เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปขอโชคขอลาภจากเรือโบราณยุครัชกาลที่ 5 ภายในวัดสุดสวาดิ์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า ในวันนี้เป็นวันพระใหญ่ วันมาฆะบูชา ทำให้มีประชาชนพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาทำบุญตักบาตร หลังจากเสร็จพิธีทางสงฆ์ และมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเดินไปที่บริเวณเรือโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลาการเปรียญมากนัก ต่างจุดธูปเทียนกราบไหว้เรือเก่าแก่ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดี แต่ก็มีบางส่วนที่ผุพังเสียหายตามสภาพความเก่า ส่วนที่บริเวณหัวเรือจะมีป้ายเขียนเอาไว้ ว่า เจ้าแม่สไบเงิน สไบทอง นอกจากนี้ ยังมีชุดไทยสีเงินและสีทองอีกจำนวนหลายชุดแขวนเอาไว้ด้วย
พระครูประภัศร์โสตถิคุณ เจ้าอาวาสวัดสุดสวาสดิ์ กล่าวว่า เรือลำดังกล่าว มีนายทหารนำมาถวายให้กับทางวัด จึงได้เก็บรักษาเอาไว้ เพราะเห็นว่าเป็นเรือเก่าแก่ยุคโบราณ โดยผู้ที่นำมาถวายวัดวัด ปัจจุบันได้มาบวชอยู่ในวัดนี้ด้วย หลังจากนำเรือมาไว้ที่นี้ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาขอโชคลาภ และมีผู้ถูกรางวัลนำสิ่งของเครื่องไหว้มาถวาย และชุดไทยจำนวนหนึ่ง
ด้าน นางสมจิต บัวมีธูป อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.2 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า หลังจากวัดได้รับถวายเรือลำนี้มา มีผู้คนมากราบไหว้ขอโชคขอลาภกันเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันหวยออก ตนลองมากราบไหว้ดูบ้าง พร้อมกับเอ่ยขอโชคจากแม่สไบเงิน สไบทอง ว่าถ้ามีโชคจะนำเครื่องสำอางมาถวาย ปรากฏว่าในงวดนั้นตนได้ถูกรางวัลมีโชคลาภจริง จึงนำเครื่องสำอางมาถวายเจ้าแม่สไบเงิน สไบทอง พร้อมขนมทองหยิบ ทองหยอด พร้อมชุดไทยสีเงินสีทองมาถวาย นอกจากนั้นยังมีคนอื่นได้รับโชคตามๆกัน
พระสวง จันทโสภโณ พระลูกวัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือเกาแก่โบราณลำนี้ เปิดเผยว่า เรือลำนี้เป็นของโยมพ่อโยมแม่ของ พล.ต.วิเชียร ชูปรีชา สมัยเป็นผู้การจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ในปีนั้นจังหวัดทหารบกเล่นเรืออยู่ 2 ลำ คือ บันเทิงทัพนาวา กับเทพบันเทิงทัพ ช่วงนั้นท่านเป็นผู้จัดการเรือ จึงไปเอาเรือจากที่บ้านมา จะเรียกว่าเรือเอี้ยมจุ๊น หรือเรือสองแจว ซึ่งมีแจวยาวๆ 2 อัน สมัยก่อนน่าจะเป็นที่โยมพ่อโยแม่ของท่านค้าขาย นำมาจากจ.นครปฐม พอมาใช้ในงานสมโภชหลวงพ่อพุทธชินราช 400 ปี ช่วงนั้นยังมีสภาพสมบูรณ์ดี ในช่วงที่ท่านยังอยู่ สามารถเอาลงน้ำใช้งานได้ พอทาง พล.ต.วิเชียรย้ายไป ทำให้ไม่มีคนดูแลจึงนำมาขึ้นไว้บนบก หลังจากนั้นที่กองร้อยไม่มีที่เก็บ ได้นำไปปลูกต้นไม้ จึงทำให้เรือผุพัง
พระสวง กล่าวต่อว่า ในช่วงนั้นอาตมายังรับราชการทหาร จึงได้ไปขอจาก ร.อ.สุเทพ เพชรพินิจ ในขณะนั้น เนื่องจากตอนนั้นทางภรรยาของตนฝัน มีแม่ย่านางมาบอกว่า ร้อนเพราะตากอยู่กลางแดด ช่วยเอาเข้าร่มหน่อย ซึ่งทางภรรยาของตนไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นเรือเลย ถามว่ามีเรืออะไรอยู่ที่ตรงไหนไหม ตนจึงบอกไปว่ามีอยู่ที่กองร้อย จึงพากันไปขอ พอภรรยาไปเห็นบอกว่าใช่ๆ และนำมาไว้ข้างบ้านในค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คิดว่าจะซ่อมบูรณะ เพราะตอนนั้นเป็นทหารเป็นช่างซ่อมเรือด้วย
พระสวง กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น ได้ย้ายบ้านมาทำโรงเก็บไว้และนำมาถวายวัด เพราะเหมือนว่าแม่ย่านางอ่อนแรงบารมีจะหมด จะได้มาฟังเสียงสวดมนต์ เป็นเรือไม้ตะเคียนทองทั้งต้น แต่ก่อนยังครบสมบูรณ์ จะเหมือนกับเรือนยุกรัชกาลที่ 5 ภายในวัดราชบูรณะเช่นกัน นอกจากนี้ ในช่วงที่ตนรับราชการ ทางภรรยาได้จุดธูปและนำเครื่องเซ่นไหว้ทุกวันพระ ปรากฏว่า ภรรยาของตนถูกรางวัลที่ 1 งวดเดือน พ.ค. 2558 ซึ่งต่อมาตนคิดว่าน่าจะนำมาถวายวัด หากปล่อยทิ้งเอาไว้จะผุพัง จึงเป็นเหตุต้องนำเรือลำดังกล่าวมาอยู่ที่วัดสุดสวาดิ์เวลานี้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ