฐบาลมีพยานยืนยันว่ายี่ปั๊วขายให้กับแม่ค้าขายหวยที่ตลาดเรดซิตี้จริง ประเด็นที่ 2 มีพยานยืนยันว่าขายให้ครูปรีชาจริง และประเด็นที่ 3 ร.ต.ท.จรูญ ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าซื้อมาจริงหรือเก็บได้ ซึ่งทางตำรวจมีพยานยืนยันว่า ร.ต.ท.จรูญ เก็บสลากฯ ได้ ซึ่งพล.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 เรื่องตำรวจมีพยานบุคคล จากการสอบพยานกว่า 40 ปาก มีความเชื่อมโยงกัน และยังสอบอีกว่าทุกคนที่เป็นพยานนั้นต่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลทั้ง 2"
2. ไม่ได้ส่งซองพลาสติกตรวจ-ไม่มีภาพกล้องวงจรปิด
พล.ต.ท.กิตติพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบสวนจากพยานจนได้ความจริงว่า ร.ต.ท.จรูญ เก็บสลากฯ ได้ พร้อมอธิบายว่า ประเด็นที่เป็นข้อสงสัยเรื่องซองพลาสติกใส่สลากกินแบ่งที่ไม่ส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากทั้งแม่ค้า ครูจรูญ และตำรวจ จับซองทั้งหมด จนไม่สามารถส่งซองพลาสติกตรวจได้ ส่งแค่ตัวสลากกินแบ่งรัฐบาลตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ผลจึงพบแต่ลายนิ้วมือของ ร.ต.จรูญ ส่วนครูปรีชา นั้นให้การว่าจับแต่ซองพลาสติกที่ห่อหุ้มและไม่ได้แกะพลาสติกออกมาดู จึงไม่พบลายนิ้วมือ
"ในส่วนของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในตลาด ไม่มีภาพบันทึก เนื่องจาก กล้องบันทึกภาพเกินเวลาภาพเลยถูกลบโดยอัตโนมัติ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.60 หลังจาก ร.ต.ท.จรูญ ทราบว่าถูกลอตเตอรี่ ในวันที่ 3 พ.ย.60 จึงนำลอตเตอรี่ไปขึ้นรางวัล จนกระทั่งวันที่ 27 พ.ย.60 ครูปรีชา ได้ไปแจ้งความว่า ลอตเตอรี่หาย และถูกอายัดในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเกินเวลา 15 วัน ภาพที่บันทึกได้ลบไปหมดแล้วจึงไม่สามารถเก็บภาพได้"
3. ลุงจรูญ ไม่เคยแจ้งกับตำรวจว่ามีพยาน
ทางด้าน พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 และหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดี ระบุขั้นตอนหลังจากการแถลงข่าวแล้ว จะมีหนังสือเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา หากครั้งแรกไม่มาพบ ก็จะออกหนังสือเรียกตัวเป็นครั้งที่ 2 หากไม่มาพบก็จะเสนอขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ในส่วนข้อหาที่จะแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ที่หล่นหาย และรับของโจร โดยข้อกล่าวหารับของโจรเพราะไม่รู้ว่าใครเก็บได้จึงได้เพิ่มข้อหานี้ไป ในส่วนของ ครูปรีชา หากมีพยานเพิ่มเติมก็ขอให้แจ้งพนักงานสอบสวนมา พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนให้ แต่ที่ผ่านมาได้แต่ออกข่าวว่า มีพยานอีก 3 ปาก และตำรวจไม่ไปสอบ จึงขอชี้แจงด้วยว่าที่ผ่านมานั้น ร.ต.ท.จรูญ ไม่เคยบอกว่ามีพยาน ถ้ามี ขอให้บอกชื่อที่อยู่มาตำรวจจะไปสอบเองถึงที่บ้าน
4. มี ‘นายตำรวจ’ ช่วยต่อรองจริง แต่ต้องรอกรรมการสอบสวนก่อน
พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังเปิดโอกาสให้ ร.ต.ท.จรูญ นำพยานมาแก้ข้อกล่าวหา สำหรับสำนวนเท่าที่ตำรวจสอบสวนมานั้น ครบทุกปากแล้ว แต่ถ้าหากมีเพิ่มเติมก็พร้อมที่จะให้พนักงานสอบสวนเพิ่มลงในสำนวน ในส่วนประเด็นที่มีนายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งเจรจาต่อรองกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายนั้น อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของคณะกรรมการยังไม่สรุป จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าผิดหรือถูก ต้องรอผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวน
5. ครูปรีชาเคยพูด แบ่งคนละ 15 ล้าน-จะนำสืบในศาล
"ในส่วนของครูปรีชาที่เคยพูดจะแบ่งรางวัลให้กับ ร.ต.ท.จรูญ 15 ล้านบาท เป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนแล้วไม่อาจชี้แจงได้ เพราะต้องไปใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ตำรวจต้องทำคดีให้เป็นกลางที่สุด เพราะคดีนี้ เป็นคดีที่มีประชาชนให้ความสนใจทั้งประเทศว่าจะจบลงอย่างไร เพราะฉะนั้นจะไปเข้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้ ทำตามพยานหลักฐานที่ได้มาเท่านั้น".
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ