เยี่ยมบ้าน ตายายเก็บเห็ด คดีในตำนานที่กาฬสินธุ์ พบบ้านเงียบเหงา รถไถถูกจอดทิ้ง ญาติไปเยี่ยมทุกอาทิตย์เผยอาจได้ออกเร็วกว่ากำหนด ที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 5 ปี เพราะเป็นนักโทษชั้นดีมาก ลุ้นเดือนนี้อาจมีข่าวดี ยังเชื่อเข้าไปเก็บเห็ด ไม่ได้ร่วมแก๊งไม้เถื่อน..
จากกรณีคดีดังที่เรียกกันว่า คดีตายายเก็บเห็ด นายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมในข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง หรือ กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการกระทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรารัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต (ป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง) ตั้งแต่ปี 2553
ต่อมาในปี 2554 ถูกศาลจังหวัดกาฬสินธุ์พิพากษาจำคุกคนละ 30 ปี ลดโทษเหลือ 15 ปี ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา แก้จำคุกเป็น 14 ปี 12 เดือน และเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกสองสามีภรรยา คนละ 5 ปี
ล่าสุด วันที่ 7 ก.พ.61 หลังจากคดีนี้ถูกพูดถึงอีกครั้ง จากกรณีมีการจับกุมผู้ที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝังตะวันตก จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านหนองกุงไทย ม.4 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ บ้านนายอุดม และนางแดง ศิริสอน อายุ 51 ปี ซึ่งทั้งสองยังจำคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ มีรถบรรทุก 6 ล้อ สภาพเก่า ติดสติกเกอร์ ข้อความ “รับยกบ้าน” ไว้ข้างรถจอดอยู่ข้าง บริเวณหน้าบ้านมีรถไถนาเดินตาม รถจักรยานยนต์สภาพเก่า และมีคอกวัวโดยบ้านถูกปิดไว้ไม่มีใครอยู่
จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า ปกติบ้านหลังดังกล่าว จะมีน้องสาวเจ้าของบ้านอยู่ดูแล แต่จะออกไปเลี้ยงวัวนอกหมู่บ้าน และมีญาติชื่อนายนายเกษม ศรีภูธร อายุ 51 ปี ที่จะคอยไปเยี่ยมทั้งสองที่เรือนจำเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยนายเกษม เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลตัดสินให้ทั้งสองจำคุกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ตนและญาติได้เข้าไปเยี่ยมเป็นประจำ โดยเฉพาะตนจะไปทุกสัปดาห์ เพื่อนำเงินไปให้ทั้งสองใช้จ่ายในเรือนจำ สัปดาห์ละ 500 บาท ส่วนสุขภาพ ทราบว่ามีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นประจำ ซึ่งญาติทุกๆ คนต่างก็ให้กำลังใจ และทั้งสองเป็นนักโทษในระดับดีมากมานานหลายเดือน หากอยู่ในระดับดีเยี่ยมก็จะได้ออกมาเร็วๆ นี้
"สอบถามจากผู้รู้เบื้องต้น คาดว่าอาจจะได้ออกภายในเดือนนี้ แต่ก็ยังไม่ต้องเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ซึ่งหากทั้งสองออกมาก็จะมาประกอบอาชีพทำไร่ทำนารับจ้างทั่วไปเหมือนเดิม ส่วนบ้านหลังนั้นได้ให้น้องสาวอยู่เฝ้า แต่ตอนกลางวันน้องสาวจะออกไปเลี้ยงวัว นำวัวออกไปกินหญ้านอกหมู่บ้านจะกลับก็ช่วงเย็น ซึ่งวัวที่เลี้ยงหากโตเต็มที่ก็จะนำไปขาย นำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือสองสามีภรรยาที่อยู่ในเรือนจำ" นายเกษม กล่าว และเผยด้วยว่า ตามที่มีคนบอกว่า สาเหตุทั้งสองคนถูกจับ ไม่ใช่เรื่องเก็บเห็ด แต่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้ ตนขอบอกเท่าที่ทราบสองสามีภรรยาก็มีอาชีพทำไร่ทำนา และยังมีฐานะยากจน โดยปกติทั้งสองจะเข้าไปป่าดงระแนงเพื่อหาเก็บเห็ดเหมือนกับชาวบ้านทั่วไปเท่านั้น แต่ขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่มาพบเห็นในช่วงมีการตัดไม้พอดี ซึ่งถูกจับดำเนินคดีทั้ง 2 คนและถูกตัดสินจำคุก ตอนนี้ทำได้เพียงรอทั้งสองออกมาจากเรือนจำเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างในการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ถึงแม้ทั้งสองจะอ้างว่า เพียงเข้าไปเก็บเห็ดเท่านั้น แต่จากพยานหลักฐาน ที่ทำให้ศาลมีคำพิพากษาจำคุก จนมีผู้นำไปโยงกับคดีล่าสัตว์ป่าที่กำลังข่าวดังอยู่ในขณะนี้.
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ