จอดแค่10นาทีจริงๆ!! ปกติจอดที่อื่นแต่วันนั้นจำเป็น สำนึกผิดแล้วที่พูดไม่ดี วอนสังคมอย่าด่าครอบครัว(มีคลิป)

Advertisement

กลายเป็นกระแสสุดร้อนแรง สำหรับคลิป “คุณป้าทุบรถ” ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโลกโซเชียล แต่ดูเหมือนสังคมส่วนใหญ่จะเข้าใจและเห็นใจ “คุณป้า” มากกว่าแถมซ้ำร้ายกว่านั้นเจ้าของรถถูกด่ายับเยิน

ซึ่งหลังจากคุณป้าและครอบครัวเปิดใจแถลงข่าวไปแล้ว รายการ “โหนกระแส” คืนนี้ โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 – 21.00 น. ทางช่อง 28 จึงได้เชิญเจ้า คุณรชริกร เลิศวาสนา (เจ้าของรถ) และ คุณจิรพรรณ เลิศวาสนา (พี่สาว ซึ่งเป็นเจ้าของรถตัวจริง) ออกมาเปิดใจอีกครั้ง

วันนั้นเกิดอะไรขึ้น
แก้ว เจ้าของรถ “วันนั้นเราออกจากบ้านแถวสวนหลวง และก็มาที่ตลาดเพื่อจะมาซื้อ ไปซื้อปลากะพงทอดน้ำปลา เอาไปฝากน้องสาว บ้านจริงๆไม่ได้อยู่แถวนั้น อยู่มหาชัย เราไปหาเพื่อนมาก่อนแล้วแวะซื้อของ”

แถวนั้นไม่มีที่จอดรถเหรอ
แก้ว เจ้าของรถ “คือวันนั้นเราขับมารถเยอะมาก เราไป 11 โมงแล้วคนน่าจะน้อยกว่านี้ เพราะตลาดปิดแค่เที่ยง เราไปตอนนั้นตลอดทางไม่มีที่จอดรถเลย จนมาเจอตรงนี้แหละ ซึ่งมันมีรถจอดอยู่เต็มถนนเลยสองข้างทาง มีช่องว่าแค่ช่องเดียวคือหน้าบ้านของคุณป้าเขา”

ตอนนั้นทราบมั้ยมีป้ายอยู่ ทำไมถึงไปจอดขวางหน้าบ้าน
แก้ว เจ้าของรถ “เพราะเราตั้งใจจะจอดแค่ชั่วคราว และเราเห็นสลิง 2 เส้นด้วย พร้อมกุญแจล็อค คิดว่าบ้านนี้คงไม่มีคนอยู่จริงๆ ยอมรับจริงๆว่าไม่อ่านป้าย เพราะจะจอดแค่ชั่วคราวจริงๆ รีบมาแล้วรีบไป ลงไปซื้อไม่นาน แต่บังเอิญว่าวันนั้นปลาทอดไม่ขายก็เลยเดินเลยไปอีกนิดไปซื้อหมูทอดแทนและก็วนกลับ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที”

ในระหว่างที่เราเดินกลับมาเรารู้มั้ยว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้น
แก้ว เจ้าของรถ “เราได้ยินเสียงแตร แล้วเห็นคนเต็มไปหมดเลยแต่เราไม่เห็นรถเรา แล้วเราเข้าใจไปแล้วว่าบ้านนั้นไม่มีคนอยู่ คงไม่ใช่รถเรา พอเดินกลับมาถึงก็ได้ยินเสียง เจ้าของรถอยู่ไหนเนี่ยรถโดนทุบแล้วเราก็เลยแสดงตัว รีบวิ่งไปทางหลังรถเลย”

ตอนนั้นเห็นรถเราเป็นยังไง
แก้ว เจ้าของรถ “ตอนนั้นยังไม่เห็นรถสภาพรถตัวเอง คือไม่ได้ตั้งใจมองรถตัวเองเลย มองป้าก่อน ด้วยสามัญสำนึกก็ต้องขอโทษก่อน หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก็ยกมือขอโทษคุณป้าไป หนูพูดเลยว่าหนูขอโทษจริงๆคิดว่าไม่มีคนอยู่”

แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น มีข่าวออกมาว่ารถยังไม่ได้ถูกทุบแต่เราไปยืนเย้ยหยันอยู่ที่รถ
แก้ว เจ้าของรถ “ไม่ได้เป็นแบบนั้น คือ ภาพที่เห็นเป็นภาพที่หนูยิ้ม แต่ไม่ได้ยิ้มเย้ยคุณป้าเลย หนูรู้สึกผิดแล้ว หนูไม่ควรไปทำกิริยาแบบนั้นใส่คุณป้า แต่หนูยิ้มให้กับคนข้างๆ เพราะมีคนบอกว่าน้องใจเย็นๆ เราก็ยิ้มให้ขอบคุณคะ แต่จริงๆ รถโดนทุบก่อนแล้ว”

แต่มีกระแสข่าวออกมาว่ารถโดนทุบไปแล้วน้องเดินไปเก็บของปุ๊บเดินออกไปซื้อของต่ออีกไม่สนใจ
แก้ว เจ้าของรถ “หนูคงมาทำแบบนั้นหรอกคะพี่ เพราะว่า ณ เวลานั้นหนูเห็นรถแล้วว่ากระจกแตกแล้ว หนูเปิดรถเพื่อเก็บของแล้วไปเอากรมธรรม์เพื่อแจ้งประกันกับตำรวจ ก็ปิดประตูโทรหาประกันเลยแล้วเดินไปรอบรถดูว่ารถหนูเสียหายตรงไหนบ้างจะได้แจ้งประกันหนูไม่ได้ไปไหน หนูอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา”

คุณป้าเขาพูดอะไรกับเราบ้าง
แก้ว เจ้าของรถ “คุณเขาว่าหนูมาจอดรถขวาง ตอนนั้นหนูสำนึกผิดและขอโทษแล้ว แต่หนูทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนรอตำรวจ”

ตอนแรกมีข่าวบ้านหลังมีคนป่วยเขาจะออกจากบ้านออกไม่ได้เลยทำให้คนป่วยเสียชีวิต ได้ยินมามั้ย
แก้ว เจ้าของรถ “ได้ยินมาหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้วเพราะก่อนหน้านั้นหนูไม่รู้ว่าบ้านนี้เกิดเหตุอะไรขึ้น ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้พอข่าวออกมาก็เหมือนจะมีคนมองว่าเราเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้หรือเปล่ากลายเป็นเราเป็นฆาตกร ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นไปแล้ว กลับบ้านข้างๆไม่ใช่บ้านคุณป้า”

วันนั้นมีคนบอกว่าคุณแก้วพูดว่าหนูได้ยินเสียงแตรแล้วแต่หนูยังซื้อของไม่เสร็จเลยไม่ได้เดินกลับมา
แก้ว เจ้าของรถ “หนูไม่ได้พูดค่ะหนูอาจจะพูดว่าหนูได้ยินเสียงแตรแล้วแค่นั้น ไม่มีแน่นอน เพราะตอนนั้นรถหนูโดนทุบเรียบร้อยแล้ว ต้องรอประกันซึ่งหนูไม่สามารถไปไหนได้ หนูก็ห่วงรถของหนู”

มีบางกระแสบอกว่าเกิน 10 นาทีแน่นอน เพราะขนาดคลิปยังเกิน 10 นาที
แก้ว เจ้าของรถ “เป็นไปไม่ได้ เพราะหนูจากบ้านเพื่อนตอน 11 โมง ที่บอกว่าเกิน 10 นาที ในคลิป อาจจะเป็นตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนถึงประกันกับตำรวจมา หนูถึงได้เลื่อนรถออกมันก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แต่ที่เดินลงไปจนกลับมาไม่เกิน 10 นาทีแน่นอน มั่นใจ”

ทำไมถึงไม่เลื่อนรถ
แก้ว เจ้าของรถ “เลื่อนไม่ได้เพราะรถอยู่ประกัน หนูต้องการให้ประกันเห็นเพราะรถหนูมันเสียหาย เวลารถโดนชนเราก็ต้องรอประกัน หนูไม่อยากคลาดเคลื่อน ก็ต้องรอประกัน”

หลังจากนั้นก็ไปที่โรงพักเลย ทำไมไปที่โรงพัก
น้ำ พี่สาว (เจ้าของรถตัวจริง) “ด้วยความที่รถเป็นชื่อของหนูเอง เป็นของพี่หนูก็ต้องติดต่อกับประกันในเรื่องการเคลม ถ้าไม่ได้ไปแจ้งความที่โรงพัก ประกันก็จะไม่ได้มาดำเนินการให้ ประกันเขารอไปพร้อมกับหนูเลย”

มีคำพูดว่ารู้ว่าหนูผิด แต่หนูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คำพูดนี้ มันดูรุนแรง
แก้ว เจ้าของรถ “มันเป็นเรื่องกฏหมาย หนูก็ต้องดำเนินเรื่องไปตามกฎหมายเพราะประกันจะได้จบเรื่องที่จะต้องมาเคลมให้หนู”

สังคมรับไม่ได้ตรงที่คุณแก้วพูดว่าถ้าจะมีคนเจ็บคนป่วยออกจากบ้านไม่ได้ก็เป็นครอบครัวของคุณป้าไม่ใช่เรื่องของหนู ทำไมพูดคำนี้
แก้ว เจ้าของรถ “หนูต้องขอโทษกับคำพูดคำนี้ คือจริงๆ ณ เวลานั้นหนูมีอารมณ์อยู่ก็เลยพูดคำนั้นออกไป แต่พอมาวันนี้กลับมาถึงบ้านหนูก็โดนที่บ้านว่าเหมือนกัน ถ้าเป็นพ่อแม่ตัวเองล่ะ ทำไมพูดคำนี้ออกไป หนูก็เลยเข้าใจว่าเป็นคำที่ไม่ควรพูดออกไป”

น้ำ พี่สาว (เจ้าของรถตัวจริง) “โดยปกติส่วนตัวน้อง จะเป็นคนที่พูดตรงๆ เราก็บอกว่าการที่เราพูดตรงๆ เราก็ต้องเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งเหมือนกันว่าเขารู้สึกยังไง มันคงเป็นอารมณ์ที่เขาระงับไม่ได้ ณ เวลานั้น แต่เขาไม่มีเจตนาที่จะไปซ้ำเติม”

ผมถามจริงๆ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคุณแก้วบ้างจะทำยังไง
น้ำ พี่สาว (เจ้าของรถตัวจริง) “หนูเข้าใจความรู้ของเขาวันนั้น เป็นอุทาหรณ์ให้กับน้องเหมือนกันว่าการที่พูดไม่ควรใส่อารมณ์นะควรจะควบคุมอารมณ์ให้ได้”
แก้ว เจ้าของรถ “รู้สึกผิดมาก หลังจากที่รับรู้เรื่องของคุณป้าแล้ว หนูขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจ ที่สังคมว่าทุกเรื่อง ตอนนี้เรื่องบานปลายมาถึงครอบครัวหนูแล้ว ขอให้เห็นใจ คนอื่นเขาไม่ได้ทำ คนทำคือหนู มันมีภาพออกมาที่น้องสาวหนูไปนั่งดื่มไวน์ ซึ่งไม่ใช่หนู แต่มีคนไปด่าเขา หนูไม่อยากให้น้องสาวหนู ทั้งๆ ที่น้องไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกัน”

ขอบคุณข้อมูลจาก : ข่าวสดออนไลน์, โหนกระแส (Hone-Krasae) Official

• Facebook
• Twitter
• Line