ผู้เชี่ยวชาญจำลองจับภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนระยะ 20 เมตร พบพฤติกรรม-ใบหน้า ไม่ชัด ชี้ไม่สามารถเอาผิดได้ ด้านรองอธิบดีสำนักงานชี้ขาด คดีอัยการสูงสุด เผยรอฟังคำตัดสินจากศาล ขออย่าเพิ่งตัดสินใคร
จากผลการสรุปสำนวนคดีหวย 30 ล้าน ที่วานนี้ (31 มกราคม 2561) พล.ต.ท. กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงว่า จากหลักฐานทั้งหมด ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ชี้ให้เห็นว่าเจ้าของตัวจริงคือ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ส่วน ร.ต.ท. จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ นั้น เป็นเพียงผู้เก็บได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีพยานบุคคลปากสำคัญ ที่ยืนยันว่าพบเห็น ร.ต.ท. จรูญ ก้มลงเก็บลอตเตอรี่ที่ตลาด และเบื้องต้นจะมีการออกหมายเรียก ร.ต.ท. จรูญ มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (31 มกราคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกล้องวงจรปิด ตัวแทนบริษัท โฟลบริด คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมกับมีการจำลองสถานการณ์ภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด โดยติดตั้งกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มุมอาคารความสูงจากพื้น 3 เมตร จับภาพคนยืนอยู่ในระยะ 20 เมตร ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 แถลงว่า พยานเห็น ร.ต.ท. จรูญ ก้มลงเก็บลอตเตอรี่ในระยะนี้ ซึ่งผลปรากฏว่า ภาพในระยะ 20 เมตร จับภาพได้แค่โครงร่างบุคคล สีเสื้อ และพฤติกรรมบางอย่าง แต่ไม่สามารถระบุหน้าตาได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ได้มีการจำลองสถานการณ์การจับภาพของกล้องวงจรปิดตัวเดียวกัน แต่จับภาพคนในระยะ 10 เมตร ซึ่งสามารถจับภาพพฤติกรรม โครงร่างตัวบุคคล หน้าตา และสีเสื้อได้ชัดเจนมากกว่า
ขณะที่ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาด คดีอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงผลการสรุปสำนวนคดีดังกล่าว ตนเองมองว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชาจริง จากหลักฐานเป็นพยานบุคคล เพราะยังไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ อาจมีการพูดเสริมเติมแต่ง หรือกลับคำให้การได้ในภายหลัง ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าพยานคนดังกล่าวนี้มาได้อย่างไร หรือใครเป็นคนพามา รวมถึงหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายลอตเตอรี่บนแผงของแม่ค้านั้น เป็นการถ่ายเก็บไว้ทุก ๆ ครั้ง หรือถ่ายไว้เฉพาะงวดที่มีปัญหา และต้นขั้วสลากมีที่ไปที่มาอย่างไร ทำไมถึงขายเกินราคา และความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ด้าน ร.ต.ท. จรูญ มีจุดอ่อนตรงที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าซื้อสลากรางวัลมาจากใคร จะมีก็เพียงลายพิมพ์นิ้วมือบนสลากเท่านั้น ซึ่งตนเองเชื่อว่าศาลคงไม่เอามาพิจารณา เพราะเป็นข้อยุติอยู่แล้วว่าจะต้องมีลายพิมพ์นิ้วมือของ ร.ต.ท. จรูญ แน่นอน เนื่องจากเป็นคนนำเอาสลากไปขึ้นเงิน
ทั้งนี้ แนวทางหลังจากนี้ หลังมีการแจ้งข้อกล่าวหายักยอกกับ ร.ต.ท. จรูญ พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนไปที่อัยการจังหวัด หากอัยการเชื่อตามที่ตำรวจเชื่อก็สั่งฟ้อง ซึ่งกรณีนี้มีคดีทางแพ่งที่ครูปรีชา ฟ้อง ร.ต.ท. จรูญ เป็นเหตุให้เกิดการอายัดเงินรางวัลค้างเก่า ซึ่งอยู่ในศาลเดียวกัน โดยศาลอาจจะให้คดีทางอาญาเสร็จก่อน เพื่อรอความเห็นคดีแพ่งชี้ก่อนว่าสลากเป็นของใคร แต่ทั้งสองคดีจะต้องไม่แย้งกัน ซึ่งหากอัยการไม่เห็นด้วยจากพยานหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนัก ก็อาจจะสั่งไม่ฟ้องได้
นายปรเมศวร์ ทิ้งท้ายว่า ตนเองขอให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินว่าใครถูก ใครผิด เพราะคนชี้ขาดคือ ผู้พิพากษา คงต้องรอดูต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ