อาจารย์ยืนยันไม่ได้ให้นิสิตกราบเท้า จนท.ศูนย์ไร้ที่พึ่งขอนแก่น หลังนิสิตฝึกงานแฉปมทุจริตปลอมลายเซ็นอมเงินคนไร้ที่พึ่ง(มีคลิป)





 

ตามที่มีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจารย์สั่งให้นิสิตภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบเท้าเจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ซึ่งทาง ปปท. ชี้มูลว่ามีการกระทำทุจริตเกิดขึ้นในองค์กร

ซึ่งจากกระแสข่าวที่ออกไป ขอยืนยันว่า ทางอาจารย์ ไม่ได้สั่งให้นิสิตกราบเท้าเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด วันนั้น เป็นวันที่อาจารย์ลงไปนิเทศน์นิสิต และมีการพูดคุยกันถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางอาจารย์ ไม่สามารถก้าวล่วงหรือไปกล่าวหาว่ามีการทุจริตในองค์กร อาจารย์ลงไปดูแลในส่วนของนิสิต ซึ่งภายหลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ ทางอาจารย์ก็ถามความสมัครใจของนิสิตว่า ประสงค์ที่จะฝึกงานต่อหรือไม่ ซึ่งนิสิตก็ตกลงที่จะฝึกงานที่เดิมต่อ เพราะเหลืออีกไม่กี่สัปดาห์การฝึกงานก็จะสิ้นสุดลง

 

 

ล่าสุด ทางอาจารย์เปิดแชทไลน์ ระหว่างอาจารย์กับ 1 ใน 4 นิสิต ที่นิสิตไลน์มาหาอาจารย์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีข้อความหนึ่งระบุว่า ในเรื่องของกราบเท้านั้น อาจารย์ไม่ได้บอกให้กราบ จึงอยากให้สังคมเข้าใจ และเห็นใจตัวอาจารย์ด้วย ซึ่งข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้นก็เหมือนกับว่าอาจารย์ตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

ด้านคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ตั้งแต่มีหนังสือจาก ปปท. มาถึงที่คณะ ทางคณะก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการคุยกันเบื้องต้นกับนิสิต และมีหนังสือ จาก ปปช. ให้ทางมหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ว่านิสิตได้ไปดำเนินการจริงอย่างที่ระบุมาในหนังสือหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำหนังสือกลับไปยังหน่วยงานแล้ว ณ ปัจจุบันได้ดำเนินการ 2 ส่วนคือ

1.ให้นิสิตย้ายพื้นที่ฝึกงาน จากที่เดิมฝึกที่ศูนย์พักพิงคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ให้มาฝึกงานภายในพื้นที่มหาสารคามแทน โดยทางภาควิชาและคณะได้จัดหาสถานที่ฝึกงานให้กับนิสิต เราพยายามดูแลนิสิต เพื่อให้สามารถฝึกงานให้จบตามหลักสูตรได้ภายในเทอมนี้

2.ดำเนินการตามคำสั่งของมหาวิทยาลัย คือ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้มีการเรียกนิสิตเข้ามาพูดคุย ใช้เวลาซักถามคนละประมาณ 15 นาที ซึ่งคาดว่าจะตรวจสอบเสร็จทั้งกระบวนการจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน ซึ่งจะรายงานผลให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ

ส่วนในเรื่องของความกล้าหาญของนิสิตที่ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก็ต้องชมเชย เป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่ช่องทางการดำเนินการนั้นมีหลายช่องทาง อันนี้เราก็รับรู้เรื่องนี้กันอยู่ เสียดายที่มารู้ช้าเกินไป ตัวนิสิตดำเนินการไปหมดแล้ว สิ่งที่กังวลก็คือ เราไม่รู้ว่ามีใครอยู่ในสำนักงานนั้นบ้าง มีใครที่มีความขัดแย้งกันภายใน และนิสิตจะกลายเป็นเครื่องมือให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่กังวล ในเรื่องของการจบการศึกษา อยากให้นิสิตมั่นใจว่าจะจบการศึกษาตามระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน

ข่าวจาก : เรื่องเล่าเช้านี้

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: