วันที่ 1 ก.พ. รายการโหนกระแสคืนนี้เป็นกรณีของ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิตแบบมีข้อสงสัย ล่าสุดตำรวจสั่งฟ้อง เปิดข้อพิรุธ “น้องเมย” อาจถูกล็อกคอ ซี่โครงหักไม่ได้เกิดจากซีพีอาร์ โดย “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30-21.00 น. ทางช่อง 28 ได้เชิญคุณพ่อ-พิเชรษฐ ตัญกาญจน์, คุณแม่-สุกัญญา ตัญกาญจน์ และเมี่ยง-สุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาว มาเปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมประกาศชัดรู้ตัวคนทำร้ายน้องจนเสียชีวิต
โดยพิธีกรเริ่มคำถามว่า ขอย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. เป็นวันเสียชีวิตของน้อง เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
คุณแม่ “เกิดอะไรขึ้นคุณแม่ไม่ทราบ แต่มีโทรศัพท์จากผู้พันเข้ามาตอนเที่ยงกว่าๆ ได้คุยกับลูกแป๊บนึง หลังจากคุณหมอโทรมา เราได้คุยกับน้อง ซึ่งได้คุยแค่นิดเดียว น้องบอกว่ายังไม่หายป่วยเลย”
ก่อนหน้านั้นน้องเมยป่วยเหรอครับ
คุณแม่ “ที่เขาพูดกันว่าตกบันได แล้วส่งไปเอ็กซเรย์ ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีอะไรแตกหัก ปกติดี พอกลับมาส่ง เขาบอกว่าเขายังไม่หายป่วยเลย เขาบอกว่าอย่าไปเชื่อผู้พัน หลังจากนั้นอีกสักพักหนึ่ง ผู้พันก็โทรเข้ามาอีก แต่เป็นจังหวะที่ซ้อนสายกับทางคุณหมอ มันก็จะงง แป๊บนึง คุณหมอบอกว่าคุณแม่ต้องรีบมาที่โรงเรียนด่วนเลยนะ คุณแม่ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าต้องมาเดี๋ยวนี้ เราบอกว่าคุณพูดแบบนี้ใจไม่ดีแล้วนะ คือตอนนั้นมันพูดไม่ออก เรารีบไปให้เร็วที่สุด แต่ช่วง 5 โมงกว่า เราจะไปเร็วกว่านั้นไม่ได้ กว่าจะถึงก็เป็นชั่วโมง”
พอไปถึงก็ทราบว่าน้องเสียชีวิต
คุณแม่ “ทราบก่อนหน้าที่จะไปถึง เพราะคุณหมอโทรมาตลอด ถามว่าจราจรเป็นยังไง เราบอกว่าช่วยเขาก่อน ให้เราไปถึงก่อน”
ตอนไปถึง คุณแม่ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าน้องไม่มีอวัยวะบางส่วนในร่างกาย
คุณแม่ “ยังไม่ได้ทำอะไร คืนนั้นปรึกษากับเจ้าหน้าที่โรงเรียนว่าจะเคลื่อนร่างน้อง แต่คุณแม่ไม่รับอะไรแล้ว เขาพูดไป เราก็ดูลูกอย่างเดียว”
ทางครอบครัวมาทราบได้ยังไงว่าอวัยวะบางส่วนของน้องหายไป
พี่สาว “หนูนำร่างเมยไปชันสูตรครั้งที่ 2 ซึ่งเคสนี้เป็นเคสพิเศษ เขาจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แล้วจะเชิญเราไปดูด้วย ขั้นตอนชันสูตรพอเปิดกะโหลกขึ้นมาก็ไม่มีสมอง เราก็เริ่มตกใจแล้ว หมอบอกว่าอย่าเพิ่งตกใจ เพราะเขาอาจเก็บอวัยวะไว้ที่ช่องท้องอย่างเดียว แต่พอเปิดช่องท้อง ไม่มี หัวใจก็ไม่มี กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะก็ไม่มี เรียกว่าเป็นเศษปอด เศษตับ และกระดาษซับเลือดอยู่ข้างใน”
ตามข่าวเราไม่เชื่อว่าน้องจะหัวใจล้มเหลว แล้วเราเอาโลงเปล่าไปเผา ทำไมวันนั้นถึงฉุกคิด
พี่สาว “มีผู้หวังดีหลายๆ คน และเพื่อนของหนูเองโทรมาบอกว่า เมยถูกกระทืบนะ ลองเอาไปผ่าดู ซึ่งมีคนโทรมาแบบนี้เยอะมาก นั่นคือจุดเริ่มต้น วันที่ได้รับข้อมูลคือก่อนวันเผา 1 วันเอง ซึ่งเรากำหนดไว้หมดแล้ว จะยกเลิกการเผาก็ไม่ได้ เพราะแจ้งไปหมดแล้ว เลยจัดไปตามปกติ”ทางครอบครัวทราบใช่ไหมว่าตอนนั้นมีข่าวออกมาว่า เป็นแผนการของทางครอบครัวที่อยากรู้ความจริง
พี่สาว “เคยได้ยินค่ะ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น คือเขามากันแล้วก็ให้เขาทำพิธีกันไป”
ขอถามคุณแม่นิดหนึ่งก่อนที่น้องจะเสียชีวิต ร่างกายแข็งแรง มีโรคประจำตัวไหมครับ
คุณแม่ “ไม่มีค่ะ ร่างกายแข็งแรง”
การแถลงข่าวของทางคณะกรรมการ มันสวนทางกับทางคุณแม่ คุณพ่อ พี่เมี่ยง ที่พยายามบอกเราเหลือเกิน
พี่สาว “วันที่คณะกรรมการแถลงวันที่ 10 ต.ค. เมยบอกว่าตกบันได เรารับเมยมา วันที่ 12 ต.ค.เราพาเมยมาหาหมอ เพราะว่าตรงส่วนที่เขาตก มันใกล้กับกรวยไต หนูกลัวว่าจะฉีกขาด หรือมีปัญหา ก็มาเอ็กซ์เรย์ ปรากฏว่าไม่มีอะไรฉีกขาด”
แพทย์ระบุว่าหัวใจล้มเหลว แล้วมีการทำซีพีอาร์จนมีรอยหัก
พี่สาว “หนูต้องยืนยันคำพูดจากแพทย์นิติวิทยาศาสตร์นะคะ ซี่โครงของเมย ถ้าหักก่อนเสียชีวิต เลือดมันจะออก แล้วมีอาการอักเสบ แต่ถ้าหักหลังเสียชีวิตจะไม่มีอาการอักเสบ ซึ่งมันหักก่อนเมยเสียชีวิต ก็ต้องหักก่อนทำซีพีอาร์”
ครอบครัวมั่นใจว่าน้องไม่ได้หัวใจวายเฉียบพันแต่ถูกทำร้าย
พี่สาว “มันน่าจะเป็นเหตุมาก่อน ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเป็นไปได้ มันเป็นเหตุประกอบไปได้หมด หัวใจวายเฉียบพลันมันเกิดจากหลายสาเหตุ เราได้ถามกับแพทย์ แต่เราขออนุญาตไม่ระบุสาเหตุ”
แต่เมื่อวานตำรวจสั่งฟ้องผู้ต้องหา พบว่าน้องเมยโดนล็อกคอ ซี่โครงหักไม่ใช่เพราะซีพีอาร์
พี่สาว “เรื่องการล็อกคอ วันที่ไปรับผลการชันสูตร คุณหมอเขาจะอธิบายว่าเกิดจากอะไรบ้าง เราถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะถูกล็อกคอ เขาบอกว่าเป็นไปได้ เป็นการสันนิษฐาน”
อีกสิ่งหนึ่ง ณ วันนี้ อวัยวะของน้อง ครอบครัวยังไม่มั่นใจเลยว่าเป็นของน้องเมย
พี่สาว “เพราะว่าในการตรวจสอบ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นของน้องเมยไหม”
เรื่องเกิด ต.ค. จนเดือน ก.พ. แล้ว ยังไม่รู้เลย
พี่สาว “คือเรายังไม่รู้ของเมยหรือเปล่า เราไม่เคยรับเลยว่าสิ่งที่รับมาเป็นของเมยหรือเปล่า เราแค่รับมาเพื่อให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่า ใช่คู่ดีเอ็นเอของเขาหรือเปล่า ซึ่งเรายังไม่ได้รับคำตอบ”
ได้มีการสอบถามไปไหมครับ
พี่สาว “ถามค่ะ แต่เราทำความเข้าใจว่าอวัยวะพวกนี้ถูกนำมาจากพระมงกุฎ เราไม่รู้เลยว่าใช่หรือไม่ใช่ นิติวิทยาศาสตร์เป็นที่ที่ 2 ซึ่งเราเข้าใจ ไม่อยากเร่ง ถ้าผิดพลาดมันต้องผิดพลาดมาจากที่แรกใช่ไหมคะ”
คุณพ่อ “ผมถามกับที่ทางพระมงกุฎตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ของที่ส่งมามันใช่ของน้องเมยจริงหรือเปล่า ที่ถามเพราะว่าการผ่าแล้วไม่นำอวัยวะกลับไปในส่วนของร่างกาย ทำให้ผมคิด การกระทำของเขาไม่ได้บอกกล่าวผมเลย ซึ่งถ้าเผาไปแล้ว ผมจะไม่มีวันทราบเลย”
สิ่งหนึ่งที่เราอยากรู้ว่ามากคือ ครอบครัวคิดว่าการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากการถูกทำร้าย
คุณแม่ “น่าจะเป็นเหตุประกอบหลายอย่าง พระมงกุฎเองก็บอกหัวใจของน้องเมยมีการเปลี่ยนแปลงแบบนิวเคลียส ซึ่งมันเล็กมาก ไม่ได้ส่งผลเยอะ ถ้ามีอะไรไปกระตุ้นมัน คือโรคหัวใจอยู่ดีๆ มาตายเลยไม่ได้ ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงในเด็กวัย 20 กว่าๆ”
ทราบไหมว่าใครกระทำ
พี่สาว “ทราบค่ะ รู้ทุกคน ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน เพราะว่าเขาเคยไปบอกกับคนอื่น เด็กคนที่กระทำ เขาบอกเขาไม่กล้ามาขอโทษครอบครัว เพราะกระแสสังคมแรงมาก เขาเลยไม่กล้าออกมาขอโทษ เรื่องที่เขาทำเมยตั้งแต่ 23 ส.ค.จนถึงวันที่เขาเสียชีวิต เป็นเวลายาวนาน เขาน่าจะออกมาขอโทษ แต่เขาก็ไม่เคย 23 ส.ค. คือวันที่น้องโดนเอาหัวปักพื้น ที่มีผลมาถึงวันเสียชีวิต เพราะเกิดจากความแค้นที่ตัวเองโดนปลดจากตำแหน่งนั้น เหมือนเพื่อนแค้นแทนเพื่อน เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องยาว น้องเมยโดนเล่นมาตลอด”
ทำไมถึงกล้าที่จะออกมาพูดวันนี้
พี่สาว “คือเมยเขารักโรงเรียนของเขามาก เขาปกป้องชื่อเสียงโรงเรียนของเขา เราไม่อยากจะอะไรกับเขามาก แต่วันหนึ่งจิตใต้สำนึกของแต่ละคนน่าจะออกมาขอโทษให้เราเห็นหน่อย และข่าวทุกอย่างเขาก็ปล่อยกันมาว่าเมยเป็นโรคหัวใจ เมยตายเอง ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องพูด”
ถ้าเราขึ้นศาลเราต้องมีพยานและหลักฐาน เรามีพร้อมไหม
พี่สาว “คนที่ทำ คณะกรรมการการสอบสวนก็มีรายชื่อ ทางครอบครัวเราเองก็รู้ว่ามีใครบ้าง และดูมาจากของตำรวจมันสอดคล้องจากเด็กที่มาเล่าให้เราฟัง”
เรื่องนี้จะทำยังไงต่อไป
พี่สาว “ต้องไปปล่อยไปตามกระบวนการ ทางหนูเองก็พยายามหาหลักฐานมาโดยตลอด ในเมื่อเรามีแต่เอกสารทางการแพทย์ เรื่องที่หนูมาเล่าวันนี้เป็นข้อมูลลับๆ ที่มีน้องเขาอยากบอก เขาก็รักเมย แต่เขาไม่สามารถออกมาได้ เพราะเขาอยากจะมีชีวิตในโรงเรียนนี้ต่อไป”
ขอบคุณข่าวจาก : โหนกระแส, ข่าวสดออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ